| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 43,850.00 | 43,950.00 |
| ทองรูปพรรณ | 43,054.40 | 44,450.00 |
| วันนี้ 200 | -50 | |
| 29 ตุลาคม 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 7) |
ราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ประกาศราคาทอง ชนิด 96.5% ประจำวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2558 ครั้งที่ 1 เวลา 09.20 น. จาก สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) เปิดตลาดวันนี้ ทองคงที่ จากปิดตลาดเมื่อวานนี้(วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558) โดย
ราคาทองคำปรับลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ทองคำร่วงลงเป็นผมมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ข้อมูลภาคแรงงานที่สดใสของสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนที่ผานมาว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 พฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3,000 ราย แตะ 265,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย
ส่วนในคืนวันนี้ นักลงทุนในตลาดต่างจับตาดูข้อมูลสำคัญอย่าง ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเมษายนของสหรัฐ โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัย
ราคาทองคำตลาดโลกปรับลดลงเล็กน้อย ส่วนภาพรวมยังเคลื่อนไหวในกรอบตามรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนจะทราบผลการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย หลังจากมีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ไม่ได้แสดงความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทองคำปรับลดลงเล็กน้อย ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐในเดือนเมษายน ของ ADP เพิ่มขึ้นเพียง 169,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ราย
ขณะเดียวกัน ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ไม่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยนางเยลเลนกล่าวว่า เศรษฐกิจยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดี ขณะที่นายล็อคฮาร์ทกล่าวว่า เขาไม่รู้สึกกังวลต่อ
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ หลังจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยล่าสุดเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอันเป็นผลมาจากยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม
ทองคำปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐในเดือนมีนาคมพุ่งขึ้นแตะ 5.14 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับเดือนที่แล้ว 3.59 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือนมีนาคมนับว่ามากที่สุดสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2551 และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ระดับ 4.20 หมื่นล้านดอลลาร์
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้วติดต่อกัน 3 วันทำการ อันเนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันในคืนวันศุกร์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งทะยานขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามเช้านี้ทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ จากการร่วงลงหนักช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำปรับตัวลดลง 3 ทำติดต่อกัน โดยช่วงคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ทองคำร่วงลงเกือบ 30 ดอลลาร์ เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี และหลังจากนั้นทองคำยังได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากตัวเลขภาคแรงงานดังกล่าวแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งส่งผลทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น จึงทำให้ทองคำเป็นที่ต้องการน้อยลง
ราคาทองคำปรับลดลงเป็นวันแรกจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้พุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ จากการอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในรอบ 9 สัปดาห์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำให้ปรับลดลงได้ไม่มาก
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม มีแรงสกัดการปรับลดลงของทองคำให้ลดลงในกรอบจำกัด เนื่องจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ไตรมาสแรกของสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาด โดยจีดีพีช่วงไตรมาสแรกของสหรัฐขยายตัวเพียง 0.2% เมื่อเทียบไตรมาส 4 ของปีที่แล้วที่ระดับ 2.2% และน้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีจะมีการขยายตัว 1% ในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ ข้อมูลจีดีพีที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาสแรกปีนี้ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางกลุ่มกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงลงก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ทั้งภาคการผลิตและตลาดแรงงาน ได้กระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นักลงทุนหันกลับเข้าเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 18 เมษายน เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 295,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 290,000 ราย
ขณะที่มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐประจำเดือนเมษายน ร่วงลงสู่ระดับ 54.2 จากระดับ 55.7 ในเดือนก่อนหน้า และลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5
ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลายลง นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้ส่งผลกดดันต่อทองคำ
นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จนทำให้ปิดตลาดทองคำนิวยอร์กร่วงลงกว่า 16 ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลายลง หลังจากซาอุดิอาระเบียประกาศยุติปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ(NAR) เปิดเผยข้อมูล ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมีนาคม พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.1% สู่ระดับ 5.19 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน
ส่วนในคืนวันนี้นี้ มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอย่าง ข้อมูลยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนมีนาคม รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ราคาทองคำฟื้นตัวกลับขึ้นหลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทองคำกลับมาได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ZEW ประจำเดือนเมษายน ของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 64.8 จาก 62.4 ในเดือนก่อนหน้า และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ZEW เดือนเมษายนของเยอรมนี ลดลงเหลือ 53.3 จาก 54.8 ในเดือนมีนาคม ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 55.3 และถือเป็นการปรับลดลงครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตาประเด็นการเจรจาหนี้ของกรีซและเจ้าหนี้ยูโรกรุ๊ปในการประชุมวันศุกร์นี้ ทั้งนี้มีรายงานว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB) เตรียมยื่นข้อเสนอให้มีการปรับเพิ่มหลักประกันที่เรียกเก็บจากธนาคารของกรีซในกรณีที่มีการกู้ยืมเงินจากกองทุนฉุกเฉิน รายงานดัง
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วงวันศุกร์ หลังจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากเกิดความกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติกรีซรายงานว่า ฐานะการคลังสาธารณะของกรีซในปี 2557 ย่ำแย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก ซึ่งเกิดความกังวลว่ากรีซมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนหน้า
ส่วนสัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของราคาทองคำ อยูู่ที่การประชุมยูโรกรุ๊ปในวันที่ 24-25 เมษายนนี้ ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อเจรจาหนี้ระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ ทั้งนี้กรีซมีกำหนดต้องจ่ายหนี้ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ IMF ในเดือนพฤษภาคมนี้ ทางด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลงสู่ระดับ CCC+ จาก B- พร้อมกับเตือนว่าภาระหนี้สินและพันธะกรณีด้านการเงินอื่นๆของกรีซนั้นจะได้รับผลกระทบ หากกรีซไม่เดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจในเชิงลึก หรือหากภาระหนี้สินของกรีซไม่ได้รับการบรรเทา
นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญจากทั่วโลกในสัปดาห์นี้ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทอง มีข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป จีน รวมถึงตัวเลข
ราคาทองคำปรับลดลงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว
ทองคำร่วงลงหลังจากนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดได้แสดงความคิดเห็นกับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้มากยิ่งขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังจะปรับขึ้นสู่อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของเฟด
อย่างไรก็ตาม รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาส่งสัญญานอ่อนแอ จึงส่งผลเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำผ่านการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ที่สิ้นสุดวันที่ 11 เมษายน เพิ่มขึ้น 12,000 ราย อยู่ที่ระดับ 294,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 281,000 ราย
