ราคาทองคําปรับตัวเพิ่มตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) กำลังเตรียมคุมเข้มนโยบายการเงิน ในประเทศขึ้นได้ไม่มาก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 45,400.00 | 45,500.00 |
ทองรูปพรรณ | 44,585.56 | 46,000.00 |
วันนี้ 400 | -50 | |
05 กุมภาพันธ์ 2568 | เวลา 16:10 น. | (ครั้งที่ 14) |
ข่าวแนวโน้มราคาทองคํา
ราคาทองคําปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 7 ทะยานเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ในประเทศวันเสาร์ปรับขึ้น 50 บาท
ราคาทองพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เนื่องจากความกังวลว่ามาตรการปฏิรูปภาษีอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ไม่มากเท่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้ ในประเทศเงินบาทอ่อนหนุนเช้านี้ขึ้นตามทองโลก 150 บาท
ราคาทองคําเช้าวันจันทร์ปรับตัวลดลงกว่า 5 ดอลลาร์ จากราคาวันศุกร์ที่ราคาดีดตัวขึ้น ภายหลัง อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ(FBI) เกี่ยวกับการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย ในประเทศเปิดตลาดลง 50 บาท
ราคาทองคําปรับลดลง เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ช่วยสกัดการลดลงของทองคำไว้ ส่วนทองคําในประเทศประกาศราคาวันเสาร์ปรับลดลง 50 บาท
ราคาทองคําดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แตะระดับ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องมาจากได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และการปรับฐานลงของตลาดหุ้นสหรัฐ หนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในประเทศขึ้นไม่มาก เหตุจากเงินบาทแข็งค่า
เฟดยืนยันเดินหน้า QE ต่อ หนุนราคาทองบวกต่อเนื่อง สวนทางราคาทองในประเทศที่ลดลง
ราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวานนี้แกว่งตัวขึ้นลงผันผวน โดยอ่อนตัวลง หลังจากรายงานตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทำให้มีแรงเทขายกลับออกมามาก แต่หลังจากนั้นราคาทองดีดตัวกลับไปบวก หลังทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ที่ยืนยันว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป