ราคาทองคำนิวยอร์กยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยปิดตลาดพบว่าปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
ราคาทองฮั่วเซ่งเฮง วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567
ราคาทองฮั่วเซ่งเฮง
ทองคำแท่ง 96.5% | |
ขายออก | 44,090 |
รับซื้อ | 44,040 |
ทองคำรูปพรรณ | |
ขายออก | 44,750 |
รับซื้อ | 43,357.6 |
ทองคำแท่ง 99.99% | |
ขายออก | 45,695 |
รับซื้อ | 45,655 |
ข้อมูลจาก:huasengheng.co.th | 22 พ.ย. 2567 18:53 |
ราคาทองอ้างอิงจาก เว็บไซต์ของร้านทองฮั่วเซ่งเฮง โดยอัปเดทตามการเปลี่ยนแปลงราคาจากหน้าเว็บ
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ของร้านทองอีกครั้ง
ข่าวราคาทองฮั่วเซ่งเฮง เยาวราช
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงเป็นวันแรกหลังจากตลาดเปิดทำการหลังจากหยุดวันคริสต์มาส โดยบรรยากาศการซื้อขายของตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงไปกว่า 3% นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยลบเพิ่มเติมที่ว่า จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ราคาทองคำเช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์พบราคาปรับตัวลดลงกว่า 3 ดอลลาร์ สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 1,081 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ภาพรวมราคาแกว่งขึ้นลงในกรอบแคบระหว่างบริเวณ 1,069-1,081 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากปลายสัปดาห์ตลาดต่างประเทศหยุดวันคริสต์มาส
ราคาทองคำตั้งแต่ช่วงวันพฤหัสบดีเป็นต้นมามีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากในตลาดทองคำต่างประเทศทั้งสหรัฐ ยุโรปรวมถึงตลาดเอเชียอย่างฮ่องกง ปิดทำการเนื่องในวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ทำให้ปริมาณการซื้อขายทองคำในตลาดค่อนข้างเบาบางมาก
ราคาทองคำปรับลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องมาจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ขานรับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ส่งผลให้เม็ดเงินถูกโอนย้ายจากตลาดความเสี่ยงต่ำไปสู่ตลาดสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นวันแรกหลังจากก่อนหน้านี้ทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันกว่า 30 ดอลลาร์ เนื่องมาจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน และเม็ดเงินได้ถูกโอนถ่ายเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงหลังการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้เคลื่อนใหวในกรอบแนวรับแนวต้านสำคัญ โดยทองคำปรับตัวร่วงลงหลุดระดับแนวรับสำคัญ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับ 1,074.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2010
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงเป็นวันที่ 7 โดยล่าสุดทองคำได้รับปัจจัยลบกดดันเนื่องจากรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอย่างตัวเลขการจ้างนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคมนี้
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน โดยทองคำยังคงได้รับปัจจัยลบจากแรงกดดันเมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปเดือนธันวาคม ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ นอกจากนี้ ทองคำยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ทองคำยังได้ร้บแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ทองคำยังเผชิญกับแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง หลังราคาหลุดแนวรับสำคัญ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วัน