ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงจากดอลลาร์แข็งค่ากดดัน หลังอีซีบีปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลในประเทศบาทอ่อนเช้านี้ทองลงแค่ 100

ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ที่มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหนือความคาดหมาย พร้อมกันนี้ยังมีการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ และมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต

เมื่อคืนที่ผ่านมา การประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) ลงสู่ระดับ 0.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) ลงสู่ระดับ -0.2%

ทั้งนี้อีซีบี ให้เหตุผลว่าแนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่อ่อนแรงลง ตลอดจนการเคลื่อนไหวของสินเชื่อและตลาดเงินที่ยังคงซบเซา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางยุโรปจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้ อีซีบียังได้ระบุว่า คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรปมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะนำเครื่องมือทางการเงิน

ทองคำมีสัญญานฟื้นตัวทางเทคนิค สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ และการประชุมอีซีบี

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยนักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยหนุนต่อราคาทองที่เข้ามายังไม่พบปัจจัยใหม่ เพราะฉนั้นการฟื้นตัวที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ก่อนจึงยังเป็นเพียงการฟื้นตัวทางเทคนิค

ขณะที่ในสัปดาห์นี้(1-5 ก.ย.) มีปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวต่อราคาทองคำอยู่ค่อนข้างมาก เริ่มจากภาคเศรษฐกิจที่จะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าผลการประชุมอาจมีสัญญาณการผ่อนคลายทางการเงินหลังจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงมีสัญญาณชะลอตัว และจะเป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินของเงินยูโร

ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ นักลงทุนให้ความสนใจต่อการรายงานตัวเลขตลาดแรงงาน โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานประจำเดือนสิงหาคมของสหรัฐ โดยข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะมีผลต่อการตัดสินใจต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ผ่านมาส่วนใหญ่ออกมาค่อนข้างดี ทำให้นักลงทุนต่างคาดการณ์กันว่า

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางขาลง ดอลลาร์แข็งค่ากดดันต่อเนื่อง ในประเทศบาทแข็งเช้านี้ลงอีก 50

ภาพรวมราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางขาลง จากการที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สกัดความต้องการลงทุนในทองคำ ท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะเดียวกันการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 จุดเป็นครั้งแรก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบระหว่างแนวรับ 1,270-1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทิศทางทองคำอ่อนตัวลง อันเนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร โดยสกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างต่อเนื่องในระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังจากถ้อยแถลงของ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่าพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ในการรับมือถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนยังคงลดลงต่อไป ซึ่งสัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ว่ามีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่อีซีบีจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในประชุมกำหนดนโยบายครั้งถัดไป

ทองร่วงหนัก จากคาดการเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว เหตุเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ยูโรอ่อนแอ ในประเทศเช้านี้ลงอีก 50 จากวานนี้ลง 150

ราคาทองคำร่วงลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน เหตุเพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนั้น อาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดตลาดร่วงลงกว่า 19 ดอลลาร์ หลังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าคาดการณ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาในไทย เริ่มจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนสิงหาคม พุ่งแตะระดับ 58.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 หรือในรอบ 4 ปีกว่า

ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเดือนกรกฏาคม ก็ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 5.15 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 298,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 302,000

ทองคำลดลงต่อเนื่อง หลังตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่ง และความตึงเครียดในหลายพื้นที่ผ่อนคลายลง

ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นตอบรับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นนิวยอร์คให้พุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ และดึงดูดนักลงทุนกลับเข้าไปในตลาดและลดความน่าสนใจในทองคำลง ส่วนราคาทองคำในประเทศ ได้รับแรงกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังกดดันราคาให้ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดทองรูปพรรณ ใกล้หลุด 2 หมื่นแล้ว

ราคาทองคำตลาดโลก(Gold spot) อ่อนตัวลงต่อเนื่อง หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยเฉพาะตลาดหุ้นนิวยอร์ค ซึ่งเมื่อคืนนี้ ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี ขานรับรายงานที่ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนกรกฏาคมของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.7% และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยข้อมูลดังกล่าวได้บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองบวกมากขึ้น

ราคาทองคำยังเคลือนไหวทรงตัวต่อเนื่องหลายวัน ระยะนี้ข่าวและปัจจัยใหม่ ยังมีน้อย ในประเทศเช้านี้ทรงตัวต่อเนื่องจากราคาวันพุธ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวตลอดหลายวันที่ผ่านมา โดยทิศทางยังคงมีสัญญานฟื้นตัวจากประเด็นปัญหาความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้โดยรวมพบว่าค่อนค้างซบเซา ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมารายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐก็พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ทองคำมีแรงบวกจากประเด็นดังกล่าว

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐรายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ พบว่า เพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 311,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับเพียง 295,000 ราย

อย่างไรก็ตาม ทองคำบวกขึ้นได้เพียงเล็กน้อย หลังจากสภาทองคำโลก(WGC) เปิดเผยในรายงานประจำไตรมาสว่า อุปสงค์ทองคำทั่วโลกร่วงลงในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากแรงซื้อของประเทศผู้ใช้ทองคำรายใหญ่อย่างจีนและอินเดีย เริ่มกลับสู่ระดับที่ทรงตัวมากขึ้น