ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง บวกกังวลเฟดลด QE ในประเทศบาทอ่อนยังช่วยหนุน..เช้านี้ลงอีก 50 บาท

กลางสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวลดลงในปริมาณมาก ตอบรับการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องมาจากปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ประกอบกับรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งที่ผ่านมามีแนวโน้มในการพิจารณาปรับลดมาตราการโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะฉนั้นในระยะนี้แนวโน้มและทิศทางของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปรับตัวลดลงต่อ แต่หากสามารถดีดตัวกลับขึ้นได้ก็คงเป็นช่วงสั้นๆ

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา(21) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์คปิดตลาดลดลงอีก 14.40 ดอลลาร์ เนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ อย่างจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ ลดลง 21,000 ราย สู่ระดับ 323,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงที่ระดับ 335,000 ราย และจากข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้นักลงทุนลดการถือ

เศรษฐกิจสหรัฐ สัญญานเฟดลด QE หนุนดอลลาร์แข็งกดดันทองดิ่ง แนะจับตาข้อมูลแรงงาน ในประเทศลง 250 บาท

เมื่อคืนที่ผ่านมาสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองให้ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งสาเหตุจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องเพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่าง ยอดค้าปลีกขยายตัวดีเกินคาด รวมทั้งการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้งที่ผ่านมา(29-30 ต.ค) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นกดดันให้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงกว่า 31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับเกิดแรงขายที่มีกลับออกมามากหลังจากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงเกิดเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาทองปรับตัวลงหนัก

ทองคำทรงตัว คาดรอผลประชุมเฟดคืนนี้ ในประเทศเช้านี้ทองขึ้น 50 บาท เงินบาทอ่อนหนุนทองต่อเนื่องและมีสิทธิ์แตะ 32 บาทวันนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาทองคำปรับขึ้นเล็กน้อยจากแรงซื้อเก็งกำไรจากการที่ทองคำปรับตัวลดลงก่อนหน้า แต่โดยภาพรวมราคาทองยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ คาดตลาดรอการแถลงความเห็นต่อแนวโน้มนโยบายทางการเงินของประธานธนาคารกลางสหรัฐ และประธานสาขาต่างๆ

ต้นสัปดาห์ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ของนายชาร์ส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ซึ่งส่งสัญญาณว่าควรจะมีการยุติหรือชะลอการมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต

ส่วนคืนนี้เวลา 02.00 น. ตามเวลาไทยนักลงทุนรอดูแถลงผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) โดยจับตาสัญญาณการ

!!ทองร่วงหลังประธานเฟด 2 ท่านหนุนลด QE ในประเทศเช้านี้ร่วงตาม 150 บาท แนวโน้มรอประธานเฟดแถลงพรุ่งนี้

เมื่อวานราคาทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว จนถึงช่วงค่ำราคาทองคำได้ร่วงลงกว่า 1% หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)

โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค และนายชาร์ลส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งมีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ อีกทั้งนักลงทุนยังตอบรับการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มดีขึ้นหนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯขณะที่บดบังความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ

ทั้งที่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของ

ภาพรวมทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ รอปัจจัยใหม่ ในประเทศคาดเงินบาทยังอ่อนหนุนทองต่อ

ราคาทองคำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าราคาปรับตัวลดลงในช่วงต้นสัปดาห์ตอบรับรายงานจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด และราคาดีดตัวกลับขึ้นมา ตอนปลายสัปดาห์ ขานรับถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งภาพรวมสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากรอปัจจัยใหม่ๆ มาสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งถ้อยแถลงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

โดยประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจยังเป็นเรื่องการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคต ซึ่งในสัปดาห์นี้มีรายงานตัวเลขบ้าน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคาผู้บริโภค

ระยะสั้นทองฟื้นตัวขึ้น สัปดาห์หน้า(18-22) ติดตามรายงานการประชุมเฟด เศรษฐกิจสหรัฐ จีน และยูโรโซน

ราคาทองคำสัปดาห์ก่อนหน้าต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ได้รับแรงกดดันอย่างหนัก กับกระแสคาดการณ์การปรับลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาดไว้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคม ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก จนทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงไป และในปลายสัปดาห์ราคาทองคำสามารถดีดตัวกลับมามีแนวโน้มเชิงบวกอีกครั้งในระยะสั้น หลังได้รับปัจจัยบวกจากคำแถลงการณ์และการตอบคำถามต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐของ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่ออย่างเนื่อง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยได้ ซึงถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ต่อไป

ส่วนราคาทองคำในประเทศภาพรวมยังมีแนวโน้มและทิศทางเดียวกับทองคำตลาดโลก แต่ยังมีอานิงสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องพยุงราคาทองไม่ให้