ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงหนักเกือบ 2% ต่ำสุดรอบ 2 เดือน หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐสูงเกินคาด ในประเทศเปิดวันเสาร์ร่วง 250

ราคาทองตลาดโลกเมื่อคืนที่ผ่านมาดิ่งลงเกือบ 2% และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ที่ระดับ 1,165.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่สูงเกินคาด ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า แทนที่จะล่าช้าออกไปตามที่ประธานเฟดเคยแถลงการณ์

ราคาทองปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน และตลาดทั้งสัปดาห์นี้ทองคำดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 1 เดือน โดยวานนี้วันเดียวทองคำร่วงลงไปเกือบ 2% หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 295,000 ราย หลังจากเพิ่มขึ้น 239,000 ราย ในเดือนมกราคม ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปีครึ่ง จากระดับ 5.7% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 240,000 ราย และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.6%

และจากรายงานการจ้างงานดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ส่งสัญญาณสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนกลางปีนี้ แม้ว่าก่อน

ทองโลกปิดลบ 4 วันติด หลุด $1,200 จากดอลลาร์แข็ง ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนเล็กน้อย ส่วนทองคงที่

ราคาทองคำนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 และหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในคืนวันนี้ตามเวลาไทย อย่างใกล้ชิด

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์เป็นต้นมาทองคำได้รับแรงกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงต่อเนื่อง จากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในตะกร้าเงินนั้น พุ่งแตะระดับ 96.43 โดยทั้งนี้ การแข็งค่าดอลลาร์จะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน

นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันเข้าลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาด

ทองโลกปิดร่วง 3 วันติด จากดอลลาร์แข็ง แนวโน้มทองแกว่งตัวในกรอบทางเทคนิค ในประเทศเช้านี้บาทอ่อน ทองลง 50

ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากเพราะได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ทางเทคนิคคาดวันนี้ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยยังสามารถเคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าจะเคลื่อนไหวหลุดระดับดังกล่าวหลายครั้ง แต่ก็มีแรงซื้อกลับในทันที จึงแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ค่อนข้างแข็งแกร่งบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป

ทองคำร่วงลงต่อเนื่องมาจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกว่า 0.63% ทั้งนี้การแข็งค่าของเงินดอลลาร์จะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน โดยหลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐอยู่ที่ 56.9 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัวได้ดี

ทองปรับลงวันแรกในรอบ 3 วันจากแรงขายทำกำไรทางเทคนิค ในประเทศเช้านี้ร่วง 250 และเด้งกลับขึ้น 150

ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงเป็นวันแรก หลังจากได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ประกออบกับกองทุน SPDR เทขายทองคำกว่า 7 ตันเมื่อวานนี้

ทองคำผันผวนเป็นอย่างมาก หลังจากในทางเทคนิคไม่สามารถยืนเหนือระดับแนวต้านสำคัญ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงเกิดแรงเทขายทองคำอย่างหนักจากนักลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ทองคำปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอไรทิศทางของสหรัฐ ทั้งตัวเลขภาคแรงงานและตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา และได้เกิดกระแสการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐรวมถึง รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าเมื่อวานนี้กองทุนได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงกว่า 7.76 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำที่ระดับ 763.49ตัน

ทองคำฟื้นตัวต่อเนื่องหลังตัวเลขจีดีพีสหรัฐต่ำเกินคาดบวกกับจีนลดดอกเบี้ย ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนทองขึ้น 100

ราคาทองคำยังฟื้นตัวต่อเนื่องหลังจากได้รับแรงหนุนจากรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาต่ำเกินคาด โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ไตรมาส 4 ที่ลดลงต่ำกว่าการคาดการณ์ ขณะเดียวกันทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากที่ ธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ลงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 3 เดือน

โดยเช้านี้ราคาทองคำตลาดโลกดีดตัวตัวขึ้นแตะระดับ 1,221.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นหลังจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทองคำร่วงลงกว่า 5.5% และถือเป็นการดิ่งลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2014 โดยปัจจัยบวกต่อทองคำ มาจากรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสหรัฐ(จีดีพี) ในไตรมาสที่ 4 ที่พบว่าเติบโตเพียง 2.2% ต่อปี จากระดับ 2.6% ซึ่งเป็นการลดลงจากไตรมาส 3 ที่เติบโตถึง 5%

และนอกจากนี้ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังธนาคารกลางจีนออกมาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% สู่

ทองปิดแดนบวกวันที่ 3 หลังตัวเลขเศรษกิจสหรัฐอ่อนแอ คาดว่าเฟดไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศทั้งสัปดาห์ บาทแข็งทองขึ้น 50

ราคาทองคำนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และยืนเหนือระดับ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่สหรัฐเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ลดลงจากประมาณการเบื้องต้น ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบคุมเข้มนโยบายการเงิน จึงส่งผลให้ทองคำยังคงดึงดูดสำหรับการลงทุน

ทองคำได้แรงหนุนจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 2 ระบุว่ามีการขยายตัว 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 2.6%

อย่างไรก็ตาม ราคาทองถูกกดดันเล็กน้อยจากรายงานผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ ขยับขึ้นสู่ระดับ 95.4 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 94.0 โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการจ้าง