นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนเมษายน 2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำลดลงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 48.01 จุด ลดลงจากดัชนีในเดือนมีนาคม 5.72 จุด หรือลดลง 10.65% จากระดับ 53.73 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำเดือนเมษายน โดยกลุ่มผู้ลงทุนคาดราคาอ่อนตัว สะท้อนผ่านความเชื่อมั่นที่ลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งสวนทางกับกลุ่มผู้ค้าที่มีค่าดัชนีที่ระดับ 56.39 จุด ที่สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำระหว่างเดือนเมษายน
โดยปัจจัยที่เชื่อว่าจะกระทบราคาทองคำในประเทศในช่วงหนึ่งเดือนนั้น กลุ่มผู้ลงทุนให้น้ำหนักกับประเด็นกับแนวนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ถึง 43.10% หลังมีการชะลอมาตรการ QE และสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย หลังการประชุมในช่วงกลางเดือนมีนาคม เฟดได้ส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะสร้างความวิตกต่อตลาดการลงทุนว่าเฟดอาจจะเริ่มหันมาเข้มงวดมาตรการทางการเงินมากขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจะเป็นปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำ เช่นเดียวกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมกดดันราคาทองคำที่จะเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นค่าเงินบาทที่ให้น้ำหนัก 39.13% โดยเชื่อว่าระหว่างเดือนเมษายนค่าเงินบาทจะยังผันผวนในกรอบกว้าง จากการได้รับผลกระทบทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ อย่างปัจจัยการเมืองในประเทศ การปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เป็นต้น ส่วนประเด็นข้อพิพาทยูเครนและรัสเซียที่ผลักดันราคาทองคำในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีการให้น้ำหนัก 38.56% โดยผู้ลงทุนมองว่าประเด็นดังกล่าวจะยังกระทบต่อราคาทองคำในระยะต่อไป
ขณะที่มองว่าราคาทองคำในตลาดโลกกรอบสูงสุดน่าจะอยู่ระหว่าง 1,340-1,420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ที่ 1,200-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่