ราคาทองคําวันนี้

ทองพุ่ง จากที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง หลังยอดค้าปลีกและอัตราว่างงานสหรัฐอ่อนแอ ในประเทศบาทแข็งขึ้นเพียง 150

ราคาทองคำพุ่งขึ้นระดับ 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนต่างวิตกกังวลกับภาวะการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากเมื่อคืนนี้สหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้งตัวเลขการค้าปลีกได้ปรับตัวลดลงและอัตราการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มสูงขึ้น

นักลงทุนโยกเงินกลับเข้าซื้อทองคำหลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่ายอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์เพียง 0.3% ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ในขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ระดับ 317,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลง

นอกจากนี้สถานการณ์รุนแรงในอิรักยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเช่นกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอิรักกำลังเผชิญกับความแตกแยก

ทองขึ้นอีกเล็กน้อย หลังธ.โลกปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้ ทองในประเทศเช้านี้คงที่

ราคาทองตลาดโลกปิดตลาดปรับขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1,261.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ส่วนราคาทองคำเช้าวันนี้เริ่มอ่อนตัวลงที่ระดับ 1,260 ดออลาร์ต่อออนซ์ และแนวโน้มราคาทองระยะนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบตามปัจจัยทางเทคนิค โดยนักลงทุนต่างรอรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในปลายสัปดาห์นี้

ธนาคารโลก(World Bank ได้ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก(Global Economic Prospects) โดยได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.8% จากที่เคยประเมินไว้ในเดือนมกราคม ที่ระดับ 3.2% พร้อมระบุว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีการขยายตัวที่น่าผิดหวัง รวมถึงความขัดแย้งในยูเครนที่สกัดกั้นการเติบโตเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีแรก

ทองดีดตัวขึ้นเหนือ $1,260 คาดยังจะเคลื่อนไหวในกรอบรอปัจจัยใหม่ๆ ในประเทศเช้านี้ขึ้น 100

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงตอบรับข่าวที่ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงข้อมูลด้านการส่งออกที่แข็งแกร่งของจีน และนอกจากนี้ภาวะการซื้อขายที่ซบเซาของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ขณะที่นักลงทุนต่างรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลขยอดค้าปลีก และดัชนีราคาผู้ผลิต ปลายสัปดาห์นี้

โดยภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองในสัปดาห์นี้ยังไม่พบปัจจัยใหม่ๆ จึงทำให้ภาพการเคลื่อนไหวของทองคำในระยะนี้เป็นเคลื่อนไหวตามปัจจัยทางเทคนิคซึ่งเริ่มมีสัญญาณซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนเมื่อวานนี้ทองคำตลาดนิวยอร์ก(COMEX) ปิดตลาดบวกขึ้นกว่า 6 ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่วิเคราะห์กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่เห็นอุปสงค์จากผู้บริโภค และความสนใจจากนักลงทุน ที่จะช่วยสนับสนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง นอกเสียจากว่าจะมี

ทองขึ้นเล็กน้อยได้แรงหนุนยอดส่งออกจีนสดใส คาดเคลื่อนไหวในกรอบรอเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า

ภาพรวมราคาทองคำเมื่อวานยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากก่อนหน้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยขานรับยอดส่งออกของจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากต่างจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์ก(COMEX) ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 7% แตะ 1.95 แสนล้านดอลลาร์ ภายหลังยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ในเดือนเมษายน และร่วงหนักในเดือนมีนาคมและกุมภาพันธ์ ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวรุนแรงของเศรษฐกิจจีน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังการซื้อขายเพื่อจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคม นักลงทุนให้ความ

ทองลงเล็กน้อย ภาพรวมเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ในประเทศบาทแข็งค่ากดดันทองลงจากวันเสาร์รวม 100

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์ทองคำอ่อนตัวลง ช่วงปลายสัปดาห์สามารถดีดตัวขึ้นได้และเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ต่อเนื่องมาถึงเช้าวันนี้ ส่วนทองคำในประเทศถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งแนวโน้มเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่ากดดันต่อ

ทองคำตลาดโลกปิดตลาดเมื่อวันศุกร์พบว่าอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากดีดตัวขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้ากว่า 10 ดอลลาร์จากการที่ธนาคารกลางยุโรปมีมติปรับลดดอกเบี้ยระดับต่ำสุดในการประชุมครั้งล่าสุด และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้

ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวตอบรับมากนัก กับรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมถึงแม้จะออกมาดีแต่ก็เป็นการสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ ที่ระดับ 2.17 แสนตำแหน่ง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.15 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน

ทองลงเล็กน้อยหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นตามคาด ในประเทศเช้านี้ลง 50 ทั้งสัปดาห์นี้ลง 150

ราคาทองคำปรับลงเล็กน้อย หลังจากที่เมื่อวานทองคำพุ่งขึ้นสูง จากที่ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ประกาศมาตรการชุดใหม่เพื่อต้านภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำและเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซน ขณะที่ตลาดต่างรอตัวการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา และปรากฏว่ารายงานดังกล่าวออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นก็เป็นปัจจัยถ่วงราคาทองให้ปรับตัวลง

โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่ง ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวได้ 215,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพฤษภาคม ทรงตัวในระดับเดิมที่ 6.3% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 6.4%

และถึงแม้ว่า ข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมขยายตัวน้อยกว่าเดือนเมษายนที่พุ่งขึ้นกว่า 282,000 ตำแหน่ง แต่สถิติตัวเลขการจ้างงานที่พุ่งสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในตลาดแรงงานของสหรัฐ