ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองคำปรับตัวลงหลังจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากเมื่อวานนี้ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% ภายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลง

ขณะเดียวกันทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ที่แท้จริง ประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 2.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2555 ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 336,000 ราย ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 340,000 ราย

และจากข้อมูลดังกล่าวว่าข้างต้น แสดงให้เห็นถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ จึงทำให้นักลงทุนต่างวิตกกังวลว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ส่วนค่ำวันนี้เวลา 20.30 ตามเวลาไทย นักลงทุนต่างเฝ้าจับตารายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.3%

ในประเทศเมื่อวานนี้(7) พบว่าตลอดทั้งวันราคาทองไม่มีการเคลื่อนไหวตั้งแต่เปิดตลาดเป็นต้นมา โดยยังอ้างอิงราคาปิดตลาดจากเมื่อวันอังคาร(6) ส่วนเปิดตลาดมาเช้าวันนี้ ทองลงไป 100 บาท เป็นผลจากราคาทองคำตลาดโลกที่ร่วงลงทุกตลาด เหตุจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นบวกกับรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาสดใส อย่างไรก็ตามราคาทองในประเทศยังได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาทพยุงราคาทองไม่ให้ลดลงไปมาก

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำคงต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมามาก หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้ โดยคาดว่าราคาจะปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวที่แนวรับถัดไปบริเวณ 1,270 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวขึ้นได้อีกครั้ง ส่วนแนวต้านของวันยังคงอยู่ที่บริเวณ 1,325-1,330 ดอลลาร์ ต่อออนซ์.