ราคาทองคําวันนี้

ทั้งสัปดาห์ทองลงกว่า 1.9% ทั้งเดือนม.ค.ลงกว่า 3.1% สัปดาห์หน้าตามตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ ในประเทศทั้งสัปดาห์นี้ลง 200

ภาพรวมราคาทองคำทั้งสัปดาห์นี้(27-31 ม.ค.) ค่อนข้างผันผวนแกร่งตัวไปในทิศทางอ่อนตัว โดยตลอดทั้งสัปดาห์พบว่าปรับตัวลงกว่า 1.9% และพบว่าตลอดทั้งเดือนมกราคมนี้ ราคาทองปรับลดลงไป 3.1 % โดยประเด็นหลักที่ส่งผลให้ทองคำผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์อยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐและรายงานเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งสถานการณ์ทางการเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะตุรกี

โดยผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ได้มีมติเอกฉันท์ในการปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้วงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเหลือ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากระดับเดิม 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่าหากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

ทองพุ่ง จากวิกฤติการเงินในตลาดเกิดใหม่ ก่อนเฟดประกาศลด QE ส่งผลในประเทศขึ้นตาม 200 ร่วมกับบาทอ่อนระดับ 33 หนุน

ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นขานรับแรงซื้อเก็งกำไรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ทางการเงินในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ยังคงผันผวนและไร้เสถียรภาพทางการเงิน แม้ว่าธนาคารกลางตุรกีได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงินภายในประเทศแล้วก็ตาม

โดยนักวิเคราะห์เชื่อกันว่าทองคำจะยังคงเป็นที่ต้องการ ตราบใดที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่ยังคงมีอยู่ และนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาได้ หลังจากที่ร่วงลงก่อนหน้านี้เพราะมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะตัดสินใจลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก

ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐนั้น นักลงทุนต่างระมัดระวังในการซื้อขาย ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบ และผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีมติตัดสินใจปรับลดมาตรา

ทองพุ่งขึ้นต่อเนื่อง เหตุกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ในประเทศสัปดาห์นี้ลุ้นทองแท่งที่ 20,000 อีก 200

ราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน หลังจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ ประกอบกับได้แรงหนุนทางเทคนิคจากการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ทำให้มีแรงซื้อทองคำเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐ หลังจากเศรษฐกิจประเทศจีนเริ่มส่งสัญญานชะลอตัวลงซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ผลักดันให้ทองคำทะยานตัวทะลุระดับ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อินเดียจะนำเข้าทองคำเพิ่มมากขึ้นหากว่ารัฐบาลอินเดียตัดสินใจปรับลดภาษีนำเข้าทองคำจึงส่งผลให้ค่าพรีเมียมในอินเดีย ปรับตัวลดลงไปกว่า 30% อีกทั้งกำลังซื้อจากจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนสัปดาห์นี้ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อได้

สรุปโดยภาพรวมราคาทองตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเพียง 1% แต่ก็ยังเป็นสถิติการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 5 นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

ทองพุ่ง หลังรายงานเศรษฐกิจสหรัฐและจีนชะลอตัว ในประเทศได้อานิสงส์ขึ้นตาม 200 บาท

ราคาทองคำพุ่งขึ้นปริมาณมากหลังจากนักลงทุนผิดหลังกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินกดดันให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยราคาทองดีดตัวขึ้นสวนทางกับราคาสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ ที่ต่างปรับตัวลงในปริมาณค่อนข้างมาก

รายงานจาก เอชเอสบีซี โฮลดิงส์รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมกราคม ลดลงสู่ระดับ 49.6 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และลดลงจากระดับ 50.5 จุด ในเดือนธันวาคม เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ซบเซา ขณะที่มาร์กิตรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมกราคมของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงสู่ระดับ 53.7 จากเดือนธันวาคมที่ระดับ 55.0 จุด อีกทั้งกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างรายรอบสัปดาห์พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,000 ราย ที่ระดับ 326,000 ราย และปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในสภาวะฟื้นตัว

นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาทองคำร่วงลงเมื่อคืนก่อน ภายหลังจากวาณิชย์ธนกิจหลายแห่ง