ราคาทองคำปรับฐานลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สสหรัฐ หลังจากราคาพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้จากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในสหรัฐ และยุโรป ทองคำในประเทศประกาศราคาวันเสาร์ราคาลดลง 50 บาท
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 54,850.00 | 54,950.00 |
ทองรูปพรรณ | 53,757.36 | 55,750.00 |
วันนี้ -150 | -50 | |
18 กันยายน 2568 | เวลา 13:47 น. | (ครั้งที่ 4) |
📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับหลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง ครึ่งสลึง, 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท, 2 บาท และ 5 บาท
- อ้างอิงจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- ร้านทองสามารถหักราคาคืนทองรูปพรรณได้ไม่เกิน 5% (แต่หากเป็นทองคำที่มาจากต่างร้านอาจคิดลดหรือหักได้มากกว่า 5%)
- ใช้ราคาทองแท่งรับซื้อ ณ วันนี้54,850 บาท เป็นฐานคำนวณ
- ใช้ได้เฉพาะเมื่อซื้อคืนจากร้านเดิมเท่านั้น
- อาจมีค่ากำเหน็จหรือความเสียหายเพิ่มเติมตามสภาพทอง
- เป็นการคำนวณราคาเบื้องต้นโปรดสอบถามราคาที่ร้านทองอีกครั้ง
- ร้านทองอาจรับซื้อทองรูปพรรณคืนในราคาที่ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ และต้นทุนในการบริหารจัดการกิจการของแต่ละร้าน
แสดงราคาทองคำวันนี้ 1 สลึง ประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568
น้ำหนักทองรูปพรรณ | ราคา/บาท | ค่ากำเหน็จเฉลี่ย | รวมกำเหน็จ/บาท |
---|---|---|---|
ทองครึ่งสลึง | 6,869 | 800 | 7,669 |
ทอง 1 สลึง | 13,738 | 800 | 14,538 |
ทอง 2 สลึง / 50 สตางค์ | 27,475 | 800 | 28,275 |
ทอง 1 บาท | 54,950 | 800 | 55,750 |
ทอง 2 บาท | 109,900 | 1,600 | 111,500 |
ทอง 5 บาท | 274,750 | 4,000 | 278,750 |
ราคาทองอ้างอิงจากประกาศสมาคมค้าทองคำ ณ.วันเวลา ปัจจุบัน โดยเป็นค่าเฉลี่ยที่คำนวณจากราคาทองคำแท่ง 1 บาท
เป็นตัวอย่างของราคาขายออกทองรูปพรรณชนิด 96.5% ที่ซื้อขายในประเทศแบ่งตามน้ำหนัก (ใช้สำหรับประมาณการเท่านั้น ไม่ใช่ราคาซื้อขายจริง กรุณาตรวจสอบราคาจากร้านที่ทำการซื้อขายอีกครั้ง)
ค่ากำเหน็จที่สมาคมกำหนดไว้อยู่ที่ 800 บาท อย่างไรก็ตาม ค่ากำเหน็จแต่ละร้านทองอาจจจะแตกต่างกันอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าที่สมาคมค้าทองคำกำหนดไว้ซึ่งขึ้นอยู่ร้านทองแต่ละร้านว่าจะคิดค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าใช้จ่ายการขนส่ง การเดินทาง ค่าความเสี่ยงภัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงกำไรจากการจำหน่าย โดยถ้าร้านที่อยู่ในต่างจังหวัดไกลๆ ที่ต้องนั่งเครื่องบินมาซื้อที่กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการบริการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ที่หากต้องเดินทางมาซื้อถึงแหล่งผลิตเองอาจจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายก็เป็นได้ ในทำนองเดียวกัน เมื่อลูกค้านำทองมาขายคืนร้านค้า ทางร้านก็ต้องนำทองกลับมาขายคืนให้ร้านขายส่งเช่นกัน จึงจะต้องการคิดค่าใช้จ่ายทั้งขาซื้อและขาย
สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย

ทองคำถูกกำหนดการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อ ดอลลาร์อ่อนค่า → ทองจะแพงขึ้นตามค่าเงิน ตรงกันข้าม หาก ดอลลาร์ แข็งค่า → ทองก็จะถูกลงตามค่าเงิน

เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า และเมื่อคนต้องการซื้อทองมากขึ้นจึงส่งผลให้ราคาทองแพงขึ้น

ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง

ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย

ราคาทองขึ้น/ลงตามกลไกตลาด ถ้าความต้องการ (อุปสงค์) มากกว่า ปริมาณทอง (อุปทาน) → ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น
อุปสงค์: การลงทุน, เครื่องประดับ, ซื้อตามเทศกาล, ธนาคารกลางสะสม, ใช้ในอุตสาหกรรม
อุปทาน: ผลิตจากเหมือง, รีไซเคิล, การขายออกของธนาคารกลาง

ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม
ราคาทองคำวันนี้ 1 สลึง/ข่าวเกี่ยวกับทองคำล่าสุด
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าติดต่อกัน 10 วัน ในประเทศเปิดตลาดทองวันศุกร์ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้
เช้าพฤหัสบดีราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวลดลงติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตาม ทองคำปรับตัวขึ้นได้ไม่มาก หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติปรับตัวขึ้นสูงสุดติดต่อกัน 5 วัน ในประเทศบาทแข็งทองขึ้น 150 บาท
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงเพียง 1 วันก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากตลาดขานรับจากการที่ธนาคารกลางของอังกฤษ(บีโออี) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับเพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจาก Brexit
ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องมาจากแรงเทขายทำกำไร หลังทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนก.ค. ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 13 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางชั้นนำในประเทศต่างๆ ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
ราคาทองคำเช้านี้ยังเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่กรอบระดับเดียวกับช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยสุดสัปดาห์ทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้มีประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจเฝ้าติดตามอยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันอังคารและวันพุธ
ฮั่วเซ่งเฮง เผยทองฟื้นวันพฤหัส(23พ.ค.56)ก่อนปิดทรงตัววันศุกร์(24พ.ค.56)
ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัว ในการซื้อขายวันศุกร์(24พฤษภาคม56) ซึ่งตลาดการเงินของไทยปิดทำการ หลังจากในระหว่างสัปดาห์แกว่งตัวขึ้นลงผันผวน ตอบรับการคาดการณ์ เรื่องการปรับลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ และรายงานตัวเลขภาคการผลิตของจีนที่กลับชะลอตัวลง โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวันศุกร์(24พฤษภาคม56)ที่ 1,386.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 4.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,382 และ 1,398 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์(25พฤษภาคม56)ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 19,750 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,650 บาท ทองรูปพรรณ ชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 20,150 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,359.32 บาท กองทุน SPDR รายงานว่า มีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงจากวันพฤหัส(23พฤษภาคม56) 3.91 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบัน
รายงานราคาทองประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวลดลง 50 บาท บาท สู่บริเวณ 55,050 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พุธ) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 5 ครั้ง และเป็นการลดลงทั้ง 5 ครั้ง รวม 300 บาท
ราคาทองคํา Spot ผันผวนขึ้นลงช่วงก่อนและหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาดการณ์และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่จะระมัดระวังหั่นดอกเบี้ยเชิงรุก ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยตามทองคำตลาดโลก
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันพุธที่ 17 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.06 น. ปรับลดลง 100 บาท บาท สู่บริเวณ 55,300 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(อังคาร) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 4 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้นแรง 500 บาท
ราคาทองคํา Spot ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นในช่วงดึกคืนวันนี้ตามเวลาไทย ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 100 บาท
รายงานราคาทองคําวันนี้วันอังคารที่ 16 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.05 น. พุ่งขึ้นพรวด 450 บาท บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 55,350 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวานที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 11 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 250 บาท
ราคาทองคําตลาดโลกพุ่งขึ้นแรงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เนื่องมาจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดพุ่งขึ้นพรวดเดียว 450 บาท ทะลุระดับ 55,000 บาท นิวไฮบริเวณ 55,350 บาท
รายงานราคาทองคําประจำวันจันทร์ที่ 15 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.06 น. เพิ่มขึ้น 50 บาท บาท สู่บริเวณ 54,700 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งเดียวของวันเสาร์ที่ปรับตัวลดลง 50 บาท สู่บริเวณ 54,650 บาท ส่วนสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นรวม 350 บาท
ราคาทองคํา Spot เริ่มเปิดการซื้อขายต้นสัปดาห์ปรับตัวลดลงจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในช่วงต้นสัปดาห์จากความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น
รายงานราคาทองวันนี้วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2568 ประกาศครั้งเดียว เมื่อเวลา 09.02 น. ปรับลดลง 50 บาท สู่บริเวณ 54,650 บาท เทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(ศุกร์) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 4 ครั้ง รวมราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท ส่วนสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นรวม 350 บาท
ราคาทองคําตลาดโลกยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยความเชื่อมั่นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในการประชุมสัปดาห์ยังเป็นปัจจัยสนุนสนุนให้เคลื่อนไหวในระดับสูงดังกล่าว ด้านราคาทองในประเทศประกาศครั้งเดียวในวันเสาร์ลดลงจากวันศุกร์
รายงานราคาทองประจำวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท บาท สู่บริเวณ 54,650 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พฤหัสบดี) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 9 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลงแรง 300 บาท
ราคาทองคํา Spot ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการเทขายทำกำไรออกมาบางส่วน ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากเมื่อวานร่วงแรงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวลดลง 100 บาท บาท สู่บริเวณ 54,800 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พุธ) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 11 ครั้ง แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 54,900 บาท
ราคาทองคํา Spot ปรับตัวลดลงทางเทคนิคจากนิวไฮเมื่อวานท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนี PPI ของสหรัฐล่าสุดซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญสอดคล้องกับคาดการณ์ ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลดลงจากนิวไฮเมื่อวาน
รายงานราคาทองประจำวันพุธที่ 10 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.03 น. ปรับตัวลดลง 100 บาท บาท สู่บริเวณ 54,600 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(อังคาร) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 7 ครั้ง รวมปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 250 บาท แตะระดับ 54,700 บาท
ราคาทองคํา Spot ปรับตัวลดลงทางเทคนิคจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นแรงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้าท่ามกลางความความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดลดลง