ทองปิดบวกเล็กน้อย จากแรงหนุนยอดค้าปลีกสหรัฐอ่อนแอ ในประเทศบาทแนวโน้มแข็งค่า ทองคงที่
โดยราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันแรก ในรอบ 9 วันทำการ เนื่องจากเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์
ทองคำกลับได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.31% โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขยอดค้าปลีกประจำเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 0.6% สู่ระดับ 4.37 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
นอกจากนี้ การร่วงลงของยอดค้าปลีกสหรัฐยังส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ อันเนื่องมาจากตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 12 ปี
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ หลังจากค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าส่งผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศให้ปรับตัวลดลงได้น้อยกว่าปกติ ในยามที่ทองคำตลาดโลกร่วงหนัก หลังจากการประชุมของ กนง. มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% แล้วนั้น เมือวานนี้ ราคาทองในประเทศพบการเคลื่อนไหว 6 ครั้งโดยเป็นการปรับลดลง 3 ครั้งและปรับเพิ่ม 3 ครั้งสรุปราคาปิดตลาดพบว่า ทองลดลง 100 บาท ส่วนเช้าวันนี้ เปิดตลาดทองคำในประเทศ พบว่า ราคาคงที่ จากราคาปิดเมื่อวาน ขณะที่ค่าเงินเช้านี้ทรงตัว โดยแนวโน้มการเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้นหลังจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญานอ่อนแอ
แนวโน้มราคาทองคำในวันนี้คาดว่า จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ คาดว่าจะส่งผลต่อการเคลือนไหวของทองคำค่อนข้างน้อย ซึ่งในสัปดาห์หน้าตลาดต่างมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำค่อนข้างมาก
ส่วนแนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า คาดว่าทิศทางการเคลื่อนไหวทองคำจะยังอยู่ในกรอบ 1,150-1,165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเมินแนวรับของราคาทองคำยังอยู่ที่บริเวณ 1,147-1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,142 และ 1,132 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยแนวรับหลังเป็นแนวรับสำคัญที่เป็นจุดต่ำสุดของราคาทองคำในเดือนก.ค.2557 ขณะที่มีแนวต้านของราคาทองคำประเมินไว้ที่ระดับ 1,165-1,170 และ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง