ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง40,850.0040,950.00
ทองรูปพรรณ40,113.3641,450.00
วันนี้ -100-100
27 เมษายน 2567เวลา 09:00 น.(ครั้งที่ 1)

ข่าวราคาทองรูปพรรณ


ทองไทยลงแรงบาทละ 450 บ. รูปพรรณขาย 24,250


สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำครั้งแรกของวันลดลงถึงบาทละ 450 บาท ตามราคาในตลาดโลก โดยทองรูปพรรณซื้อคืนบาทละ 23,407.04 บาท ขายออกบาทละ 24,250 บาท

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. มีรายงานว่า ราคาซื้อขายทองคำในประเทศไทยโดยสมาคมค้าทองคำ ประกาศครั้งแรกของวันปรับลดลงรุนแรงถึงบาทละ 450 บาท โดยทองคำรูปพรรณซื้อคืนบาทละ 23,407.04 บาท ขายออกบาทละ 24,250 บาท ส่วนทองคำแท่งซื้อคืนบาทละ 23,750 บาท ขายออกบาทละ 23,850 บาท ซึ่งเป็นไปตามราคาซื้อขายในตลาดโลกที่ปรับลดลง และค่าเงินบาทซึ่งเป็นทิศทางแข็งค่า

ฮั่วเซ่งเฮงคาดทองแกว่งตัวระหว่าง 1,670-1,700 ดอลลาร์


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ราคาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางวันหลังจากทราบรายงานข่าวว่า สภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีมติให้ความเห็นชอบกฎหมายที่จะทำให้สหรัฐฯสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง แต่ด้วยตลาดการเงินของญี่ปุ่นและจีนยังปิดทำการ ทำให้แรงซื้อขายยังมีเข้ามาค่อนข้างน้อย แต่ในการซื้อขายช่วงค่ำ ราคาทองเริ่มดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายกลับออกมาจนราคาปิดตลาดลดช่วงการบวกลง โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,686.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.47 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,670 และ 1,694 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ขายออกที่บาทละ 24,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,150 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการลดปริมาณการถือทองคำลง 0.9 ตัน ส่งผลให้กองทุนถือครองทองคำรวม 1,349.92 ตัน

ฮั่วเซ่งเฮงเผยทองนิ่งรอตามผลการประชุมสภาผู้แทนสหรัฐ


เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ฮั่วเซ่งเฮงรายงานสถานการณ์ทองคำว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากในการซื้อขายวันจันทร์ซึ่งตลาดการเงินของสหรัฐฯเปิดทำการนั้นมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามามากจนราคาทองดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอบรับการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ อาจหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้สำเร็จ แต่ในขณะนี้ยังคงรอความชัดเจนของการประชุมสภาผู้แทนของสหรัฐฯว่าจะอนุมัติแผนการดังกล่าวหรือไม่หลังจากในวันจันทร์วุฒิสภาของสหรัฐฯได้อนุมัติแผนการในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังไปแล้ว โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,674.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันจันทร์ 1.00 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,665 และ 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม ขายออกที่บาทละ 24,100 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,000 บาท

ฮั่วเซ่งเฮง แนะจับตาปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ กระทบทองคำปี56


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นประเด็นหลักที่คาดว่าจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2556 ซึ่งประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังและเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เป็นประเด็นที่ต้องติดตามว่าจะมีแนวทางแก้ไขในลักษณะใด ส่วนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าจะยังคงมีการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่ารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งอัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะปรับตัวดีขึ้น โดยในการประชุมครั้งหลังสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้แถลงค่อนข้างชัดเจนว่าการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จะผูกติดอยู่กับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานเป็นสำคัญ และรายงานตัวเลขทั้ง 2 ยังคงเอื้อให้มีการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปในปี 2556 และอาจต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินในลักษณะดังกล่าวนั้น เอื้อให้ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นได้ต่อในภาพรวม แต่ในระหว่างทางอาจมีการแกว่งตัวผันผวนตามรายงานข่าวต่างๆ ที่มีออกมา

ฮั่วเซ่งเฮง แนะจับตาจัดอันดับเพดานหนี้ กระทบการเคลื่อนไหวทอง


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2556 ในภาพรวมยังคงคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากปี 2555 และหมายความว่าจะมีความผันผวนมากขึ้น การเก็งกำไรในระยะสั้นจึงมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งกรณีของการลงทุนผ่านทองคำแท่ง หรือตราสารทางการเงินอื่นที่อ้างอิงอยู่บนราคาทองคำ ประเด็นหลักที่ต้องติดตามยังอยู่ที่แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยุโรป และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินการคลังของประเทศต่างๆ โดยในส่วนของประเด็นปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้น คงต้องรอติดตามว่าปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ จะมีทางออกในลักษณะใด โดยมีการประเมินว่าหากผ่านพ้นปี 2555 ไปแล้วและยังไม่มีทางออกสำหรับปัญหาดังกล่าว ในปี 2556 การปรับลดรายจ่ายทางการคลังและการปรับเพิ่มภาษีที่จะเกิดขึ้นนั้น จะเป็นปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจเริ่มชะลอตัวลง และแนวทางที่อาจเป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นนั้น คาดว่าจะยืดเยื้อต่อเนื่องไปอีกพอสมควร และจะมีเพียงการให้ความเห็นชอบจากสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในกฎหมายบางส่วนที่เพียงพอให้มีการบริหารประเทศไปได้เท่านั้น

ทองคำ….ปีมะเส็งยังขึ้นต่อ ภาพรวมผันผวน-เงินเฟ้อหนุนราคา


ทิศทางทองคำปีมะเส็ง คนในวงการเชื่อมีความผันผวนสูงแต่อยู่ในช่วงขาขึ้น ย้ำการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐฯ เป็นตัวชี้วัดต่อแนวโน้มของราคาช่วงไตรมาส 1 ส่วนระยะยาวเชื่อปัจจัยจากฟากเอเชียจะหนุนราคาทองปรับตัวเพิ่ม โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่ทั่วโลกหนีไม่พ้น คาดทั้งปีลุ้นสูงสุดเท่าเป้าหมายเดิม 1,800 เหรียญ/ออนซ์

นายสัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในปี 2556 ว่า นักลงทุนควรพิจารณาในเรื่องปัจจัยที่มีผลกระทบกับราคาทองคำเป็นลำดับแรก นั่นคือ สถานการณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะเป็นเช่นไร ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) จะเป็นเช่นไร จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า ถ้าเศรษบกิจของสหรัฐฯ ชะงักจากปัญหาดังกล่าว จะส่งผลให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจอีกครั้ง

ส่วนในช่วงปลายปี 2555 ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงนั้น ประเมินว่า เป็นการโยกย้ายสินทรัพย์การลงทุนจากทองคำไปเป็นหุ้นเพื่อทำกำไรระยะสั้นมากกว่า ไม่ใช่เกิดจากความน่ากังวลว่าราคาทองคำมาสู่แนวโน้มปรับตัวลงอย่างถาวร เพราะหากดูปริมาณการเข้าลงทุนทองคำของกองทุนขนาดใหญ่อย่าง SPDR และธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ ยังพบว่า มีความต้องการเข้าสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง

วอลล์สตรีท ผวา การเมืองทำแก้หน้าผาการคลังไม่ได้


บรรดานักธุรกิจในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ผวา การเมืองทำเลี่ยงปัญหาหน้าผาการคลังไม่ได้ โอด โดนนำไปใช้เป็นตัวประกันเพื่อผลทางการเมือง…

นักธุรกิจที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พากันหวั่นวิตกเพราะเส้นตาย การบรรลุข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เพื่อป้องกันสิ่งที่เรียกกันว่า หน้าผาการคลังใกล้เข้ามาทุกที แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงกันได้ สำหรับหน้าผาการคลังก็คือ กฎหมายการปรับลดงบประมาณและเพิ่มภาษีอย่างขนานใหญ่ จะมีผลทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า หากทั้งสองฝ่ายยังไม่อาจตกลงกันได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

จับตาหุ้นไทยปี 56 พุ่งทำสถิติใหม่รอบ 16 ปี


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้าหุ้นไทยทรงตัวและอาจปรับขึ้น แนะจับตาการแก้ไขภาวะ Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ โดยให้แนวรับที่ 1,390-1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,422 จุด…

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า การเคลื่อนไหวการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สัปดาห์นี้ ว่า ดัชนี SET ปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อ LTF และ RMF ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,391.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.35% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 30.83% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 27,105.16 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 415.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.75% จากสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับ 1,400 จุด ก่อนที่จะปิดย่อตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไร โดยได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) รวมถึงมุมมองเชิงบวกว่าภาคการเมืองสหรัฐฯ น่าจะหาทางในการบรรเทาผลกระทบจาก Fiscal Cliff ลงบางส่วน

ฮั่วเซ่งเฮง คาดทองปี56 แกว่งตัวผันผวน


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2555 ให้อัตราผลตอบแทนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตราสารอื่นๆ รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวในปีก่อนๆ ประเด็นลบที่กดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมาจากความไม่มั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จนทำให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินทุนไปพักไว้ในเงินดอลลาร์ที่ยังจัดเป็นสกุลเงินปลอดภัย ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปที่ยังมีรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง และส่งผลในทางอ้อมให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และท้ายที่สุดแล้วกดดันให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ในกรอบค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และสำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ รวมทั้งตราสารอื่นๆ ที่อ้างอิงอยู่กับราคาทองคำในต่างประเทศนั้น ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าราคาทองคำในรูปของเงินดอลลาร์ เนื่องจากทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในปีนี้ เมื่อแปลงราคาทองคำจากในรูปเงินดอลลาร์มาเป็นเงินบาทจึงมีผลตอบแทนที่ต่ำลง

ที่สุดของสินทรัพย์น่าลงทุนแห่งปี 2556 ลงทุนทองคำ มาอันดับ 2


ผมเอาบทความจากกูรูเศรษฐกิจของเมืองไทยมาให้อ่านและวิเคราะห์กันสำหรับแนวทางการลงทุนในปีงูเล็ก หรือปีมะเส็ง 2556 ที่กำลังจะมาถึงนี้หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านในการนำไปวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน จุดเสี่ยงของสินทรัพย์ที่เราๆ ท่านๆ น่าจะนำเงินที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิตไปลงทุนเพื่อผลงอกเงยแห่งทรัพย์สินให้เป็นกำไรของทุกท่านในท้ายที่สุดครับ แต่ที่แน่ๆ กูรูอย่างอาจาย์ธนวรรธน์ ฟันธงว่า ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนมากๆ อันดับ 2 เลยนะครับ

อาจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า 5 อันดับสินทรัพย์ที่น่านำเงินของเราไปลงทุนที่สุดประกอบไปด้วย สินทรัพย์เหล่านี้

ทองยังแกว่งตัวแคบ รอชัดเจนแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง


ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์แนะเลือกซื้อเก็งกำไร ช่วงดีดตัวกลับ และที่แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ต่อออนซ์…

ราคาทองคำเมื่อวาน ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดิม ประเด็นหลักที่นักลงทุนรอติดตามคือการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ที่เริ่มการเจรจาอีกครั้ง แต่ยังไม่มีข่าวคราวความคืบหน้า โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,663.56 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,653 และ 1,665 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ขายออกที่บาทละ 24,150 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,050 บาท

ราคาทอง รอชี้ชะตาการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง


คาดราคาทองคำ ยังแกว่งตัว ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลัง นักวิเคราะห์แนะ ควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670…

ราคาทองคำ ยังคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแนวรับและแนวต้านทางเทคนิคแม้ว่า ตลาดการเงินของสหรัฐฯ และหลายประเทศจะกลับมาเปิดทำการหลังจากปิดการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่กลับเข้ามาลงทุน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนรอติดตามประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ และบางส่วนอาจรอกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งในช่วงหลังวันปีใหม่ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ