ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง43,600.0043,700.00
ทองรูปพรรณ42,811.8444,200.00
วันนี้ 60050
21 พฤศจิกายน 2567เวลา 15:38 น.(ครั้งที่ 7)

ข่าวราคาทองคำแท่ง


ราคาทองคำยังมีแนวโน้มขึ้นต่อ


ราคาทองคำ ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังนักลงทุนคาด ธนาคารกลางยุโรปยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงิน ขณะที่นักวิเคราะห์ให้แนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,680-1,685 และ 1,695-1,700 ดอลลาร์ ต่อออนซ์

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายกลับออกมา จนราคากลับลงมาปิดในแดนลบ แต่โดยรวมแล้วเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวจากระดับปิดของวันจันทร์ โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,671.52 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ลดลง 2.38 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,666 และ 1,685 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ

ทองขยับขึ้น หลังนักลงทุนไม่มั่นใจเศรษฐกิจยุโรปฟื้น


ราคาทองคำเริ่มขยับขึ้น หลังนักลงทุน ไม่มั่นใจเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปและสหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์ ให้แนวรับของวันอยู่ที่ 1,655-1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์...

ราคาทองคำปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับของวันก่อน ที่ในช่วงค่ำจะเริ่มดีดตัวขึ้น โดยคาดว่าเป็นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ที่มีกลับเข้ามา หลังจากมีรายงานข่าวที่สร้างความกังวลต่อความมั่นใจของนักลงทุนเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป และสหรัฐฯ ซึ่งกดดันให้ตลาดหุ้นของสหรัฐฯและประเทศในยุโรป รวมทั้งราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลง

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,673.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,661 และ 1,677 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ขายออกที่บาทละ 23,550 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 23,450 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,328.09 ตัน

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสดใสทองปรับขึ้นในกรอบจำกัด


ราคาทองคำเงินแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบในการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำ ภายหลังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน อย่างไรก็ตาม ราคาทองลดช่วงการบวกลง เนื่องจากมีการปรับเพิ่มปริมาณการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคมของปีก่อนขึ้น โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 1,666.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันพฤหัส 4.00 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,660 และ 1,681 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาขายออกที่บาทละ 23,600 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 23,500 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,328.09 ตัน

คาดสัปดาห์หน้าค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 29.70-29.90


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสัปดาห์หน้าค่าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.70-29.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ แนะติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทของไทย…

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทกลับมาแข็งค่า หลังอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ของกลุ่มผู้นำเข้า โดยการฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเป็นไปตามการส่งคำสั่งขายเงิน ดอลลาร์ฯ ของกลุ่มผู้ส่งออก และการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ นอกจากนี้ ความต้องการเสี่ยงของนักลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์ ก็เป็นปัจจัยช่วยหนุนเงินบาทด้วยเช่นกัน ในวันศุกร์ (1 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 29.78 เทียบกับระดับปิดตลาดในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ม.ค.) ที่ 29.89 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ธนาคารยุโรปเริ่มมีเสถียรภาพ หนุนราคาทอง


นักวิเคราะห์ แนะจับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป สัปดาห์หน้า คาดส่งแรงหนุนราคาทอง หลังธนาคารในยุโรปเริ่มมีเสถียรภาพ ให้แนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,675 และ 1,685-1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ประเด็นสำคัญที่กระทบต่อตลาดทองคำสัปดาห์นี้ เป็นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อคืนวันพุธ เป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ย้ำผลการประชุมเฟด ย้ำว่าจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ย ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป และจะดำเนินมาตรการ QE ต่อไป โดยเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรต่อไปเดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จนกว่าแนวโน้มการจ้างงานจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก

แรงขายทำกำไร กดทองร่วง 13 เหรียญ


แรงเทขายทำกำไร ทำราคาทองปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีในระยะยาว การที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ พร้อมจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อไป ยังเป็นปัจจัยบวก ที่จะทำให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่ทองคำ…

ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างแรง หลังจากดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันพุธ จนราคากลับลงไปปิดใกล้เคียงกับระดับราคาปิดของวันอังคาร คาดว่าเป็นแรงขายทำกำไรเละนักลงทุนบางส่วนประเมินว่า รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในคืนวันนี้ อาจออกมาดีเช่นเดียวกับการจ้างงานของภาคเอกชนในคืนวันพุธ

คาดเฟด ยืนยันเดินหน้า QE ต่อ


ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ในช่วงสัปดาห์นี้ หลังนักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป…

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ตลอดการซื้อขายในช่วงกลางวัน แต่ภายหลังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่สนับสนุนให้นักลงทุน มีมุมมองว่าจะมีการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯต่อไป ก็กลับมีแรงซื้อเข้ามามากจนดีดตัวขึ้นค่อนข้างแรง ก่อนที่จะปิดตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อในช่วงที่เหลือของสัปดาห์

ปิดตลาดเช้า(30 ธ.ค.56)หุ้นไทยปรับเพิ่ม 7.38 จุด


ปิดตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 30 ม.ค.56 ที่ระดับ 1,486.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 28,601.34 ล้านบาท

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 30 ม.ค. ที่ระดับ 1,486.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 28,601.34 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 325 หลักทรัพย์ ลดลง 238 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 177 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

ทองเริ่มฟื้น รอติดตามผลประชุมเฟดคืนนี้


ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว หลังนักลงทุนคาด ผลการประชุมเฟด คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ด้านนักลงทุนให้แนวต้านระหว่างวันที่ บริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่บริเวณแนวต้านของวัน ในการซื้อขายช่วงค่ำ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัวกลับ แต่การเคลื่อนไหวโดยรวม ยังคงเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ เพื่อรอติดตามประเด็นต่างๆ ทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ

SPDR ลดการถือทองลงในวันจันทร์อีก 1.81 ตัน


ราคาทองคำยังมีแนวโน้มขาลง เพื่อรอความชัดเจน เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและญี่ปุ่น ด้านนักวิเคราะห์ให้แนวรับที่ บริเวณ 1,640 และ 1,625-1,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์…

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยมีแรงขายกลับออกมามากในการซื้อขายช่วงค่ำหลังจากในระหว่างวันมีการแกว่งตัวในกรอบแคบและมีการดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของวัน ก็มีแรงเทขายกลับออกมา จนปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ราคาทองปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4

คาดทองแกว่งตัวในกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่


คาดราคาทองคำ แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ เพื่อปัจจัยบวกใหม่ ๆ ด้านนักวิเคราะห์ ที่แนวต้านระยะสั้นที่ บริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์…

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ในการซื้อขายวันพฤหัสฯ ก่อนที่ในการซื้อขายวันศุกร์จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา จนราคากลับอ่อนตัวลงมาปิดตลาดที่ 1,662.00 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ปรับตัวลดลงจากระดับปิดของวันพฤหัสฯ 12.3 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,653 และ 1,676 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 23,950 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 23,850 บาท กองทุน SPDR ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,337.73 ตัน เงินยูโร ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ หลังจากในวันพฤหัสฯ ประธานธนาคารกลางยุโรป ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกในทางที่ดีขึ้น

สัปดาห์หน้าราคาทองมีแนวต้าน 1,695 -1,700 ดอลลาร์/ออนซ์


ฮั่วเซ่งเฮงชี้สัปดาห์หน้าราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,695 – 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเด็นที่ต้องติดตามคือ จีนจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว…

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ฮั่วเซ่งเฮงรายงานว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังจากที่ตลาดมีการคาดการณ์ทางบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังไม่ยุติมาตรการ QE ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดีทาง Societe Generale ได้มีการปรับลดประมาณการราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้ลงเหลือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากประมาณการเดิมก่อนหน้านี้ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เนื่องจากคาดการณ์ว่านาคารกลางสหรัฐจะยุติมาตรการ QE ในเร็ววันนี้ ในวันพฤหัสราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,665 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์และขึ้นไปสูงสุดที่ 1,678 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขการส่งออกของจีนเดือนธันวาคมขยายตัวขึ้น 14.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน และเป็นการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 นอกจากนี้ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ตามความคาดหมาย โดยการแข็งค่าขึ้นของเงินยูโรตอบรับคำแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปที่ประเมินว่าทิศทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น และกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ