| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 40,750.00 | 40,850.00 |
| ทองรูปพรรณ | 40,022.40 | 41,350.00 |
| วันนี้ 50 | 50 | |
| 17 พฤษภาคม 2567 | เวลา 09:31 น. | (ครั้งที่ 2) |
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองในประเทศเช้าวันนี้(อังคารที่ 23 ก.ค.) ราคาทองปรับขึ้น 450 บาท ตามราคาทองในตลาดโลก(Gold Spot) ที่ปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปิดเพิ่มขึ้น 43.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ 1,336 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และนับเป็นครั้งแรกในรอบเดือน ที่มีการปิดบวกวันเดียวมากที่สุด นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2012
ราคาทองคําสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบฟื้นตัวสลับทรงตัว และสามารถขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางเทคนิคที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้
ส่วนถ้อยแถลงของ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ในคืนวันพฤหัส(18) ว่า เฟดไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการปรับลดขนาดของโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในช่วงปลายปีนี้ โดยการกำหนดกรอบเวลาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลหนุนให้ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้น
สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) รายงานราคาทองชนิด 96.5% ประจำวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:18 น.(ครั้งที่ 1)
ราคาทองคำแท่ง รับซื้อคืน บาทละ 19,000 บาท ขายออก 19,100 บาท
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อคืน บาทละ 18,722.60 ขายออก 19,500 บาท เพิ่มขึ้น 100 บาท เมื่อเทียบปิดตลาดเมื่อวานนี้(วันศุกร์ที่ 19 กรกฏาคม 2556)
ส่วนราคาทองคำในตลาดโลก ปิดตลาดเมื่อคืนนี้(ศุกร์ที่ 19) เพิ่มขึ้นอีก 8.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,292.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
อ้างอิงข้อูลจาก : สมาคมค้าทองคำ
เมื่อวานนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ช่วงค่ำมีแรงซื้อขายเข้ามาทำให้ปิดตลาดราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และโดยภาพรวมของราคาทองสัปดาห์นี้ ยังทรงตัว โดยมีแนวโน้มแกว่งตัวทางเทคนิคในกรอบ 1,270-1300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งในกรณีที่ราคาปรับตัวขึ้นผ่านแนวต้านหรืออ่อนตัวลงหลุดแนวรับคาดว่าจะมีแรงซื้อขายเข้ามามากจนราคาแกว่งตัวในกรอบที่กว้างมากขึ้น
ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ยังคงทรงตัว ก่อนที่ในช่วงค่ำได้มีแรงขายกลับออกมา ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจนหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,275 เหรียญลงมา โดยคาดว่าส่วนหนึ่งเป็นการขายทำกำไรหลังจากทราบคำแถลงของ นาย เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงิน หรือ QE ในอนาคต ที่ตลาดตีความในลักษณะที่ยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินนี้
ราคาทองคําทรงตัวติดต่อกันมาหลายวัน โดยมีสัญญาณจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคํา ที่ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโลกปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,290.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,276 และ 1,295 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้(อังคารที่ 16 ก.ค.) มีการปรับเปลียนราคา 2 ครั้งโดยเปิดตลาดมาทองลง 50 บาท และระหว่างวัน ปรับเพิ่มขึ้น 50 บาทอีก 1 ครั้ง ทำให้ปิดตลาด ราคาทองคำแท่ง ขายออกที่บาทละ 18,950 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,850 บาท ส่วน ทองรูปพรรณ ขายออกที่บาทละ 19,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,571 บาท
ราคาทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าวันศุกร์จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่โดยภาพรวมราคาทองคํายังเคลื่อนตัวในทิศทางเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากที่นาย เบน เบอร์นันเก้ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่อาจจะยังคงการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หรือ QE ต่อไปสักระยะหนึ่ง ส่งผลให้เงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์นี้(8-12 ก.ค.) ราคาทองคําปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คืนวันพุธ(10)หลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED และถ้อยแถลงของ นาย เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่า FED จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หรือ QE ต่อไป จึงทำให้ตลาดมีความหวังว่า FED ยังจะไม่ชะลอโครงการ QE ในเร็ววันนี้
โดยนาย เบน เบอร์นันเก้ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากอัตราว่างงานยังสูง และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโนโซน ในวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มทรอยก้า ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซวงเงิน 6.8 พันล้านยูโร ทำให้ตลาดคลายความกังวลที่กลัวจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ถ้ากรีซไม่ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือ
ราคาทองคําทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวาน(พฤหัส 11 ก.ค.) ขานรับ นาย เบน เบอร์นันเก้ ประธาน FED ที่กล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากอัตราว่างงานยังสูงและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด
โดยราคาทองคําตลาดโลก(Gold spot) ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ เพิ่มขึ้น 21.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,284.69 ดอลลาร์
ราคาทองคําในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 12.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,235.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนเช้าวันนี้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ มาจากการปรับฐานทางเทคนิค ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อีกทั้งความไม่สงบในประเทศอียิปต์ที่ยังไม่คลี่คลาย พร้อมทั้งความไม่แน่นอนในกลุ่มยูโรโซน โดยเฉพาะการรับเงินช่วยเหลือของกรีซ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ก็ปัจจัยเกื้อหนุนราคาทองคํา ส่วนราคาทองคำในประเทศที่ปรับเพิ่ม 300 บาท เมื่อเช้านี้จากการประกาศของ สมาคมค้าทองคำ ปัจจัยส่วนหนึ่งก็มาจาก เงินบาทที่เริ่มอ่อนค่า จากเมื่อวานนี้ ถึง 31.50 บาทต่อดอลลาร์
กลุ่มบริษัท MTS Gold Futures มองว่า โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลง แต่ในวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวเป็นลักษณะ Sideways ในกรอบ
สภาวะะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2556
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,216.38-1,228.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 18,400 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,360 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 08/07/13)
แนวโน้มราคาทองคำพรุ่งนี้(อังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556)
ราคาทองคำพยายามปรับตัวขึ้นภายหลังจากที่สามารถยืนเหนือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อย่างไรก็ตามท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลก ซึ่งเกิด
ศูนย์วิจัยทองคำ เเปิดเผยผลสำรวจเป้าหมายราคาทองคำจากผู้ค้าทองคำประจำเดือนกรกฏาคม พบว่า ผู้ค้าทองคำส่วนใหญ่มอง ราคาทอง มีการฟื้นตัวสลับกับทรงตัว โดยคาดว่าราคาทองจะเคลื่อนไหวเฉลี่ย โดยกรอบสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,300-1,400 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และ กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ระหว่าง 1,150-1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำชนิดที่นิยมซือขายกัน ในบ้านเรา คือชนิดความบริสุทธิ์ท่ 96.5% ให้กรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดอยู่ระหว่าง 19,000-20,500 บาทต่อบาททองคำ และ กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ระหว่าง 17,000-18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยมี 5 ประเด็นหลักที่เชื่อว่าจะกระทบราคาทองคำ ซึ่งแยกเป็นปัจจัยเชิงลบ 3 ปัจจัยด้วยกันคือ