ราคาทองเช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ราคาปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์แรก หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ส่วนในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมเฟดคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย .25% กดดันต่อราคาทองคำ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 51,500.00 | 51,600.00 |
ทองรูปพรรณ | 50,573.76 | 52,400.00 |
วันนี้ 250 | 250 | |
24 พฤษภาคม 2568 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
ข่าวแนวโน้มราคาทองวันนี้
ราคาทองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปอนด์และยูโร โดยเฉพาะเงินปอนด์ที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังผลการเลือกตั้งพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าและแรงเทขายหลังราคาปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วัน วันนี้ติดตาม การเลือกตั้งอังกฤษ ประชุมธนาคารกลางยุโรป การเข้าให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI คาดส่งผลให้ราคาทองผันผวน
ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7เดือน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในต่างประเทศ ทั้งความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ การเลือกตั้งในอังกฤษ และการเข้าให้การต่อวุฒิสภาประเด็นรัสเซียของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวย FBI
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ขานรับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. ของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยเพิ่มน้ำหนักที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
พุธเช้าราคาทองปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ในวันศุกร์นี้ ส่วนทองคำในประเทศยังถูกกดดันต่อเนื่องจากเงินบาทที่ยังแข็งค่าบริเวณ 34.14 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองคำปรับขึ้นเป็นวันที่ 2 ที่ระดับ 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจากความวิตกกังวลการเมืองสหรัฐและความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงเหตุระเบิดในงานคอนเสิร์ตที่อังกฤษซึ่งอาจจะเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นแรงกว่า 22 ดอลลาร์ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแผนการปฏิรูปภาษีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนำมาซึ่งการถอดถอน ปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง