| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 39,950.00 | 40,050.00 |
| ทองรูปพรรณ | 39,234.08 | 40,550.00 |
| วันนี้ -50 | -50 | |
| 04 พฤษภาคม 2567 | เวลา 09:03 น. | (ครั้งที่ 1) |
– ทองฟื้นนักลงทุนประเมินเฟดทำ QE ต่อ
– ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐลดลงมากกว่าคาด
– คาดทองยังทรงตัวรอติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ
ราคาทองคำฟื้นตัวกลับในการซื้อขายช่วงค่ำวานนี้ หลังจากในการซื้อขายวันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างแรง การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและประเทศอื่นๆที่โดยรวมแล้วมีสัญญาณชะลอตัว เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองฟื้นตัวขึ้นสวนทางกับตลาดสินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) รายงานราคาทองชนิด 96.5% ประจำวันอังคารที่ 4 มิ.ย.2556 เวลา 09:37 น. (ครั้งที่ 1)
ราคาทองคำแท่ง รับซื้อคืนบาทละ 20,250 บาท ขายออก 20,350 บาท
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อคืนบาทละ 19,950.56 บาท ขายออก 20,750บาท ปรับเพิ่มขึ้น 150 บาท เมื่อเทียบปิดตลาดเมื่อวานนี้(วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2556)
ส่วนค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ 30.34-30.36 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากวานนี้ หลังข้อมูล ศก.สหรัฐอ่อนแอ คาดกรอบไม่เกิน 30.50 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,420เหรียญต่อออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,393 (22.30 น.) เหรียญต่อออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.42 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองคำ จากสมาคมค้าทองคำ(เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย.56) เปิดที่ 20,200 บาท กับ 20,300 บาท และกลับมาปิดที่ 20,150 บาท กับ 20,250 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,893 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,664 คู่สัญญา Silver Futures อยู่
– ทองร่วงหลุด 1,400 เหรียญ
– ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีกว่าคาด
– สัปดาห์นี้(3-7 มิถุนายน 56) ติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ
– ราคาทองคำช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเคลื่อนไหวผันผวน โดยราคาทองเริ่มฟื้นตัวกลับหลังจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อการยุติการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ จนราคาดีดตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือ 1,400 ดอลลาร์ ก่อนที่ในช่วงค่ำวันศุกร์ได้เริ่มมีแรงขายกลับออกมาจนราคาเริ่มอ่อนตัวลง
– รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา(27-31 พฤษภาคม 56)โดยรวมแล้วมีสัญญาณชะลอตัว และอาจส่งผลต่อการดำเนิน
ราคาทองคำวันนี้ จันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2556 ทองแท่งขายออกบาทละ 20,150 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 20,550 บาท ปรับขึ้น 100 บาท
สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) รายงานราคาทอง ชนิด 96.5% ประจำวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2556 เวลา 09:27 น. (ครั้งที่ 1)
ราคาทองคำแท่ง รับซื้อคืนบาทละ 20,050 บาท ขายออก 20,150 บาท
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อคืนบาทละ 19,753.48 บาท ขายออก 20,550 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 100 บาท เมื่อเทียบกับปิดตลาดเมื่อวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. 56
สัปดาห์นี้(จันทร์ที่ 27-ศุกร์ที่ 31 พ.ค. 56) ราคาทองคำ มีการเคลื่อนไหวผันผวน ตามค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นไปตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา โดยในช่วงต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,373-1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ในวันพฤหัสราคาทองคำมีแนวโน้มสดใสขึ้น หลังจากที่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง เป็นผลจากมีแรงเทขายในตลาดหุ้นอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนมีการคาดการณ์ โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการยุติหรือลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่นักลงทุนเริ่มโยกเงินมาลงทุนทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาในวันพฤหัสไม่ดี และแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ ทั้งจีดีพีไตรมาส 1 ซึ่ง เป็นการประมาณการครั้งที่ 2 ออกมาขยายตัว 2.4% ต่ำกว่าประมาณการครั้งแรกที่ขยายตัว 2.5%
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 20.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,413.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์(Gold spot) ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 1,417 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯวานนี้(พฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 56)ออกมาน่าผิดหวัง โดยประมาณการณ์ GDP ครั้งที่ 2 ออกมาต่ำกว่าที่คาด 2.4% โดยนักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.5%
ขณะที่ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนเมษายน 56 ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 1.1% และยอดผู้ขอรับสวัสดิการที่เพิ่มขึ้น 10,000 รายสู่ระดับ 354,000 ราย ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะยังคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สภาวะตลาดวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,389.33-1,410.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,230 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 310 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,920 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 684 บาท โดยราคาปรับตัวเพิมขึ้น 7 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 677 บาท
แนวโน้มราคาทองวันพรุ่งนี้(ศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2556)
การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงจากระดับ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,388 เหรียญต่อออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืน(พุธที่ 29 พ.ค. 56) ที่ระดับ 1,390 (22.30 น.) เหรียญต่อออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.20 บาทต่อดอลลาร์
ราคาสมาคมค้าทองคำ(พุธที่ 29 พ.ค. 56) เปิดที่ 19,750 บาท กับ 19,850 บาท และกลับมาปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,224คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,203 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 6
– ทองปิดบวก แต่ยังไม่ผ่าน 1,400 ดอลลาร์
– SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 0.90 ตัน
– คาดทองทรงตัวรอปัจจัยใหม่
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดการซื้อขายในช่วงกลางวัน(พุธที่ 29 พ.ค. 56) ก่อนที่ในช่วงเย็นจะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา จนราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,400 ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ที่แนวต้านดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้(พฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 56) ตลาดหุ้นของสหรัฐและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มอ่อนตัวลง และเริ่มมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา
ราคาทองคำวันนี้(พฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 56) ทองแท่งขายออกบาทละ 20,000 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 20,400 บาท ปรับขึ้น 150 บาท
สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) รายงานราคาทอง 96.5% ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 2556 เวลา 09:25 น. (ครั้งที่ 1)
ราคาทองคำแท่ง รับซื้อคืนบาทละ 19,900 บาท ขายออก 20,000 บาท
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อคืนบาทละ 19,617.04 บาท ขายออก 20,400 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้วันพุธที่ 29 พ.ค.56 150 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เชื่อ หาก กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายเกิน 0.25% ทองมีโอกาสกลับมาบาทละ 20,000 อีกครั้ง…
ธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด คาดการณ์ถึงสถานการณ์ราคาทองคำในวันนี้ว่า ทิศทางยังคงเป็นขาลงต่อไป ภายหลังมีปัจจัยกดดัน มาจากทั้งการประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงที่สุดในรอบ 5 ปี และกรณีที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ส่งสัญญาณว่าจะยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอีกอย่างน้อย 2 ปี
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ในวันนี้ จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำหรือไม่นั้น นายธนรัชต์ กล่าวว่า หากเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์เอาไว้ว่าอาจจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อราคา