ราคาทองคําวันนี้| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 61,150.00 | 61,250.00 |
| ทองรูปพรรณ | 59,927.48 | 62,050.00 |
| วันนี้ 200 | 50 | |
| 06 พฤศจิกายน 2568 | เวลา 10:31 น. | (ครั้งที่ 3) |
สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย
ทองคำถูกกำหนดการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อ ดอลลาร์อ่อนค่า → ทองจะแพงขึ้นตามค่าเงิน ตรงกันข้าม หาก ดอลลาร์ แข็งค่า → ทองก็จะถูกลงตามค่าเงิน
เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า และเมื่อคนต้องการซื้อทองมากขึ้นจึงส่งผลให้ราคาทองแพงขึ้น
ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง
ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย
ราคาทองขึ้น/ลงตามกลไกตลาด ถ้าความต้องการ (อุปสงค์) มากกว่า ปริมาณทอง (อุปทาน) → ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น
อุปสงค์: การลงทุน, เครื่องประดับ, ซื้อตามเทศกาล, ธนาคารกลางสะสม, ใช้ในอุตสาหกรรม
อุปทาน: ผลิตจากเหมือง, รีไซเคิล, การขายออกของธนาคารกลาง
ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(อังคารที่ 9 กรกฏาคม 56) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเกินคาดของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนสิงหาคม 56 พุ่งขึ้น 11.00 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,245.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนกันยายน 56 เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 19.138 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(อังคารที่ 25 มิ.ย.56) เพระได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวของจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 14,760.31 จุด พุ่งขึ้น 100.75 จุด หรือ +0.69%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,347.89 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด หรือ +0.82%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,588.03 จุด เพิ่มขึ้น 14.94 จุด หรือ +0.95%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(จันทร์ที่ 24 มิ.ย.56) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องหดตัวในประเทศจีน หลังจากที่จีนออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่อัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้าสู่ระบบการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ 14,659.56 จุด ร่วงลง 139.84 จุด หรือ -0.94%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,320.76 จุด ลดลง 36.49 จุด หรือ -1.09%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,573.09 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.21%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้(ศุกร์ที่ 21 มิ.ย.56) หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนัก 2 วันติดต่อกัน จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอโครงการซื้อพันธบัตรในช่วงปลายปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 14,799.40 จุด
ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 4.24 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 1,592.43 จุด และ
ดัชนี NASDAQ ลดลง 7.39 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 3,357.25 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ(19 มิถุนายน 2556)และพฤหัสบดี(20 มิถุนายน 2556)ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเฟดจะลดขนาดโครงการ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. 56) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตทางเศษฐกิจของสหรัฐ หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และรายงานของมาร์กิตที่ระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 14,758.32 จุด ดิ่งลง 353.87 จุด หรือ -2.34%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(พุธที่ 19 มิ.ย.56) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณภายหลังการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในปีนี้ แม้มติของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรต่อไปก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,112.19 จุด ร่วงลง 206.04 จุด หรือ -1.35%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,628.93 จุด ลดลง 22.88 จุด หรือ -1.39% และ
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,443.20 จุด ลดลง 38.98 จุด หรือ -1.12%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(ศุกร์ที่ 14 มิ.ย.56) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลด้านการผลิต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 105.90 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 15,070.18 จุด
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 9.63 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 1,626.73 จุด และ
รายงานราคาทองคําประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท สู่บริเวณ 61,150 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พุธ) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 22 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 400 บาท สู่บริเวณ 61,050 บาท
ราคาทองคําสปอตปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ไม่มากจากความไม่นอนในการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดเพิ่มขึ้น
รายงานราคาทองวันนี้วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.06 น. ปรับตัวลงแรงพรวดเดียว 650 บาท สู่บริเวณ 61,800 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(อังคาร) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 14 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลงเล็กน้อย 50 บาท สู่บริเวณ 61,450 บาท
ราคาทองคําสปอตปรับตัวลงแรงเนื่องมาจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คืนนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเพื่อหาสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยของเฟด ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดร่วงหนัก
รายงานราคาทองประจำวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.05 น. ปรับตัวลดลง 100 บาท สู่บริเวณ 61,400 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(จันทร์) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 24 ครั้ง รวมราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท สู่บริเวณ 61,500 บาท
ราคาทองคําสปอดยังเคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบระดับสูงทางเทคนิคโดยมีปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ตลาดได้ลดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในการประชุมเดือนธ.ค. ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลดลงตามทองคำโลก
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.03 น. ปรับตัวลดลง 50 บาท สู่บริเวณ 61,350 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งเดียวของวันเสาร์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของวันศุกร์บริเวณ 61,400 บาท
ราคาทองคําสปอตเคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบทางเทคนิค ล่าสุดถูกปัจจัยกดดันจากการที่จีนได้ยุติการให้สิทธิประโยชน์ภาษีทองคำ รวมทั้งแรงกดดันจากถ้อยแถลงในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงินของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลดลง
รายงานราคาทองคําวันนี้ประจำวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ประกาศครั้งเดียว เมื่อเวลา 09.06 น. คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงบริเวณ 61,400 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(ศุกร์) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 29 ครั้ง รวมราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท
ราคาทองคําสปอตถูกปัจจัยลบกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้งในปีนี้ รวมถึงแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ด้านทองคำในประเทศประกาศครั้งเดียวประจำวันเสาร์ต้นเดือนพ.ย.ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันศุกร์ ส่วนสัปดาห์นี้ปรับตัวลงแรง 2,300 บาท
รายงานราคาทองคําประจำวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.09 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท สู่บริเวณ 61,400 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พฤหัสบดี) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 35 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 400 บาท สู่บริเวณ 61,150 บาท
ราคาทองคําสปอตฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ด้านราคาทองในประเทศเปิดตลาดวันศุกร์สิ้นเดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง
รายงานราคาทองวันนี้วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.06 น. ปรับลงแรงพรวดเดียว 1,000 บาท สู่บริเวณ 60,550 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พุธ) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 37 ครั้ง รวมราคาปรับตัวขึ้นแรง 1,650 บาท สู่บริเวณ 61,550 บาท
ราคาทองคําสปอตผันผวนหนักก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หลังการประชุมกลับร่วงลงอย่างหนักจากการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่ระบุว่ากรรมการเฟดยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดร่วงลงแรง
รายงานราคาทองประจำวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.03 น. ปรับเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 900 บาท สู่บริเวณ 60,800 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(อังคาร) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 49 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลงแรง 2,650 บาท สู่บริเวณ 59,900 บาท
ราคาทองคํา Spot เช้าวันนี้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากเมื่อวานร่วงหนักจากการเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่วนตีหนึ่งคืนนี้จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาพุ่งกลับขึ้นแรง
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.08 น. ปรับตัวลงแรงพรวดเดียว 600 บาท สู่บริเวณ 61,950 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(จันทร์) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 21 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลงแรง 1,150 บาท สู่บริเวณ 62,550 บาท
