ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง43,600.0043,700.00
ทองรูปพรรณ42,811.8444,200.00
วันนี้ 60050
21 พฤศจิกายน 2567เวลา 15:38 น.(ครั้งที่ 7)

ข่าวปิดตลาดเช้าหุ้นไทย


ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่8พ.ค.56) ปิดบวก 13 จุด แตะ 1,614.15 จุด


ปิดตลาดหุ้นไทยประจำวันพุธที่ 8 พ.ค.2556 ที่ระดับ 1,614.15 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด คิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.81% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 56,711.32 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 392 หลักทรัพย์ ลดลง 270 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 130 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 87 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 หรือคิดเป็น 2.96%
2.ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 280 บาท เพิ่มขึ้น 10 หรือคิดเป็น 3.70%

สกุลเงินเอเชียเริ่มแข็งค่าใกล้ค่าบาท


ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เชื่อ การอ่อนค่าของค่าเงินบาทในช่วงนี้ คงไม่รุนแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สกุลเงินเอเชีย เริ่มแข็งค่าใกล้บาทแล้ว…

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทในวันนี้ ว่า สำหรับค่าเงินบาทในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงนิ่งๆ อยู่ โดยเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 29.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังกังวลว่า ทางการจะมีการออกมาตรการอะไร ออกมาดูแลทิศทางของค่าเงินบาท สำหรับกรอบค่าเงินบาทในวันนี้อังคารที่  7 พ.ค. 56 อยู่ที่ 29.65-29.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

แนวโน้มสัปดาห์หน้า(6-10พ.ค.56)บาทอ่อนค่า จับตารัฐสกัดบาทแข็ง


แนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าอ่อนค่าในกรอบ 29.30-29.90 บาทต่อดอลลาร์ จับตารัฐงัดมาตรการสกัดบาทแข็ง-ตัวเลขศก.สหรัฐ

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทรงตัวต่อเนื่อง โดยธนาคารพาณิชย์มีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) มีระดับหนาแน่นที่ 2.65% ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี (Bilateral Repo) ระยะเวลาไม่เกิน1เดือน อยู่ที่ 2.74925-2.75% เทียบกับ 2.75% จากสัปดาห์ก่อน

ปิดตลาดหุ้นไทย(ศุกร์ที่ 3พ.ค. 56)ก่อนหยุดยาว ลบ 10.24 จุด


ปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประจำวันศุกร์สุดสัปดาห์ก่อนหยุดยาว 3 วันที่ 3 พ.ค.2556 ที่ระดับ 1,578.95 จุด ลดลง 10.24 จุด คิดเป็นลดลง 0.64% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 43,910.49 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 207 หลักทรัพย์ ลดลง 443 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 121 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.JAS บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 7.90 -0.50 (-5.95%)
2.CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 41.50 ไม่เปลี่ยนแปลง
3.BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 8.55 -0.30 (-3.39%)

ศูนย์วิจัยกสิกร คาด ธปท. ยังไม่ลดดอกเบี้ย


ศูนย์วิจัยกสิกร คาด ธปท. ยังไม่ลดดอกเบี้ยนางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด แบงก์ชาติ ยังไม่ลดดอกเบี้ย ตามแรงกดดัน…

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทเช้านี้ว่า อ่อนค่าลงไปอีกเล็กน้อย โดยไปอยู่ที่ 28.84 – 28.85 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ น่าจะมาจากความต้องการดอลลาร์ของกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศในช่วงสิ้นเดือน และความกังวล กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวเตือนเรื่องความเคลื่อนไหวของค่าเงิน

หุ้นไทย(พุธที่ 10 เม.ย.56)ปิดบวก19 จุด รีบาวน์ตามตลาดตปท.


บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้(พุธที่ 10 เม.ย.2556) ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ท่ามกลางความกังวลแรงขายนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 1,458.40 จุด ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นในช่วงท้ายตลาดสอดรับกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย หลังจีนประกาศตัวเลขนำเข้าที่ออกมาดีเกินคาด ดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,490.39 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,490.25 จุด บวก 19.53 จุด หรือ 1.33% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 43,497.88 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 433 หลักทรัพย์ ลดลง 238 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 109 หลักทรัพย์

สำหรับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

1.ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 237.00บาท +9.00 (+3.95%)
2.PTT บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 314.00บาท +3.00 (+0.96%)

ธปท.แจงบาทแข็งโป๊ก 28.95 รอบ 16 ปี แห่ซื้อกองอินฟราฯบีทีเอส


ประสาร“รับบาทแข็งเร็วเกินไป หลังบีโอเจงัดมาตรการผ่อนคลายการเงิน ผสมโรงนักลงทุนต่างชาติโยกเงินเข้าลงทุนกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์บีทีเอส

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้แข็งค่าเร็วเกินไป เนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนค่าเร็วมาก หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมาตรการผ่อนคลายมากกว่าคาด และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนต่างชาติโยกเข้าลงทุนในกองทุน BTSGIS โดยค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ 1.4% จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และแข็งค่า 4% เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ซึ่ง ธปท.มองว่าเงินเยนที่อ่อนค่าน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าส่งผลเสีย

คาดสัปดาห์หน้า(8-12เม.ย.56) ค่าบาทเคลื่อนไหวที่29.20-29.50บาทต่อดอลลาร์


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้า(8-12เม.ย.2556)ค่าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.20-29.50 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตาสถานการณ์หนี้ยูโรโซน และผลต่อเนื่องจากมาตรการผ่อนคลายเชิงรุกของธนาคารกลางญี่ปุ่น…

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทกลับมาแข็งค่าท้ายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย (นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ) และแรงซื้อเงินดอลลาร์ จากกลุ่มผู้นำเข้าในช่วงที่สอดคล้องกับการดิ่งตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ (แม้ธุรกรรมจะเบาบางก่อนช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ) ท่ามกลางความหวังต่อเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง * ในวันศุกร์ (5 เม.ย.2556) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.28 เทียบกับระดับ 29.28 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (29 มี.ค.2556)

หุ้นไทยสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 5 เม.ย. 56) ปิดตลาดติดลบ 38.93 จุด กังวลปัญหาการเมือง


บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์วันนี้(ศุกร์ที่ 5 เม.ย.2556) ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลปัญหาการเมือง หลังจากที่มีกระแสต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนปัจจัยต่างประเทศมาจากปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความกังวลการแพร่ระบาดไข้หวัดนก ระหว่างชั่วโมงการซ้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,517.25 จุด และต่ำสุดที่ 1,487.60 จุด ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,489.53 จุด ลดลง 38.93 จุด หรือ 2.55% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 49,849.76 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 132 หลักทรัพย์ ลดลง 562 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 83 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 315.00บาท-5.00 (-1.56%)

ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่ 3 เม.ย.56) ลบ 30.02 จุด กังวลปัญหาการเมืองในประเทศ


บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (พุธที่ 3 เม.ย.56) ดัชนีแกว่งตัวผันผวน โดยในภาคบ่ายดัชนีร่วงลงอย่างรุนแรงสวนตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นเรื่องการเมืองในประเทศ กรณีที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจหลุดเก้าอี้ กรณีปล่อยเงินกู้ให้กับสามีนอกสมรส 30 ล้านบาท ระหว่างชั่วโมงการซือขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,562.39 จุด และต่ำสุดที่ 1,518.60 จุด ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1,520.52 จุด ลดลง 30.02 จุด หรือ 1.94% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 59,179.29 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 126 หลักทรัพย์ ลดลง 597 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 85 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 183.00บาท +0.50 (+0.27%)
2.KBANK ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 203.00บาท -3.00 (-1.46%)

มติกนง. 5 ต่อ 1 เสียง คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.75%


กนง.ตรึง อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.75%ต่ออีกรอบ ระบุเศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ขณะที่หากไม่ระมัดระวังให้ดี โอกาสที่เสถียรภาพทางการเงินมีปัญหา และเกิดภาวะฟองสบู่ในอนาคตได้

เมื่อวันพุธที่ 3 เม.ย.2556 นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมกนง. วันนี้ (พุธที่3 เม.ย.56) ว่า กนง.มีมติ 5 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75 % ต่อปีเท่าเดิม โดยกรรมการ 1 ท่านเห็นสมควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 % ต่อปี โดยคณะกรรมการท่านดังกล่าว เห็นว่าความเสี่ยงของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงมีสูงและเศรษฐกิจใน ประเทศมีแนวโน้มที่อาจจะชะลอตัว ทำให้เห็นความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และในการประชุมครั้งนี้ กรรมการ 1 ท่าน ติดภารกิจในต่างประเทศจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมขณะที่คณะกรรมการฯที่เหลือ อีก 5 ท่าน มองว่า ในภาพรวมของ

ลุ้นหุ้นไทยสัปดาห์(1-5 เม.ย.56)หน้าปรับขึ้นต่อ


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้า(1-5 เม.ย.56)หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่ระวังแรงขายทำกำไร โดยให้แนวรับที่ 1,523-1,477 จุด และแนวต้านที่ 1,580-1,600 จุด

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อของกองทุนและการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,561.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.55% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 20.03% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 62,088.64 ล้านบาท โดยนักนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 484.28 จุด เพิ่มขึ้น 10.97% จากสัปดาห์ก่อน


Page 2 of 812345678