ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองวันนี้ล่าสุด พุธที่ 20 สิงหาคม 2568

ทองคำแท่งชนิด 96.5%
ขายออก51,250.00
รับซื้อ51,150.00
ประกาศครั้งที่ 2 เวลา 11:35 น. +50 บาท
ราคารวมวันนี้-100 บาท
ทองรูปพรรณชนิด 96.5%
ขายออก52,050.00
ฐานภาษี50,134.12
ขายทองรูปพรรณที่ร้านทองวันนี้ได้กี่บาท?
หากวันนี้เรานำทองรูปพรรณไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน ไปขายคืนที่ร้านทอง ร้านจะใช้ ราคาทองแท่งรับซื้อในวันนี้ 51,150 บาท เป็นฐานคำนวณ แล้ว หักค่ารับซื้อประมาณ 5% ตามที่ประกาศโดยสคบ.

📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับ หลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง เช่น 1 สลึง, ครึ่งสลึง, 1 บาท, 5 บาท เป็นต้น
ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ (หัก 5%)
ครึ่งสลึง (0.125 บาท)
00,000.00 บาท
1 สลึง (0.25 บาท)
00,000.00 บาท
2 สลึง (50 สตางค์)
00,000.00 บาท
1 บาท
00,000.00 บาท
2 บาท
00,000.00 บาท
5 บาท
00,000.00 บาท
หลักเกณฑ์การรับซื้อคืนทองรูปพรรณ
  • อ้างอิงจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
  • ร้านทองสามารถหักราคาคืนทองรูปพรรณได้ไม่เกิน 5% (แต่หากเป็นทองคำที่มาจากต่างร้านอาจคิดลดหรือหักได้มากกว่า 5%)
  • ใช้ราคาทองแท่งรับซื้อ ณ วันนี้51,150 บาท เป็นฐานคำนวณ
  • ใช้ได้เฉพาะเมื่อซื้อคืนจากร้านเดิมเท่านั้น
  • อาจมีค่ากำเหน็จหรือความเสียหายเพิ่มเติมตามสภาพทอง
  • เป็นการคำนวณราคาเบื้องต้นโปรดสอบถามราคาที่ร้านทองอีกครั้ง
  • ร้านทองอาจรับซื้อทองรูปพรรณคืนในราคาที่ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ และต้นทุนในการบริหารจัดการกิจการของแต่ละร้าน

ทำไมราคาทองคำถึงขึ้นๆ ลงๆ?

สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ถ้า USD อ่อนค่า → ทองแพงขึ้น
ถ้า USD แข็งค่า → ทองถูกลง

เงินเฟ้อ
2. เงินเฟ้อ

เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า เป็นที่มาให้ทองแพงขึ้น

ดอกเบี้ย
3. ดอกเบี้ย

ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง

วิกฤตเศรษฐกิจ/ความไม่แน่นอน
4. วิกฤตเศรษฐกิจ/ความไม่แน่นอน

ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย

ค่าเงินบาท
5. ค่าเงินบาท (THB)

ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทย/ข่าวเกี่ยวกับทองคำล่าสุด

หุ้นไทย(พุธที่ 12 มิ.ย.56) ผันผวนหนักปิดร่วง 19 จุด กังวลเฟด

ภาวะตลาดหุ้นไทย พุธที่ 12 มิ.ย.56 ปิดลบบรรยากาศความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยประจำวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 ผันผวนอย่างหนัก โดยเปิดตลาดดัชนีปรับลดลงทันทีเกือบ 18 จุด และมีแรงขายต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงเกือบ 30 จุด แตะจุดต่ำสุดที่ 1,422 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังหวาดกลัวกับภาวะตลาดต่างประเทศที่ปรับลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่ S&P ได้ปรับเครดิตสหรัฐเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจเพิ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้กังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดขนาดมาตรการ QE ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังเทขายหุ้นไทยต่อเนื่องหลังจากค่าเงินบาทอ่อนต่อเนื่องด้วย

ขณะที่เปิดตลาดช่วงบ่ายมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่นส่งผลให้ดัชนีสามารถปรับขึ้นไปยืนแดนบวกได้ โดยแตะระดับสูงสุดที่

หุ้นไทยสุดสัปดาห์ศุกร์ที่ 7 มิ.ย.56 ปิดบวก 26 จุด เงินบาทปิดที่ 30.62-30.65

ภาวะการซื้อขายตลาดหุ้นไทย เงินบาทวันนี้บรรยากาศความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยประจำวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ 7 มิถุนายน 2556 ดัชนีผันผวนอย่างมาก โดยเปิดตลาดดัชนีปรับร่วงทันที โดยแตะระดับต่ำสุดที่ 1,483.75 จุด ก่อนมีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงบ่ายดัชนีปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,516.69 จุด ก่อนย่อตัวลงมาปิดการซื้อขายที่ 1,516.24 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด (1.75%) มูลค่าการซื้อขาย 52,002.95 ล้านบาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนมาก โดยช่วงเช้าตลาดปรับตัวลดลงไปถึง 1,483 จุดก่อนที่จะมีการดีดกลับขึ้นมาแรงเนื่องจากเป็นผลทางเทคนิคเคิลรีบาวน์หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวลงไปมากจากระดับเกือบ 1,650 จุดลงไปมากกว่า 150 จุด ทั้งนี้ เนื่องจากความไม่ชัดเจนในเรื่องของคิวอี

หุ้นไทย(พุธที่ 5 มิ.ย.56) ปิดร่วง 32จุด กังวลเฟด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปิดลบบรรยากาศความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยประจำวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2556 ดัชนีปรับลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยเปิดตลาดดัชนีปรับลดลงต่อเนื่อง ก่อนมีแรงซื้อกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาช่วงท้ายตลาดเช้าส่งผลให้ดัชนีปรับขึ้นมาแตะระดับสูงสุดของวันที่ 1,549.38 จุดได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายดัชนีผันผวนต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงเปิดตลาด จากนั้นก็มีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมา ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงต่อเนื่องตามตลาดในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาด

หุ้นไทย(พุธที่ 29 พ.ค. 56) ปิดลบ 17 จุด หลัง กนง.หั่นดอกเบี้ย 0.25%

ข่าวหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยปิดลบปิดตลาดหุ้นประจำวันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2556ไทย ลบ 17.96 จุด อยู่ที่ 1,601.61 จุด นักลงทุนเทขาย หลังกนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด มองแนวโน้มพรุ่งนี้ยังร่วงต่อ

บรรยากาศความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นไทยประจำวันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,624.87 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไนหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่ความเคลื่อนไหวในช่วงบ่าย ดัชนีปรับลดลงกว่า 10 จุด ทันทีที่เปิดตลาด และปรับลดลงต่อเนื่องหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,599.92 จุด

ชินคอร์ป ฉุดหุ้นไทย(พุธที่22พ.ค.56) ปิดลบ 12.61 จุด

สรุปภาวะการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยประจำวันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2556) ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้าดัชนียืนในแดนบวก โดยปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,648.30 จุด ขณะที่ช่วงท้ายตลาดมีแรงเทขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (INTUCH)ออกมาต่อเนื่อง หลังบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์แนะนำให้ขาย เนื่องจากมองว่าราคาปัจจุบันสูงเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 1,629.47 จุด และปิดการซื้อขายที่ 1,631.27 จุด ลดลง 12.16 จุด หรือ 0.74% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 73,247.37 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 228 หลักทรัพย์ ลดลง 418 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 157 หลักทรัพย์

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้(พฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2556) ว่า ต้องติดตามการแถลงการประชุมคณะกรรมการ

หุ้นไทยครึ่งวันเช้าต้นสัปดาห์(จันทร์ที่20พ.ค.56) บวก 11.46 จุด ชินคอร์ป ซื้อขายสูงสุด

ข่าวหุ้นไทยบรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคเช้าต้นสัปดาห์จันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2556 ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,642.99 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อย ส่งผลให้ดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ 1,636.21 จุด ก่อนปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 1,639.42 จุด เพิ่มขึ้น 11.46 จุด คิดเป็น 0.70% มูลค่าการซื้อขาย 27,725.32 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 386 หลักทรัพย์ ลดลง 213 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์

หุ้นไทยครึ่งวันเช้าสุดสัปดาห์ศุกร์17พ.ค.56 บวก 9.92 จุด ที่ 1,627.81 จุด

บรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์เช้านี้ศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2556 ดัชนีปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,612.12 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดที่ 1,629.40 จุด สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา

ดัชนีปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 1,627.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.92 จุด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.61% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 27,753.39 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 376 หลักทรัพย์ ลดลง 227 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 148 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ

หุ้นไทย พุธที่15พฤษภาคม56 ปิดบวก 6.61 จุด ซีพี ออลล์ ซื้อขายสูงสุด

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยกลางสัปดาห์วันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดต่างประเทศ รับกระแสข่าวคิวอีที่เกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ที่เริ่มเข้ามากซื้อหุ้นในกลุ่มที่มีการเติบโตในประเทศ ทั้งกลุ่มค้าปลีก, อสังหาริทรัพย์และรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น โดยระหว่างการซื้อขายดัชนีได้ปรับเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,635.42 จุด ขณะที่ช่วงท้ายตลาดมีแรงขายทำกำไรเล็กน้อยส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงต่ำสุดที่ 1,627.85 จุด ก่อนปิดการซื้อขายที่ 1,630.09 จุด เพิ่มขึ้น 6.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,461.68 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 326 หลักทรัพย์ ลดลง 324 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 144 หลักทรัพย์

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 43 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 339 เพิ่มขึ้น 5.00 บาท คิดเป็น 1.50%

หุ้นไทยต้นสัปดาห์(จันทร์ที่ 13พ.ค.56) ปิดตลาดที่ 1,617.731 ลบ 4.75 จุด

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยต้นสัปดาห์วันนี้(จันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556) ดัชนีปรับลดลงในกรอบแคบๆ ตลอดการซื้อขาย โดยช่วงเช้าดัชนีปรับขึ้นไประดับสูงสุดที่ 1,625.64 จุด หลังตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะมีข่าวดีหลังการหารือนัดพิเศษระหว่างกระทรวงการคลัง,ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.),คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)และภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม หลังการหารือนัดพิเศษไม่มีมาตรการใหม่ๆ ออกมาแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่า ทำให้เกิดแรงขายหุ้นทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ออกมา ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงอยู่ระดับต่ำสุดที่ 1,608.59 จุด และปิดการซื้อขายที่ 1,617.73 จุด ลดลง 4.75 จุด หรือติดลบ 0.29% มูลค่าการซื้อขาย 42,757.30 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 247 หลักทรัพย์ ลดลง 398 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 127 หลักทรัพย์

ดอลลาร์แข็งรับเศรษฐกิจฟื้น ทำบาทอ่อนค่าลง

วันนี้(ศุกร์ที่ 10 พ.ค.56) นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทในวันนี้(ศุกร์ที่ 10 พ.ค.56) ว่า ทิศทางยังคงจะไปในทิศทางอ่อนค่าต่อไป โดยปัจจัยหลักน่าจะมาจาก การที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยได้ทะลุระดับ 101 เยน ต่อ ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบวกเรื่องรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา เรื่องตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี อีกทั้ง การส่งสัญญาณจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่ออกมาในระยะหลัง มีท่าทีทำนองจะยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลง

พฤหัสฯที่ 9 พ.ค.56 ดาวโจนส์ปิดลบ22จุด แรงขายทำกำไร

แรงขายทำกำไรระยะสั้น กดดาวโจนส์ปิดลบ 22.50 จุด ที่ 15,082.62 จุด หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 9 พ.ค. 2556) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตาม ตลาดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งปรับตัวลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งที่ปรับตัว เพิ่มขึ้นเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 22.50 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 15,082.62 จุด

พุธที่8พ.ค.56 เงินบาทปิดตลาดที่29.33/40 แข็งค่าตามยูโร

ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 29.33/40 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นตามเงินสกุลยูโร-เงินไหลเข้าหนุน

นักค้าเงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดวันนี้พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 ที่ระดับ 29.33-29.40 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากที่เปิดตลาดในช่วงเช้า ตามการแข็งค่าของเงินสกุลยูโรที่แข็งค่าขึ้นมาในช่วงบ่ายวันนี้ ประกอบกับมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ส่งผลให้มีความต้องการซื้อเงินบาทมีมากขึ้น บาทจึงแข็งค่าขึ้นมาจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.33 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับวันพรุ่งนี้(พฤหัสบดีที่ 9 พ.ค.56) ทิศทางของค่าเงินบาทขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาล ว่า

ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่8พ.ค.56) ปิดบวก 13 จุด แตะ 1,614.15 จุด

ปิดตลาดหุ้นไทยประจำวันพุธที่ 8 พ.ค.2556 ที่ระดับ 1,614.15 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด คิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.81% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 56,711.32 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 392 หลักทรัพย์ ลดลง 270 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 130 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 87 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 หรือคิดเป็น 2.96%
2.ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 280 บาท เพิ่มขึ้น 10 หรือคิดเป็น 3.70%

สกุลเงินเอเชียเริ่มแข็งค่าใกล้ค่าบาท

ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เชื่อ การอ่อนค่าของค่าเงินบาทในช่วงนี้ คงไม่รุนแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สกุลเงินเอเชีย เริ่มแข็งค่าใกล้บาทแล้ว…

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทในวันนี้ ว่า สำหรับค่าเงินบาทในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงนิ่งๆ อยู่ โดยเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 29.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังกังวลว่า ทางการจะมีการออกมาตรการอะไร ออกมาดูแลทิศทางของค่าเงินบาท สำหรับกรอบค่าเงินบาทในวันนี้อังคารที่  7 พ.ค. 56 อยู่ที่ 29.65-29.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

แนวโน้มสัปดาห์หน้า(6-10พ.ค.56)บาทอ่อนค่า จับตารัฐสกัดบาทแข็ง

แนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าอ่อนค่าในกรอบ 29.30-29.90 บาทต่อดอลลาร์ จับตารัฐงัดมาตรการสกัดบาทแข็ง-ตัวเลขศก.สหรัฐ

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทรงตัวต่อเนื่อง โดยธนาคารพาณิชย์มีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) มีระดับหนาแน่นที่ 2.65% ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี (Bilateral Repo) ระยะเวลาไม่เกิน1เดือน อยู่ที่ 2.74925-2.75% เทียบกับ 2.75% จากสัปดาห์ก่อน

ปิดตลาดหุ้นไทย(ศุกร์ที่ 3พ.ค. 56)ก่อนหยุดยาว ลบ 10.24 จุด

ปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประจำวันศุกร์สุดสัปดาห์ก่อนหยุดยาว 3 วันที่ 3 พ.ค.2556 ที่ระดับ 1,578.95 จุด ลดลง 10.24 จุด คิดเป็นลดลง 0.64% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 43,910.49 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 207 หลักทรัพย์ ลดลง 443 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 121 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.JAS บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 7.90 -0.50 (-5.95%)
2.CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 41.50 ไม่เปลี่ยนแปลง
3.BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 8.55 -0.30 (-3.39%)

ศูนย์วิจัยกสิกร คาด ธปท. ยังไม่ลดดอกเบี้ย

ศูนย์วิจัยกสิกร คาด ธปท. ยังไม่ลดดอกเบี้ยนางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด แบงก์ชาติ ยังไม่ลดดอกเบี้ย ตามแรงกดดัน…

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทเช้านี้ว่า อ่อนค่าลงไปอีกเล็กน้อย โดยไปอยู่ที่ 28.84 – 28.85 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ น่าจะมาจากความต้องการดอลลาร์ของกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศในช่วงสิ้นเดือน และความกังวล กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวเตือนเรื่องความเคลื่อนไหวของค่าเงิน

หุ้นไทย(พุธที่ 10 เม.ย.56)ปิดบวก19 จุด รีบาวน์ตามตลาดตปท.

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้(พุธที่ 10 เม.ย.2556) ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ท่ามกลางความกังวลแรงขายนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 1,458.40 จุด ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นในช่วงท้ายตลาดสอดรับกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย หลังจีนประกาศตัวเลขนำเข้าที่ออกมาดีเกินคาด ดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,490.39 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,490.25 จุด บวก 19.53 จุด หรือ 1.33% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 43,497.88 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 433 หลักทรัพย์ ลดลง 238 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 109 หลักทรัพย์

สำหรับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

1.ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 237.00บาท +9.00 (+3.95%)
2.PTT บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 314.00บาท +3.00 (+0.96%)

ธปท.แจงบาทแข็งโป๊ก 28.95 รอบ 16 ปี แห่ซื้อกองอินฟราฯบีทีเอส

ประสาร“รับบาทแข็งเร็วเกินไป หลังบีโอเจงัดมาตรการผ่อนคลายการเงิน ผสมโรงนักลงทุนต่างชาติโยกเงินเข้าลงทุนกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์บีทีเอส

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้แข็งค่าเร็วเกินไป เนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนค่าเร็วมาก หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมาตรการผ่อนคลายมากกว่าคาด และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนต่างชาติโยกเข้าลงทุนในกองทุน BTSGIS โดยค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ 1.4% จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และแข็งค่า 4% เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ซึ่ง ธปท.มองว่าเงินเยนที่อ่อนค่าน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าส่งผลเสีย

คาดสัปดาห์หน้า(8-12เม.ย.56) ค่าบาทเคลื่อนไหวที่29.20-29.50บาทต่อดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้า(8-12เม.ย.2556)ค่าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.20-29.50 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตาสถานการณ์หนี้ยูโรโซน และผลต่อเนื่องจากมาตรการผ่อนคลายเชิงรุกของธนาคารกลางญี่ปุ่น…

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทกลับมาแข็งค่าท้ายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย (นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ) และแรงซื้อเงินดอลลาร์ จากกลุ่มผู้นำเข้าในช่วงที่สอดคล้องกับการดิ่งตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ (แม้ธุรกรรมจะเบาบางก่อนช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ) ท่ามกลางความหวังต่อเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง * ในวันศุกร์ (5 เม.ย.2556) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.28 เทียบกับระดับ 29.28 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (29 มี.ค.2556)

หุ้นไทยสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 5 เม.ย. 56) ปิดตลาดติดลบ 38.93 จุด กังวลปัญหาการเมือง

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์วันนี้(ศุกร์ที่ 5 เม.ย.2556) ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลปัญหาการเมือง หลังจากที่มีกระแสต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนปัจจัยต่างประเทศมาจากปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความกังวลการแพร่ระบาดไข้หวัดนก ระหว่างชั่วโมงการซ้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,517.25 จุด และต่ำสุดที่ 1,487.60 จุด ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,489.53 จุด ลดลง 38.93 จุด หรือ 2.55% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 49,849.76 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 132 หลักทรัพย์ ลดลง 562 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 83 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 315.00บาท-5.00 (-1.56%)

ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่ 3 เม.ย.56) ลบ 30.02 จุด กังวลปัญหาการเมืองในประเทศ

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (พุธที่ 3 เม.ย.56) ดัชนีแกว่งตัวผันผวน โดยในภาคบ่ายดัชนีร่วงลงอย่างรุนแรงสวนตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นเรื่องการเมืองในประเทศ กรณีที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจหลุดเก้าอี้ กรณีปล่อยเงินกู้ให้กับสามีนอกสมรส 30 ล้านบาท ระหว่างชั่วโมงการซือขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,562.39 จุด และต่ำสุดที่ 1,518.60 จุด ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,520.52 จุด ลดลง 30.02 จุด หรือ 1.94% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 59,179.29 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 126 หลักทรัพย์ ลดลง 597 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 85 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 183.00บาท +0.50 (+0.27%)
2.KBANK ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 203.00บาท -3.00 (-1.46%)

มติกนง. 5 ต่อ 1 เสียง คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.75%

กนง.ตรึง อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.75%ต่ออีกรอบ ระบุเศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ขณะที่หากไม่ระมัดระวังให้ดี โอกาสที่เสถียรภาพทางการเงินมีปัญหา และเกิดภาวะฟองสบู่ในอนาคตได้

เมื่อวันพุธที่ 3 เม.ย.2556 นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมกนง. วันนี้ (พุธที่3 เม.ย.56) ว่า กนง.มีมติ 5 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75 % ต่อปีเท่าเดิม โดยกรรมการ 1 ท่านเห็นสมควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 % ต่อปี โดยคณะกรรมการท่านดังกล่าว เห็นว่าความเสี่ยงของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงมีสูงและเศรษฐกิจใน ประเทศมีแนวโน้มที่อาจจะชะลอตัว ทำให้เห็นความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และในการประชุมครั้งนี้ กรรมการ 1 ท่าน ติดภารกิจในต่างประเทศจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมขณะที่คณะกรรมการฯที่เหลือ อีก 5 ท่าน มองว่า ในภาพรวมของ

ลุ้นหุ้นไทยสัปดาห์(1-5 เม.ย.56)หน้าปรับขึ้นต่อ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้า(1-5 เม.ย.56)หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่ระวังแรงขายทำกำไร โดยให้แนวรับที่ 1,523-1,477 จุด และแนวต้านที่ 1,580-1,600 จุด

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อของกองทุนและการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,561.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.55% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 20.03% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 62,088.64 ล้านบาท โดยนักนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 484.28 จุด เพิ่มขึ้น 10.97% จากสัปดาห์ก่อน