ราคาทองยังถูกกดดันอย่างหนักจากการแข็งค่าของเงินดอลาร์สหรัฐ ทองในประเทศเช้านี้ร่วงอีก 100
โดยราคาทองคำยังถูกกดดันอย่างหนันกจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านผ่านมาได้มีมติยุติโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตราการ QE รวมถึง การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ได้ประกาศซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมอย่างเหนือการคาดหมาย เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ส่งผลกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงหนักหลุดระดับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้สกัดความน่าสนใจของทองคำในฐานะะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่ได้ประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรแล้ว สหรัฐยังได้เปิดเผย ยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงและการพุ่งขึ้นของงบรายจ่ายในการป้องกันประเทศทำให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวมากขึ้นในไตรมาส 3
โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเ(จีดีพี) สหรัฐเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 3.0% ได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้พุ่งขึ้น ประกอบกับการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายครั้งใหม่โดยเพิ่มวงเงินในการทำนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (QE) เป็น 80 ล้านล้านเยนต่อปีจากเดิมที่ระดับ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปีและเพิ่มวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลขึ้นราว 30 ล้านล้านเยน โดยขยายระยะเวลาเฉลี่ยการถือครองพันธบัตรรัฐบาลเป็น 10 ปี และเพิ่มวงเงินในซื้อกองทุน ETF และกองทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ขึ้น 3 เท่า ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาด ซึ่งได้ส่งผลให้สกุลเงินเยนดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และปัจจัยดังกล่าวได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกดดันให้ราคาทองร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,180 ดอลลาร์ออนซ์ ซึ่งทำสถิติร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี ทั้งนี้
ขณะที่สัปดาห์นี้ประเด็นที่ต้องติดตามที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ อยู่ที่ การประกาศตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) โดยคาดการจากตลาดเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคม คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 230,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 5.9% ดังนั้น แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะผันผวนตามตัวเลขดังกล่าว ส่วนประชุมธนาคารกลางยุโรป ช่วงกลางสัปดาห์คาดการณ์ว่าจะมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0.05% รวมทั้งไม่มีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำในประเทศช่วงปลายสัปดาห์ลงแรงกว่า 500 บาท ส่วนเปิดตลาดต้นสัปดาห์ต้นเดือนพฤศจิกายน พบว่า ร่วงลงอีก 100 บาท ส่วนเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลพยุงราคาทองในประเทศไม่ให้ลดลงได้มาก
บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด สัปดาห์นี้แนะนำให้ติดตามตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ รวมถึงคำแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปภายหลังการประชุม ที่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณที่จะออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ โดยสัปดาห์นี้ ให้ราคาทองคำมีแนวรับไว้ที่ 1,160 และ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,200 และ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ.
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง