อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับการลงทุนทองคำ ที่ได้กูรูมาวิเคราะห์และแนะนำให้ท่านผู้กำลังลงทุนทองคำ หรือกำลังสนใจที่จะมาลงทุนในทองคำ นำไปปรับใช้ในการปรับพอร์ตของตนเอง ตามความเหมาะสม และคิดว่าข้อมูลชินนี้น่าจะเป็นโยชน์ต่อทุกคน ไม่มากก็น้อย…
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 62,250.00 | 62,350.00 |
ทองรูปพรรณ | 61,003.84 | 63,150.00 |
วันนี้ 1,400 | 50 | |
08 ตุลาคม 2568 | เวลา 17:02 น. | (ครั้งที่ 33) |
📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับหลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง ครึ่งสลึง, 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท, 2 บาท และ 5 บาท
- อ้างอิงจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- ร้านทองสามารถหักราคาคืนทองรูปพรรณได้ไม่เกิน 5% (แต่หากเป็นทองคำที่มาจากต่างร้านอาจคิดลดหรือหักได้มากกว่า 5%)
- ใช้ราคาทองแท่งรับซื้อ ณ วันนี้62,250 บาท เป็นฐานคำนวณ
- ใช้ได้เฉพาะเมื่อซื้อคืนจากร้านเดิมเท่านั้น
- อาจมีค่ากำเหน็จหรือความเสียหายเพิ่มเติมตามสภาพทอง
- เป็นการคำนวณราคาเบื้องต้นโปรดสอบถามราคาที่ร้านทองอีกครั้ง
- ร้านทองอาจรับซื้อทองรูปพรรณคืนในราคาที่ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ และต้นทุนในการบริหารจัดการกิจการของแต่ละร้าน
สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย

ทองคำถูกกำหนดการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อ ดอลลาร์อ่อนค่า → ทองจะแพงขึ้นตามค่าเงิน ตรงกันข้าม หาก ดอลลาร์ แข็งค่า → ทองก็จะถูกลงตามค่าเงิน

เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า และเมื่อคนต้องการซื้อทองมากขึ้นจึงส่งผลให้ราคาทองแพงขึ้น

ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง

ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย

ราคาทองขึ้น/ลงตามกลไกตลาด ถ้าความต้องการ (อุปสงค์) มากกว่า ปริมาณทอง (อุปทาน) → ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น
อุปสงค์: การลงทุน, เครื่องประดับ, ซื้อตามเทศกาล, ธนาคารกลางสะสม, ใช้ในอุตสาหกรรม
อุปทาน: ผลิตจากเหมือง, รีไซเคิล, การขายออกของธนาคารกลาง

ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม
กูรูวิเคราะห์ราคาทอง/ข่าวเกี่ยวกับทองคำล่าสุด
ขออนุญาตินำบทวิเคราะห์ข้อมูลของราคาทองคำในปีนี้ของ คุณ กาญจนา หงษ์ทอง ที่ลงไว้ใน กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ไว้อย่างน่าสนใจ และคิดว่าข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชนฺ์แก่นักลงทุนทองคำ หรือผู้สนใจในทองคำ ไม่มากก็น้อย
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท แม่ทองสุก แนะ นักลงทุนอย่าลงทุนทองเกินตัว เหตุราคายังผันผวนหนัก ต้องยึดกลยุทธขาลง ปรับการซื้อ ขายให้รวดเร็วทันสถานการณ์…
“เซียนทอง” แนะระวัง ดีมานด์ทองเริ่มแผ่ว เชื่อใกล้เข้าสู่ทิศทางขาลงอีกครั้ง แนะใช้กลยุทธ์เก็งกำไรในกรอบแคบๆ ไปก่อน…
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ชี้ หากทองผ่านระดับ 1,530 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ ได้ จึงจะอยู่ในช่วงขาขึ้น…
เซียนทองแม่ทองสุก(กฤชรัตน์) เตือนแรงซื้อเริ่มน้อย ทองอาจดิ่งอีก
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท แม่ทองสุก เตือน แรงซื้อเริ่มน้อย ราคาทองมีสิทธิดิ่งอีก เหตุปัจจัยพื้นฐาน ต่างๆ ยังไม่เอื้อ…
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท แม่ทองสุก กล่าวถึงสถานการณ์ราคาทองคำในวันนี้(อังคารที่30 เม.ย.56) ว่า ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์(22-26 เม.ย.56)ที่ผ่านมา แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างก็มองว่า เป็นเพียงการปรับตัวขึ้นทางเทคนิคเท่านั้น และได้ปรับตัวขึ้นมาในจุดที่เป็นเป้าหมายสำคัญแล้ว คือที่ระดับ 1,485-1,500 เหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็เนื่องมาจาก
1. มีแรงซื้อมาเกื้อหนุนจากทองคำแท่งทางฝั่งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากจีน หรืออินเดีย
4 เซียน(จิตติ, ธนรัชต์, บุญเลิศ,กฤชรัตน์) ส่องราคาทองคำ สิ้นยุคขาขึ้น-รับมือตลาดผันผวน
ขออนุญาตินำบทความ บทวิเคราะห์ดีๆ ของ 4 เซียนกูรูทางด้านทองคำอันดันต้นๆ ของเมืองไทยมาให้อ่านกัน เป็นบทความจากไทยรัฐออนไลน์ที่ 4 สุดยอดกูรูอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้ให้ข้อคิดและฟันธงฉับๆ กับภาวะการผันผวนของราคาทองคำในขณะนี้ และต่อไปในอนาคต และผมคิดว่าเป็นข้อมูลที่ดีทีเดียวที่เราๆ ท่านๆ น่าจะนำไปวิเคราะห์และตัดสินใจสำหรับการลงทุนในทองคำ…แต่ย้ำนะครับ ต้องทำอย่างไม่ประมาท วิเคราะห์ให้รอบด้าน เหมือนที่เขาบอกกันว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาส นั่นเอง…
ความปั่นป่วนของราคาทองคำโลกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งใช้เวลาเพียง 2 วัน กดราคาให้ร่วงลง จนทำนิวโลว์เท่ากับราคาทองคำเมื่อ 2 ปีก่อน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่นักลงทุนทองคำทั่วโลก
ทั้งผู้ที่ลงทุนในทองคำแท่ง กองทุนรวมอีทีเอฟทองคำ (ETF- Exchange Traded Fund) รวมทั้งตลาดสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) หรือ ทองคำที่ซื้อกันบนกระดาษ
โดยน่าจะเป็นครั้งแรกที่ราคาทองคำปรับลงรุนแรงนับจากที่เดินหน้าสู่การเป็นวัฏจักร “ขาขึ้น” ตลอด 12 ปีที่ผ่านมาที่ราคาทองคำได้ปรับขึ้นต่อเนื่องถึง 495.12% จากระดับราคา 310 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือบาทละ 6,355 บาท (ค่าเงินบาทขณะนั้น 39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) จนเคยขึ้นมาสูงสุดถึง 1,920 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
รายงานราคาทองคําประจำวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 500 บาท ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองในประเทศบริเวณ 61,450 บาท หลังจากเมื่อวาน(อังคาร) มีการประกาศราคาทั้งหมด 16 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 450 บาท สูงสุดบริเวณ 61,100 บาท
ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้นแรงขึ้นทดสอบระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลถูกชัตดาวน์ ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งแรงนิวไฮ
รายงานราคาทองวันนี้วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 450 บาท สู่บริเวณ 60,950 บาท หลังจากเมื่อวาน(จันทร์) ผันผวนหนัก 24 ครั้ง รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,050 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศในครั้งที่ 23 บริเวณ 60,550 บาท
ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้น All-Time high อย่างต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแรงซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดพุ่งแตะ 60,950 บาท
รายงานราคาทองประจำวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.02 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 600 บาท แตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 60,050 บาท หลังจากราคาทองวันเสาร์ที่เพิ่มขึ้น 250 บาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำเพิ่มขึ้นมากถึง 2,050 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าพุ่งขึ้น 2,000 บาท
ราคาทองคํา Spot ดีดตัวขึ้นนิวไฮทะลุ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ รวมทั้งความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งนิวไฮ 60,050 บาท
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งเดียว เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 250 บาท สู่บริเวณ 59,450 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(ศุกร์) ที่ระหว่งวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 12 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 200 บาท สู่บริเวณ 59,200 บาท
ราคาทองคํา Spot ฟื้นตัวกลับขึ้นหลังปรับฐานลงเนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย รวมทั้งความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ ส่วนราคาทองในประเทศประกาศครั้งเดียววันเสาร์เพิ่มขึ้น 250 บาท
รายงานราคาทองคําวันนี้วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวลงแรง 150 บาท สู่บริเวณ 59,250 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พฤหัสบดี) ที่ระหว่งวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 9 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 150 บาท สู่บริเวณ 59,400 บาท
ราคาทองคํา Spot ยังเคลื่อนไหวในระดับสูงแม้จะถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์รวมทั้งแรงเทขายทำกำไรทางเทคนิคหลังจากราคาพุ่งนิวไฮติดต่อกัน คืนวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐเนื่องจากหน่วยงานรัฐถูกปิดทำการ ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลงแรง
รายงานราคาทองคําประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวลงแรง 250 บาท สู่บริเวณ 59,300 บาท หลังจากเมื่อวาน(พุธ) มีการประกาศราคาทองทั้งหมด 16 ครั้งรวมเพิ่มขึ้นแรง 1,150 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศบริเวณ 59,55o บาท
ราคาทองคํา Spot ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไรทางเทคนิคหลังจากเมื่อวานพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลหลังจากหน่วยงานของรัฐบาลกลางของสหรัฐถูกชัตดาวน์เนื่องจากขาดงบประมาณ ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดร่วงลงจากนิวไฮ
รายงานราคาทองวันนี้วันพุธต้นเดือน 1 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.09 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 1,000 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 59,400 บาท หลังจากเมื่อวาน(อังคาร) ผันผวนหนักเช้าพุ่งแรงนิวไฮบริเวณ 59,300 บาท จากนั้นช่วงบ่ายปรับตัวลงต่อเนื่องมาปิดตลาดในครั้งที่ 32 บริเวณ 58,400 บาท
ราคาทองคํา Spot ดีดตัวกลับขึ้นนิวไฮหลังจากเมื่อวานผันผวนหนักช่วงเช้าดีดตัวขึ้นนิวไฮจากนั้นช่วงบ่ายร่วงหนักและดีดตัวกลับขึ้นในช่วงค่ำใกล้นิวไฮเดิมจากแรงหนุนความวิตกรัฐบาลกลางสหรัฐจะถูกชัตดาวน์ และคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย ด้านทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งกลับขึ้นนิวไฮ
รายงานราคาทองประจำวันอังคารสิ้นเดือน 30 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 650 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 58,850 บาท หลังจากเมื่อวาน(จันทร์) ระหว่างวันขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 14 ใน 22 ครั้ง ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการของวันบริเวณ 57,350 บาท
ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้นแรงทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่อย่างต่อเนื่องโดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งกังวลหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐจะถูกปิดทำการ ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดวันสิ้นเดือนพุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. เพิ่มขึ้นพรวดเดียว 300 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 57,700 บาท หลังจากประกาศราคาซื้อขายครั้งเดียววันเสาร์เพิ่มขึ้นนิวไฮบริเวณ 57,400 บาท โดยสัปดาห์ที่แล้วทองคำเพิ่มมากถึง 2,000 บาท