ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง40,250.0040,350.00
ทองรูปพรรณ39,522.1240,850.00
วันนี้ -1,050-50
23 เมษายน 2567เวลา 16:24 น.(ครั้งที่ 17)

ข่าวปิดตลาดเช้าหุ้นไทย


คาดสัปดาห์หน้าค่าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.20-29.50 บาทต่อดอลลาร์


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.20-29.50 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตาการประชุม กนง.และสถานการณ์วิกฤติหนี้ยุโรป

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาททรงตัวในกรอบแคบๆ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น (ตลาดเอเชีย) หลังจากที่ยูโรโซนได้อนุมัติแผนการของ EU/IMF ในการปรับโครงสร้างภาคธนาคารของไซปรัสทันเวลาตามเส้นตายที่ธนาคารกลางยุโรป กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงและกลับมาปรับตัวในกรอบแคบๆ ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ ในช่วงใกล้สิ้นเดือนจากผู้นำเข้า และธุรกรรมที่เกี่ยวกับการส่งกลับกำไรของบริษัทญี่ปุ่นในไทยในช่วงปิดสิ้นปี งบการเงิน 31 มี.ค. 2556 ในวันศุกร์ (29 มี.ค.56) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.28 เทียบกับระดับ 29.29 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 มี.ค.56)

ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่ 27 มี.ค.56) บวก 16.84 จุด


บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (พุธที่27 มี.ค.2556) ดัชนีรีบาวน์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตามตลาดต่างประเทศ ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 1,553.57 จุด และสูงสุดที่ 1,569.32 จุด ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,560.87 จุด เพิ่มขึ้น 16.84 จุดหรือ 1.09% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 67,501.53 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 517 หลักทรัพย์ ลดลง 167 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 111 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.MLINK บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 5.20บาท +0.94 (+22.07%)
2.TIPCO บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 13.10บาท+3.00 (+29.70%)
3.INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 80.25บาท +1.75 (+2.23%)
4.BLAND บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 2.04บาท +0.09 (+4.62%)

หุ้นสหรัฐฯกอดคอร่วงระนาว แม้อียูยื่นมือช่วยไซปรัส หุ้นไทยขาขึ้น ระวังแรงขายทำกำไร


หุ้นเด่นของสหรัฐฯปิดตลาดปรับตัวลดลงทั้งหมด เหตุนักลงทุนยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ไซปรัส แม้อียูจะยื่นมือมอบเงินช่วยเหลือแล้วก็ตาม…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันนี้อังคารที่ 26 มี.ค.56 ว่า ปิดตลาดเมื่อวานนี้ หุ้นสหรัฐฯกอดคอกันร่วงระนาว โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง -64.28 จุด หรือ -0.44% อยู่ที่ 14,447.75 จุด เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ -5.2 จุด หรือ -0.33% อยู่ที่ 1,551.69 จุด และแนสแดค -9.7 จุด หรือ -0.30% อยู่ที่ 3,235.30 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลด้านด้านเศรษฐกิจในกลุ่มชาติยูโรโซน แม้สหภาพยุโรป (อียู) จะบรรลุข้อตกลงกู้วิกฤติการเงินไซปรัส ด้วยการมอบเงินช่วยเหลือ มูลค่า 10,000 ล้านยูโร เมื่อวานนี้ 25 มี.ค. แล้วก็ตาม รวมทั้งหวั่นว่าสถานการณ์ไซปรัสอาจกลับมาแย่อีกครั้ง

ทั้งนี้ เหล่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ตกลงเห็นชอบอนุมัติเงินช่วยเหลือไซปรัส เนื่องจากเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค และเพื่อป้องกันระบบธนาคารล่ม รวมทั้งรั้งไซปรัสให้คงอยู่ในกลุ่มชาติใช้เงินสกุลยูโร

ตอบโจทย์หุ้นดิ่ง100จุด ข่าวปล่อย-ขายชอร์ต


นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ให้สัมภาษณ์รายการ “ตรงประเด็นค่ำ” กรุงเทพธุรกิจทีวี วานนี้ (อาทิตย์ที่ 24 มี.ค.2556) ถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงกว่า 100 จุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(18-22มีนาคม 2556)ว่า เกิดจากกระแสข่าวลือที่มีเข้ามามาก ขณะเดียวกันมูลค่าการซื้อขายก็สูงเป็นประวัติการกว่า 1 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ข่าวลือที่เข้ามาทำให้นักลงทุนกังวลการเมืองในประเทศสั่นคลอน ไม่ว่าจะเป็นกรณีนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินกรณีปล่อยกู้ 30 ล้านบาท ให้กับสามีนอสมรส ซึ่งอาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนายกฯ ซึ่งเรื่องนี้ นางวรวรรณ มองว่า เรือ่งนี้ไม่น่ากังวลมาก เพราะเราเคยมีการเปลี่ยนแปลงมาหลายรัฐบาลมาก ซึ่งเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย น่าจะมีแผนเอ หรือแผนบี รองรับไว้แล้ว

ข่าวลืออกมา คือเรื่องความกังวลค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้กังวัลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมาตรการคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย (แคปปิตอล คอนโทรล)

ต้นสัปดาห์จันทร์ที่ 25 มี.ค. 56 บาทเปิดตลาดที่29.22/24แข็งค่าตามยูโร


ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 29.22/24 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าตามยูโร คาดวันนี้(จันทร์ที่ 25 มี.ค. 2556)เคลื่อนไหวในกรอบ 29.20-29.35 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันนี้ (จันทร์ที่ 25 มี.ค.56) ว่า เปิดตลาดที่ระดับ 29.22/24 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวันศุกร์(22 มีนาคม 2556)ที่ระดับ 29.29/31 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันค่าเงินยูโร

ลุ้นหุ้นไทยสัปดาห์หน้าฟื้นตัว หลังร่วงหนัก จับตาความช่วยเหลือไซปรัส


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด สัปดาห์หน้าหุ้นไทยฟื้นตัวหลังร่วงแรงปลายสัปดาห์ แนะจับตาความช่วยเหลือไซปรัสและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ…

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.56 บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะปรับฐาน จากความกังวลจากปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,478.97 จุด ลดลง 7.46% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 6.63% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 77,644.41 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 436.42 จุด ลดลง 13.71% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับไซปรัส และการแข็งค่าของเงินบาทสู่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ที่อาจกดดันให้ทางการพิจารณาออกมาตรการดูแลค่าเงิน ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร จากความกังวลต่อความเป็นไปได้ของการดำเนินการตามโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท รวมถึงต่อประเด็นด้านเสถียรภาพของรัฐบาล

ลุ้นสัปดาห์หน้า บาทแข็งเกิน29บาทต่อดอลลาร์


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด สัปดาห์หน้าค่าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.00-29.40 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตาสัญญาณการชะลอตัวของกระแสเงินทุนไหลเข้า

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 16 ปี ก่อนลดช่วงบวกลงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังทะลุผ่านระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 29.50 และได้เข้าทดสอบแนวต้านใกล้ 29.10 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า และคำสั่งขายเงินดอลลาร์ ที่มาจากหลายด้าน ขณะที่ ทางการไทยยังไม่ส่งสัญญาณใช้มาตรการดูแลค่าเงินบาท แต่กระนั้นเงินบาทได้ลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับการชะลอตัวของเงินทุนไหลเข้า และแรงขายอย่างหนักในตลาดหุ้นไทย ในวันศุกร์ (22 มี.ค.56) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.29 เทียบกับระดับ 29.52 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 มี.ค.56)

แฉ “โปรแกรมเทรดดิ้ง” พ่นพิษ! เคาะอัตโนมัติผสมหุ้นตกทำหุ้นไทยกู่ไม่กลับ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีที่ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และโดยเฉพาะล่าสุด วานนี้ (ศุกร์ที่ 22 มี.ค.56) ที่ปรับลดไปถึง 60 จุดนั้นว่า นอกจากจะเกิดจากความวิตกกับกรณีการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจทำให้ทางการออกมาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินบาทแล้ว ยังกังวลกับข่าวลือการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับกรณีปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาทให้สามี รวมทั้งวิตกกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ ประเด็นที่เข้ามาซ้ำเติมตลาดให้ปรับตัวลงอย่างหนัก คือ การถูกบังคับขาย (Force Sale) ของนักลงทุนที่ใช้บัญชีมาร์จิ้นเพื่อซื้อหลักทรัพย์ หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาถึงระดับที่ต้องโดนบังคับขายเพื่อตัดความเสียหายของนักลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังโดนแรงขายจากโปรแกรมเทรดของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่ตั้งโปรแกรมกำหนดให้ขายหุ้นออกมาอัตโนมัติหากดัชนีปรับลงมาถึงระดับที่กำหนดไว้ โดยเป็นการขายออกมาทุกระดับราคายิ่งกดให้ดัชนีหุ้นไหลรูดลงอย่างรุนแรง

นักลงทุนเทขายหุ้นเล็ก ดึงดัชนีฯร่วงหนักกว่า60จุด


“ไพบูลย์” ระบุ นักลงทุนเทขายหุ้นเล็กหลังปรับขึ้นแรงตัวการทำหุ้นร่วงหนัก ยัน ตลาดหุ้นยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจในการลงทุน แนะหากต้องการลงทุนหุ้นเล็กควรศึกษาและใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน

เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 22 มี.ค.2556 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับลดลงแรงในวันนี้ (22 มี.ค.56)ว่า สาเหตุเกิดจากการขายทำกำไรของนักลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก จากเสียงเตือนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงที่ผ่านมาถึงการปรับตัวขึ้นสูงของหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งพอเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาการขายก็จะออกมาเป็นลูกโซ่ลามกันไปเรื่อยๆ

“ถ้าติดตามข่าวก็ไม่มีข่าวอะไรที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหุ้นขนาดเล็กปรับขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรงและวันนี้ที่เราเห็นก็คือแรงขายในหุ้นขนาดเล็ก นักวิเคราะห์ต่างๆ ที่ให้สัมภาษณ์ก็จะบอกว่าตลาดหุ้นโดยรวมยังดูดีอยู่แต่ยกเว้นหุ้นขนาดเล็กที่อาจจะมีแรงขายลักษณะเก็งกำไรเข้ามามากผิดปกติ ผมคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุ”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิด4ทางเลือกป้องบาท ลดผลกระทบศก.


กสิกรไทยเปิด 4 ทางเลือกป้องบาท! ลดผลกระทบเศรษฐกิจ หลังวันนี้แข็งโป๊กในรอบ 16 ปี บอกทุก 1% สะเทือนจีดีพี 0.1-0.3%

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงาน สถานการณ์เงินบาทแข็งค่าปี 2556 … ประเมินทางเลือกของเครื่องมือ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างรวดเร็วทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 16 ปี และสะท้อนภาพการแข็งค่าที่ฉีกตัวออกจากทิศทางในภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย

การดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทด้วยเครื่องมือต่างๆ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทางการไทยคงต้องจัดลำดับความสำคัญของโจทย์เศรษฐกิจที่ต้องดูแล และเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ระดับเฉลี่ยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุกๆ 1% จะมีผลกระทบต่อจีดีพีปี 2556 ราว 0.1-0.3%

บาทแข็งใกล้แตะ 28 บาท ต่างชาติกลัว ธปท.สกัดเงินร้อนขายหุ้นหนี


นายกรัฐมนตรี เรียก ครม.เศรษฐกิจ ธปท.และ สศช.ถกด่วน หารือเงินบาทแข็งใกล้แตะ 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ “กิตติรัตน์” ยันรัฐไม่มีมาตรการสกัดเงินร้อนฝืนธรรมชาติ นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยวันเดียว 3,000 ล้านบาทหวั่น ธปท.ใช้กฎเหล็กคุมเงินไหลเข้า

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วานนี้ (20 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยหารือเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท หลังจากนั้น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า ธปท.ได้รายงานต่อที่ประชุมมีเงินทุนระยะสั้นไหลเข้ามาในตลาดการเงิน อย่างไร ก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้ออกมาตรการใดมาเป็นพิเศษ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปไตร่ตรองทบทวนนโยบายต่างๆ ภายใต้หลักการ 3 ประการคือ

พุธที่ 20 มี.ค. 56 หุ้นไทยปิดร่วง 24.58 จุด ที่ 1,543.67 จุด กังวลแบงก์ชาติออกมาตรการสกัดบาทแข็ง


บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 20 มีนาคม 2556 ยังเต็มไปด้วยความผันผวน โดยดัชนีปรับลงอย่างหนักกว่า 33 จุดในการซื้อขายภาคเช้า ก่อนฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่าย แต่ยังยืนในแดนลบกว่า 8 จุด จากนั้นก็ดิ่งลงอีกครั้งในช่วงท้ายตลาด กดดันให้ระหว่างวันดัชนีลดลงต่ำสุดที่ 1,534.27 จุด ทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,569.70 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,543.67 จุด ลดลง 24.58 จุด หรือ 1.57% ด้วยมูลค่าการซื้อขายคึกคัก 83,656.86 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 476.59 จุด ลดลง 15.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6,128.69 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
1. PTTปตท. ปิดที่ 333.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
2. CK ช.การช่าง ปิดที่ 25.50 บาท ลดลง 2.75 บาท


Page 3 of 812345678