ทองพุ่งต่อ ขานรับอีซีบีใช้มาตราการ QE สูงเกินคาด ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นเพียง 150
โดยราคาทองคำตลาดนิวยอร์กกลับมาปิดบวกอีกครั้ง และกลับมายืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ครั้งใหญ่ ด้วยการซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ซึ่งเกินความคาดหมายของตลาด
ทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรป ประกาศซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนจนถึงเดือนกันยายนปีหน้า(2559) โดยเริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2558 เป็นต้นไป ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าธนาคารกลางยุโปรจะใช้วงเงิน 5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในการซื้อพันธบัตร
นาย มาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ระบุว่า การซื้อพันธบัตรรายเดือนจากภาคเอกชนและภาครัฐจะมีมูลค่ารวม 6 หมื่นล้านยูโร โดยอีซีบีตั้งใจจะซื้อพันธบัตรไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนปี 2016 หรืออาจซื้อไปจนกว่าเราจะเห็นการปรับตัวอย่างยั่งยืนของตัวเลขเงินเฟ้อ โดยอีซีบีตั้งเป้าตัวเลขเงินเฟ้อเอาไว้ที่ราว 2% ในระยะกลาง โดยอีซีบีจะซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงกรีซ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขเพิ่มเติมบางประการ
ทั้งนี้ นายดรากีกล่าวว่า อีซีบีตัดสินใจใช้มาตรการคิวอีก็เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง 2 ประการ
1. คือความเปลี่ยนของอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องมากกว่าที่คาดเอาไว้ และ
2. คือปัจจัยการผลิตเหลือใช้ (Economic slack) ในยูโรโซนยังคงมีขนาดใหญ่ และพัฒนาการด้านการเงินและความน่าเชื่อถือยังคงอ่อนตัวลงเรื่อยๆ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโปร ยังได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ -0.20% และตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ 0.30%
ขณะที่ ประเด็นถัดไปต่อจากนี้ ที่่นักลงทุนให้ความสนใจจับตาดู อยู่ที่ผลการเลือกตั้งของกรีซในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ โดยผลการสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่า พรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านและต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ยังคงมีคะแนนนำเหนือพรรคนิวเดโมเครซี(ND) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการการปรับขึ้นของราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และ นั่นเป็นสิ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองคำในประเทศเคลื่อนไหว 4 ครั้ง เป็นการปรับขึ้น 1 คร้ั้งลดลง 3 ครั้ง ราคารวมพบว่าทองลดลง 200 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกลดลงจากแรงเทขายและปัจจัยทางเทคนิคบวกกับการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท ขณะที่เปิดตลาดทองคำในประเทศเช้าวันนี้ ทองปรับขึ้น 150 บาท หลังทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างไรก็ตามเงินบาทปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทองคำในประเทศยังแข็งค่าจึงทำให้ทองคำในประเทศปรับขึ้นได้น้อยกว่าปกติ ซึ่งแนวโน้มเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า หลังได้รับผลกระทบจากที่อีซีบีใช้มาตราการ QE
แนวโน้มราคาทองคำในทางเทคนิค กลุ่ม บริษัท วายแอลจี ประเมินว่า หากแรงขายทองคำไม่มากจนราคาหลุดแนวรับสำคัญ ประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะค่อยๆ ขยับขึ้นเข้าทดสอบแนวต้านใกล้ระดับ 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และหากทะลุไปได้จะเกิดแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นไว้ที่ 1,277 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับสำคัญที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง