ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วง จากดอลลาร์แข็ง หลังเฟดลดQE คงดอกเบี้ยระดับต่ำ ไม่มีสัญญานขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศบาทอ่อนทองลง 100

ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักอีกครั้ง หลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้น ส่วนผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระยะสั้นต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดโครงการเข้าซื้อพันธบัตรลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์

หลังจากตลาดทราบผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ที่เสร็จสิ้นลงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็พบแรงเทขายทองคำอย่างหนัก หลังจากที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed fund rate) ไว้ที่ระดับ 0-0.25% และยังคงยืนยันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับใกล้ 0% ต่อไป แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนดก็ตาม พร้อมกันนี้เฟดยังได้ประกาศปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้

ทองฟื้นตัวขึ้นในกรอบแคบๆ ในประเทศบาทแข็งเล็กน้อย ส่วนทองคงที่! คาดทั้งหมดรอผลประชุมเฟดในคืนนี้

ราคาทองฟื้นตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ ส่วนภาพรวมการเคลื่อนไหวของทองคำนั้นพบการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนในตลาดต่างจับตาดูการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ที่จะเสร็จสิ้นในคืนวันนี้ตามเวลาไทย

ราคาทองคำเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบหลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงหนักติดต่อกัน 5 วันทำการ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยนักลงทุนจับตาดูการประชุมของเฟดในวันอังคารและวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยคาดว่าแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงก่อนทราบผลการประชุม จะมีการเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบ

ทองฟื้นตัวเล็กน้อย หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอ่อนแอ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งเล็กน้อย ทองขึ้น 50

ราคาทองฟื้นตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ โดยทั้งนี้ตลาดมีการคาดการณ์ที่ว่า การที่ราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนอาจจะกระตุ้นแรงซื้อในตลาดมากขึ้น

พบแรงซื้อทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม หดตัวลง 0.1% และนับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกของข้อมูลภาคอุตสาหกรรม นับตั้งแต่เดือนมกราคม และนับเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ยังไม่ต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนซึ่งมีมุมมองที่ว่า ราคาได้ปรับตัวลงมาจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว โดยดัชนีความแข็งแกร่งของทองคำได้ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 30 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการดีดตัวกลับ

ทองยังอยู่ในขาลง ระยะสั้นอาจดีดตัวขึ้นทางเทคนิค สัปดาห์นี้จับตาประชุมเฟด ในประเทศเช้านี้เปิดทองคงที่!

ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงต่อเนื่องและแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากนักลงทุนต่างคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้จากการประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งสัญณานแข็งแกร่งต่อเนื่อง และประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลต่อทิศทางของสกุลเงินดอลลาร์ให้ดีดตัวแข็งค่าขึ้น และกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างหนัก ในขณะที่แนวโน้มราคาทองคำนักวิเคราะห์คาดว่า แนวโน้มราคาในระยะนี้จะยังคงอยู่ในทิศทางขาลง เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกจากประเด็นต่างๆ ที่เข้ามา ซึ่งอาจจะพบการฟื้นตัวของราคาทองคำในช่วงสั้นๆ แต่คาดว่าเป็นการปรับขึ้นจากปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น หลังจากราคาได้ปรับตัวลดลงมามากในช่วงที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองจะมีแนวโน้มอ่อนแรงลง หากธนาคารกลางสหรัฐคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น โดยในปีนี้ ราคาทองจะมีการปรับตัวผันผวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัจจัยความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรงหรือ

ทองร่วงลงหนักตลอดทั้งสัปดาห์ จากกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ในประเทศสัปดาห์นี้ลง 450

ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องและทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 7 เดือนที่ระดับ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยถูกแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งสัญญานแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดรอบ 14 เดือน ขณะเดียวกันกระแสคาดการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้สร้างความน่าสนใจให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรเข้ามายังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ตรงกันข้ามได้ส่งแรงกดดันอย่างหนักมายังราคาทองคำให้ร่วงลง โดยพบว่าเดือนนี้ทองคำร่วงลงไปแล้วกว่า 6.2%

โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองจะมีแนวโน้มอ่อนแรงลง หากธนาคารกลางสหรัฐคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น โดยในปีนี้ ราคาทองมีการปรับตัวผันผวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัจจัยความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรงหรือผ่อนคลายความตึงเครียดลง

ทองร่วงหนักติด 4 วันทำการ จากประเด็นเดิมเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกิดคาด ทองในประเทศ 2 วันลงแล้ว 250 บาท

ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องติดต่อกัน 4 โดยทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ระดับ 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเด็นหลักที่กดดันทองคำอยู่ในขณะนี้อยู่ที่ กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวยังได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนซึ่งส่งผลกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย

นักลงทุนต่างมีความกังวลจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ได้ฉุดทองคำร่วงลงติดต่อกันหลายวัน โดยนักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 16-17 กันยายนนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะดำเนินการหรือส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอาจจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558

โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า หากสหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงนี้ ก็จะยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนมักจะ