ราคาทองคําวันนี้

ทองดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรและดอลลาร์อ่อนหลังเฟดไม่มีสัญญานการขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศบาทแข็งมากทองขึ้นได้น้อย

เมื่อวานนี้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำ คาดจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากทองคำร่วงลงไปก่อนหน้านี้ ประกอบการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ทองคำดีดตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,324.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนในประเทศค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก ส่งผลให้ราคาทองในประเทศขึ้นได้น้อยกว่าปกติ

นักลงทุนกลับเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้ความต้องการในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนั้นลดน้อยลง

ขณะที่พบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าลงหลังมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งในรายงานการประชุมดังกล่าวยังพบข้อมูลที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเมื่อใด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ราคาทองเริ่มฟื้นตัวขึ้นใกล้ระดับ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพื่อรอรายงานการประชุมเฟดครั้งล่าสุดคืนนี้ ในประเทศทองคงที่ต่อจากวานนี้

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนต่างชะลอการลงทุนเพื่อรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้งล่าสุด เพื่อหาแนวโน้มและสัญญาณจากเฟดว่าจะมีมุมมองและส่งสัญญานในการปรับระดับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดหรือไม่

เมื่อวานนี้ราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ประเด็นความไม่สงบในอิรักและในยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง อีกทั้งยังพบเหตุปัจจัยหนุนทองคำจากความไม่สงบในฉนวนกาซาเข้ามาเพิ่มเติม จึงพบว่าการอ่อนตัวลงของทองคำในช่วงนี้อยู่ในปริมาณจำกัด

ขณะที่เมื่อวานนี้พบการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำด้วยความระมัดระวัง ด้วยเหตุผลว่าทุกคนต่างเฝ้ารอติดตามประเด็นทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจในช่วงค่ำวันนี้ ที่จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในการประชุมครั้งหลังสุด ซึ่งคาดว่าในรายงาน

ทองคำแม้อ่อนตัวลงยังคงมีแรงหนุนให้ดีดตัวขึ้นได้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอรายงานผลการประชุมเฟดคืนวันพุธ

ราคาทองคำในช่วงนี้แม้พบการเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าลงก็จะมีแรงหนุนให้ราคาดีดตัวขึ้นมาในระดับเฉลี่ยใกล้เคียงกันกับสัปดาห์ก่อน โดยหลังจากที่มีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด รวมถึงอัตราการว่างงานที่ลดลงใกล้ระดับ 6.0% ทำให้เกิดกระแสการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ซึ่งส่งแรงหนุนไปยังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเงินหลัก ส่งผลกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาอ่อนตัวลงก็จะมีแรงหนุนให้ราคาดีดตัวกลับขึ้น จากความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักและยูเครนยังมีความตึงเครียดอยู่อย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อการคาดการณ์แนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าที่ประเมินไว้ เนื่องจากข้อมูลตัวเลขด้านแรงงานของ

ทองอ่อนตัวลงเล็กน้อย คาดเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกดดัน แนวโน้มยังเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศเช้านี้ลง 50

ราคาทองคำปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพบการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากวันศุกร์ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักและยูเครนเป็นแรงหนุนต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมรายงานเศรษฐกิจสหรัฐพบว่าออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลกดดันต่อราคาทองคำให้ลดช่วงบวกลง

โดยรายงานเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญานกำลังฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัว จากตัวเลขการจ้างงานเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ที่ดีว่า การลดลงของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของสหรัฐในไตรมาสแรกเกิดจากปัจจัยอากาศทีหนาวเย็นช่วงปลายปีต่อเนื่องต้นปีที่ผ่านมาและเป็นระยะเวลาเพียงชั่วคราว ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานของเอกชนทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในระดับที่สูงกว่า 2 แสนตำแหน่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นถึง 288,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด ส่วนอัตราว่างงานก็ลดลงสู่ระดับ 6.1% ซึ่งเป็นลดลงระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี และเป็นระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดเช่นกัน

ทองคำทั้งสัปดาห์พบแรงหนุนจากอิรักและยูเครนให้เคลือนไหวได้ในระดับสูงแม้รายงานเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง

ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้(30 มิ.ย.-3 ก.ค.) เคลื่อนไหวในลักษณะขึ้นลงผันผวนในกรอบตามข่าวสารต่างๆ ที่เข้ามาโดยหากเมื่อราคาอ่อนตัวลงระดับหนึ่งจากสัญญานการฟื้นตัวแข็งแกร่งเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็จะดีดตัวขึ้นได้จากปัจจัยสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในตะวันออกกลางและยูเครน โดยสัปดาห์นี้ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในรอบ 3 เดือนครึ่ง ที่ระดับ 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เมื่อกลางสัปดาห์ สหรัฐมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญด้านตลาดแรงงาน โดยเมื่อวันพุธสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของ ADP และเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิถุนายนในวันพฤหัสบดี ซึ่งพบว่าตัวเลขทั้ง 2 รายงานออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงถึง 288,000 แสนตำแหน่ง รวมทั้งอัตราการว่างงานเดือนมิถุนายน ก็ลดลงเหลือ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรทองคำออกมาและลงไปเคลื่อนไหวต่ำสุดที่ระดับราคา 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองร่วงลงหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีเกิดคาด ความไม่สงบในอิรักและยูเครนช่วยพยุงไว้ ในประเทศบาทอ่อนเล็กน้อยทองลง 50

ราคาทองคำร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเมื่อคืนที่ผ่านมาแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้นักลงทุนมั่นใจต่อภาวะการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ และหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้น กดดันทองคำในฐาะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงให้อ่อนตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ยังคงมีความตึงเครียดอยู่ทั้งตะวันออกกลางและยูเครนยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทอง เมื่อราคาปรับตัวลงยังคงมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงราคาไว้ได้

โดยทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงลงไปแตะที่ระดับ 1,320.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับราคาปิดเมื่อวันก่อนที่ 1,330.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนได้ลดการถือครองทองคำหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดข้อมูลเศรษฐกิจว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 215,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง