ทองลดลง 2 วัน จากดอลลาร์แข็งขานรับเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง คาดยังทรงตัวเหนือ $1,220 รอปัจจัยใหม่
โดยราคาทองคำปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 หลังจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ เนื่องมาจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และส่งผลกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทองคำปรับตัวลดลง หลังจากที่สกุลดอลลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ จึงให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายด้วยดอลลาร์สหรัฐ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ปรับตัวลง 3,000 ราย แตะที่ 294,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใน 3 สัปดาห์ นับเป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนพฤศจิกายน ว่าปรับตัวขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนตุลาคม เนื่องจากผู้ประกอบการของสหรัฐได้เตรียมสินค้าเข้าสต็อกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุด
ขณะเดียวกัน จากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ยังส่งผลกดดันให้ทองคำปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม ทองคำลดลงได้ในกรอบที่จำกัดหลังได้รับแรงแรงหนุน จากรายงานของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่สุดของโลก ว่าได้ปรับเพิ่มการถือครองทองคำเพิ่มเติม 3 วันติดต่อกัน
ด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศปรับลงทั้งหมด 3 ครั้งรวม 150 บาท ส่วนเปิดตลาดเช้าวันนี้ ขึ้น 50 บาท ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้ แต่คาดว่าระยะนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวทรงตัว
ส่วนแนวโน้มราคาทองคำ นักวิเคราะห์มองว่า ระยะนี้ทองคำขึ้นลงตามกระแสข่าวที่เข้ามารายวัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่อาจสามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ เพราะฉนั้นต้องติดตามกระแสข่าวต่างๆ อย่างใกล้ชิด
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองทางเทคนิค บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า เมื่อวานนี้ราคาทองคำอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนทำให้ราคาทองฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดทรงตัวที่ระดับปิดของวันพุธ ภาพทางเทคนิคของราคาทองยังคงมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 1,220 และ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป หากสามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,250-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง