ทองพุ่งไม่หยุดจากดอลลาร์อ่อน หลังเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองขึ้น 200
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากเพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
ดัชนีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินดอลลาร์เปรียบเทียบกับสกุลเงินหลักในตระกร้าเงินปรับตัวลดลง 1.41% แตะที่ 97.858 เมื่อคืนนี้ ซึ่งโดยปกติ ราคาทองคำและสกุลเงินดอลลาร์จะมีความเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งหมายความว่า หากดอลลาร์ปรับตัวลดลง ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากทองคำซึ่งซื้อขายกันในรูปสกุลเงินดอลลาร์จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลเงินอื่นๆ และส่งเป็นแรงดึงดูดสำหรับนักลงทุนสำหรับการเข้าถือครอง
นักวิเคราะห์จากสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เชื่อว่าตลาดจะยังคงซึมซับเอาปัจจัยบวกจากแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่าอเนื่อง
ส่วนภาพรวมราคาทองในสัปดาห์นี้ ต้นสัปดาห์ทองคำดิ่งลงระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ และเมื่อการประชุมของเฟดสิ่้นสุดลงพร้อมการแถลงการณ์ของประธานเฟด ที่ส่งสัญญานว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ‘ไม่มีแนวโน้ม’ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนเมษายนนี้ และระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสิ่งชี้นำอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าเฟดได้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ทั้งนี้ แถลงการณ์เฟดได้ยกเลิกการใช้คำว่า “อดทน” ในการพิจารณากำหนดเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ อย่างไรก็ดี เฟดระบุว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเฟดมีความเชื่อมั่นว่าภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำในขณะนี้กำลังจะปรับตัวกลับสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และตราบใดที่ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ ปลายสัปดาห์ทองคำได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นทองคำตลาดโลกหลังเฟดยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ในขณะเดียวจากประเด็นดังกล่าวค่าเงินบาทกลับพบการแข็งค่าขึ้นกว่า 0.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยปกติทุกๆ .10 บาทต่อดอลลาร์ จะพบความต่างของทองคำประมาณ 50 บาท(โดยปัจจัยทองคำโลกต้องคงที่) โดยทั้งสัปดาห์พบว่า ทองในประเทศรวมแล้วปรับขึ้น 200 บาท โดยแรงหนุนหลักๆ มาจากช่วงปลายสัปดาห์ตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันเสาร์พบการปรับขึ้นของทองคำรวม 350 บาท
บริษัท ฮั่่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในทางเทคนิค ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากว่าราคาทองคำสามารถผ่านขึ้นไปได้จะเกิดสัญญาณทางบวกและคาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านสำคัญถัดไปที่ระดับ 1,195-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนทะยอยซื้อเมื่อราคาทองคำปรับฐานลงมาที่แนวรับ 1,160-1,165 และ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ และแนะนำนักลงทุนพิจารณาขายทำกำไรที่แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,180 และ 1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง