ราคาทองคำเช้านี้กลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากราคาร่วงลงปริมาณมากก่อนหน้านี้ ขณะที่ช่วงดึกคืนวันนี้ตามเวลไทย นักลงทุนติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เพื่อดูว่าคณะกรรมการเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปหรือไม่
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 41,550.00 | 41,650.00 |
ทองรูปพรรณ | 40,795.56 | 42,150.00 |
วันนี้ 50 | 50 | |
12 ตุลาคม 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
ข่าวแนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงกว่า 12 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาแอตแลนตา คาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลอังคารเช้าในประเทศเปิดตลาดร่วงตาม 150 บาท
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 จากแรงหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ภายหลังการประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงกว่าคาดการณ์ในไตรมาสแรกของปีนี้ ในประเทศประกาศราคาวันเสาร์ขึ้น 50 บาท โดยวันจันทร์ 1 พ.ค.สมาคมหยุดวันแรงงาน
ราคาทองคำฟื้นตัวกลับขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังราคาร่วงลงแรงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ รายละเอียดมาตรการปฏิรูปภาษีของคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ลงรายละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอ เป็นอีกแรงหนุนต่อการฟื้นตัวของทองคำ
ราคาทองคำเช้าวันจันทร์ปรับตัวลดลง ภายหลังผลการเลือกตั้งฝรั่งเศส โดยนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครแนวคิดสายกลางมีคะแนนมาเป็นที่หนึ่ง ส่งผลให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ฝรั่งเศสจะเดินหน้ากระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยภาพรวมทองคำยังเคลื่อนไหวบริเวณ 1,240-1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ประเด็นการลงมติเกี่ยวกับการนำร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” มาใช้นั้นสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ยกเลิกการลงมติ
ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 เนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้
ทองร่วง!! เหตุดอลลาร์แข็งเมื่อเทียบกับยูโร จากกังวลปัญหาหนี้กรีซ ในประเทศเช้านี้ทองลง 100
ราคาทองคำร่วงลงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง จากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับยูโร หลังจากตลาดมีความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
ทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น พุ่งขึ้น 0.48% ทั้งนี้การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ตลาดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่ากรีซอยู่ระหว่างการเจรจากับ IMF และประเทศในยูโรโซนเกี่ยวกับการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่เจ้าหนี้ของกรีซกำหนดไว้เป็นเงื่อนไขในการที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่เร่งด่วน
ทองเช้านี้ปรับลดลง คาดจากแรงขายทางเทคนิค หลังปรับขึ้นสูงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในประเทศเช้านี้บาทอ่อน ทองลง 50
เช้านี้ทองคำร่วงลงแล้วกว่า 5 ดอลลาร์ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุด 1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหนุนทองคำมาจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ประเด็นความตึงเครียดในตะวันออกกลางและวิกฤติหนี้ของกรีซเป็นส่วนเสริมแรงหนุนต่อทองคำให้ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดดังกล่าว
ประเด็นจากที่เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากการประชุมครั้งล่าสุดเสร็จสิ้นลงนั้น ก็เกิดคาดการณ์ใหม่ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราวเดือนกันยายน หลังจากที่ก่อนหน้านี้คาดการว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงเดือนมิถุนายน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาไม่ดี นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นในเยเมนและปัญหาการเจรจาหนี้ระหว่างลูกหนี้กรีซและเจ้าหนี้ยูโรโซนยังไม่คลี่คลาย ทำให้มีเกิดมีแรงซื้อทองคำเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามช่วงวันศุกร์ เริ่มมีแรงเทขายทำกำไรทองคำออกหลังจากที่ทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันกว่า 7 วัน ซึ่งประธานเฟดแถลงว่าเฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตรา
ทองคำโลกลดลงวันแรก ปิดตลาดต่ำกว่า $1,200 ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองขึ้น 250 โดยเงินบาทอ่อนยังช่วยหนุน
ราคาทองคำตลาดปรับตัวลดลงเป็นวันแรก เนื่องมาจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากที่ทองคำปรับตัตัวขึ้นติดต่อกัน 7 วัน ขณะที่การคาดการณ์ว่าดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ปรับตัวลดลงในระยะนี้ ก็ได้กระตุ้นให้นักลงทุนส่วนหนึ่งขายทำกำไรเช่นกัน
เทรดเดอร์ในตลาด กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำคือ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งโดยปกติแล้ว ทองคำและเงินดอลลาร์สหรัฐจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกัน นั่นหมายความว่าหากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ทองคำที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็จะปรับตัวลดลง และมีนักวิเคราะห์กล่าวว่า ดูเหมือนเงินดอลลาร์สหรัฐจะเริ่มทรงตัวและพร้อมที่จะกลับมาปรับตัวขึ้น หลังจากที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา
นักลงทุนบางรายเชื่อว่า เงินดอลลาร์สหรัฐพร้อมที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่อ่อนค่าลงมา 2 สัปดาห์ ซึ่งการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น จะไม่เป็น
ทองพุ่ง จากดอลลาร์อ่อน หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐผันผวน โดยเฉพาะประเด็นรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงลดลง ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองขึ้น 350
ราคาทองคำพุ่งขึ้น จากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานลดลงมากกว่าคาดในเดือนธันวาคม ในรอบกว่า 8 ปี แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราการว่างงานลดลง
ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เนื่องจากทองคำซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ หลังจากสหรัฐเผยข้อมูลแรงงานที่ไม่สอดคล้องกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้น 252,000 ราย จากระดับ 353,000 รายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 240,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง ทั้งนี้ตัวเลขการจ้างงานในเดือนธันวาคม ถือเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ราย