ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง44,150.0044,250.00
ทองรูปพรรณ43,357.6044,750.00
วันนี้ 55050
22 พฤศจิกายน 2567เวลา 17:09 น.(ครั้งที่ 14)

ข่าวทิศทางราคาทองคำ


ทองยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง หลังยืนเหนือระดับ $1,300 ในประเทศบาทแข็งสุด ขึ้นน้อยกว่าปกติ


แนวโน้มทิศทางราคาทองราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ส่วนเมื่อวานนี้ตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี(President’s Day) ทำให้การซื้อขายค่อนข้างเบาบาง อย่างไรก็ตามประเด็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ผ่านมามีสัญญาณชะลอตัวลง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ประกอบกับปัญหาความกังวลในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนของประเทศตลาดเกิดใหม่ยังเป็นปัจจัยหนุนราคาทองให้ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้

ในขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน โดยธนาคารกลางจีน เปิดเผย ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่สกุลเงินหยวนในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าและสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะไม่ชะลอตัวมากเท่ากับที่วิตก ข้อมูลที่แข็งแกร่งของจีนในเดือนมกราคมช่วยหนุนราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้น

ในขณะเดียวกันก็พบว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดในกลุ่มยูโรโซน โดยเฉพาะในเยอรมนีและฝรั่งเศส ได้ช่วยหนุนมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน

ทองโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังผิดหวังรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ในประเทศ 2 วันขึ้น 400 บาท


แนวโน้มทิศทางราคาทองคำราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(10-14 ก.พ.) ทั้งยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลดลง รวมทั้งจำนวนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ก็เพิ่มขึ้น และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐนี้ได้สร้างความน่าสนใจให้แก่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเพิ่มกระแสคาดการณ์ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า มาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ คงยังไม่สามารถยุติลงได้ในเร็วๆ นี้

อีกทั้งการพุ่งขึ้นของราคาทองคำส่วนหนึ่งนั้นมาจากแรงหนุนจากฝั่งเอเชีย ทั้งความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งในตลาดสปอตของจีน และการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายข้อจำกัดการนำเข้าทองคำของอินเดีย

ในขณะที่กองทุน SPDR Gold Trust กลับมาเป็นสถานะซื้อสุทธิได้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีทำการซื้อ-ขายเร็วมากขึ้น ซึ่งขณะนี้กองทุนถือครองทองคำรวมที่ระดับ

ทั้งสัปดาห์ทองพุ่งขึ้นทำสถิต 4.4% ทั้งปีขึ้นแล้ว 9.7% นักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้ขึ้นต่อเนื่อง ในประเทศเช้านี้ขึ้น 250 ทองคำแท่งทะลุ 20,000 แล้ว


แนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้าภาพรวมของราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(10-14 ก.พ.) พบว่าปรับตัวขึ้นกว่า 4.4% และทำสถิติปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 8 วัน ทะลุแนวต้านสำคัญจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถแตะระดับสูงสูดได้ในรอบกว่า 3 เดือน

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอีก 18.5 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,318.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่่องมาจากได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่แข็งแกร่งในตลาดสปอตของจีน และการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายข้อจำกัดการนำเข้าทองคำของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับหนึ่งและสองของโลก ประกอบกับราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐทรงตัวอยู่ที่ระดับ 81.2 ในเดือนก.พ. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 80.0

ในขณะเดียวกันสำนักข่าวซินหัวจากจีนได้รายงานว่า การที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 9.7% ในปีนี้ และสามารถฝ่าทะลุระดับแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่

ทองพุ่งต่อเนื่อง จากแถลงของประธานเฟด ที่มีมุมมองเป็นบวกต่อทองคำ ในประเทศบาทแข็งขึ้นได้น้อย


ราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง โดยทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 และปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พฤศิจกายน ของปีที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนต่างขานรับถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐว่าจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณต่อไปอย่างระมัดระวัง และต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจากถ้อยแถลงดังกล่าวได้สร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนว่าการมาตราการผ่อนคลายทางการเงินนี้คงยังจะไม่ยุติลงในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า แนวต้านของทองคำจะตรึงอยู่ที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกมาจากความต้องการใช้ทองคำในจีนซึ่นเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆ ของโลก ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากรายงานด้านเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดีเกินคาด

และจาการที่กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดแผยปริมาณการถือครองทองคำที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 798.852 ตัน

ทองตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ขานรับถ้อยแถลงประธานเฟดคนใหม่ ในประเทศบาทแข็งยังขาดแรงหนุน


แนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องและทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ หลังการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ว่าจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตราการ QE ต่อไป เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ในขณะเดียวกัน นางเยลเลน ได้เน้นย้ำว่าจะดำเนินการปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรอย่างระมัดระวัง และต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐจึงจะนำไปสู่การลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยขณะนี้ตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงเดินหน้านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปเป็นระยะเวลานาน

ซึ่งโดยสรุปคำแถลงวันแรกของประธานธนาคารกลางสหรัฐ เป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ราคาทองในระยะสั้นและกลางมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งหากราคาปรับตัวขึ้นปริมาณมากจะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมา และอาจทำให้ราคาทองปรับลดลงได้แต่เพียงกรอบจำกัด

ทองพุ่งต่อเนื่อง อานิสงส์ตลาดจีนกลับมาเปิดทำการพร้อมความต้องการเพิ่มขึ้น ในประเทศขึ้นอีก 150 จับตาประธานเฟดแถลงคืนนี้


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่าปริมาณการใช้ทองคำในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีนได้กลับเข้าซื้อขายในตลาดทองคำอีกครั้งหลังจากวันหยุดยาว 7 วันในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งทำให้ทองคำสามารถทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา

โดยสมาคมทองคำจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ปริมาณการใช้ทองคำในจีนพุ่งขึ้น 1,000 ตัน สู่ระดับ 1,176.40 ตัน ในปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 41.36% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ สมาคมทองคำจีนยังรายงานด้วยว่า ผลผลิตทองคำในจีนเมื่อปี 2556 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 428.16 ตัน

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาทองจะยังคงได้รับแรงจำกัด เนื่องจากนักลงทุนต่างยังเฝ้าจับตาดูถ้อยแถลงนโยบายของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคาร

คาดราคาทองระยะสั้น กลาง แนวโน้มขาขึ้น หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาด ในประเทศบาทแข็งยังขาดแรงหนุน


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำระยะสั้นระยะกลางมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น หลังจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมารายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ผลักดันให้เกิดกระแสการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะชะลอการปรับลดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามยังมีตัวเลขอัตราการว่างงานที่ลดลง 0.1% สู่ระดับ 6.6% ที่ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อการดีดตัวขึ้นราคาทองคำในเวลานี้

ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ยังคงต้องต้องติดตามปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจจากทั้งจีนและสหรัฐ โดยเฉพาะถ้อยแถลงการณ์ของ นางเจเน็ต แยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐคนใหม่ ที่มีกำหนดแถลงมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในวันพรุ่งนี้ โดยตลาดต่างเฝ้าจับตาดูถ้อยแถลงนี้ว่าอาจจะมีการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในอนาคต ซึ่งคาดว่าถ้อยแถลงดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ให้แกว่งตัวขึ้นลงผันผวน และสำหรับภาพเทคนิคของราคาทองคำ

ทองพุ่ง หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐต่ำกว่าคาด ในประเทศขึ้น 100 บาท


แนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำตลาดทั้งสัปดาห์นี้(3-7 ก.พ.) พบว่าปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยบวกจากรายงาเศรษฐกิจโดยเฉพาะจีนและสหรัฐที่ตัวเลขภาคการผลิตต่างชะลอตัวลง ประกอบกับความวิตกกังวลเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ ทำให้มีแรงเทขายในตลาดหุ้นและมีความต้องการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา

ส่วนรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญที่ตลาดเฝ้าติดตามเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมกราคม พบว่าขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจชะลอการปรับลดขนาดมาตรการ QE และเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำ ทะยานตัวขึ้นได้อีกครั้ง

โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 113,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ด้านอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 6.6% ในเดือนม.ค. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 6.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด

ซึ่งมีคำกล่าวจาก เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ ว่า การปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะต้องไม่กระทบต่อการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ดังนั้นตัวเลขจ้างงาน

ทองทรงตัว คาดรอรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐคืนนี้ ส่งผลในประเทศเช้านี้คงที่จากปิดเมื่อวาน


แนวโน้ม ราคาทองวันนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไร และระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น ก่อนที่คืนนี้ตามเวลาในไทย สหรัฐจะมีการเปิดเผยจำนวนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมกราคม ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้น้ำหนักมากที่สุดต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองอยู่ในขณะนี้

โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของกระทรวงแรงงานสหรัฐ จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 111,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 6.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังจากที่ในเดือนก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงไป 74,000 ตำแหน่ง ซึ่งคาดกันว่ามาจากสาเหตุอากาศหนาวเย็นเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐนั่้นเอง

ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าออกมาค่อนข้างดี ทั้งจำนวนตัวเลขการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกินคาด และยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่

ทองขึ้นจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำหลังหุ้นสหรัฐร่วง ภายหลังตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าคาด ในประเทศบาทแข็งขึ้นเพียง 50


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นขานรับรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ซึ่งนักลงทุนต่างผิดหวังกับตัวเลขการจ้างงานดังกล่าว และกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง

เมื่อคืนที่ผ่านมา ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ฉุดตลาดหุ้นสหัฐให้ปรับตัวลง และกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจโดยเฉพาะการเปิดเผย รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ในวันศุกร์นี้ ยังเป็น

ทองลง คาดยังผันผวนต่อตามรายงานเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก ในประเทศเช้านี้ลง 50 จากทองโลกลงร่วมบาทแข็ง


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในขณะที่นักลงทุนต่างเทขายทองคำและหันกลับไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง หลังการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กหลังจากร่วงลงอย่างหนักกว่า 2% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของทั้งสหรัฐและจีน

ทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ราคาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลดอลลาร์นั้นมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากสภาวะการเงินที่ไร้เสถียรภาพของตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยรายงานคิทโก้ระบุว่า ในช่วงเวลานี้สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ยังคงไร้เสถียรภาพและยังสร้างกระแสความผันผวนให้กับตลาดอยู่ เป็นแรงหนุนทำให้ราคาทองคำยังสามารถคงทรงตัวที่ระดับสูง อีกทั้งรวมไปถึงปัจจัยบวกจากการเข้าถือ

ทองพุ่งขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแออย่างมาก ตามข้อมูลแรงงานสหรัฐพุธ-ศุกร์ ในประเทศเช้านี้ขึ้น 150


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นในระดับสูง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตออกมาอ่อนแออย่างมาก ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง โดยนักลงทุนมีความไม่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตจริงหรือไม่

รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาออกมาน่าผิดหวัง ส่งผลให้สกุลเงินดอลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในปริมาณค่อนข้างมาก โดยหลังจากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลงมากกว่าที่ตลาดประเมินโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของภาคการผลิต ได้หดตัวลงในเดือนมกราคมเนื่องจากยอดคำสั่งซื้อใหม่ในภาคอุตสาหกรรมร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 33 ปี โดยดัชนีภาคการผลิตชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 51.3 จุดในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 โดยลดลงจากระดับ 56.5 จุด ในเดือนธันวาคม

ในขณะเดียวกันนักลงทุนยังมีความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ ซึ่งยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำอยู่ในขณะนี้