ราคาทองคําวันนี้

ทองคำฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังนักลงทุนขานรับเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อย

เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาทองคำตลาดโลกปิดพุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ และเป็นการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยรายงานการประชุม ซึ่งส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้การที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าทองคำเพื่อความปลอดภัย ตรงกันข้ามกับราคาทองในประเทศกลับได้รับแรงกดดันจากเงินบาทที่กลับแข็งค่าส่งผลให้ทองคำในประเทศเช้านี้ปรับตัวลดลง

นักลงทุนต่างขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ครั้งล่าสุด(วันที่ 16-17 ก.ย.) ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความกังวลว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้นอาจก่อความเสี่ยงต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ระดับปัจจุบันไว้เป็นระยะเวลาที่นานขึ้น

นอกจากนี้การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า

ทองคำยังเคลื่อนไหวเหนือ $1,200 แนวโน้มมีโอกาสฟื้นตัวต่อ หลังเฟดไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ในประเทศบาทแข็ง ทำทองคงที่!

ราคาทองคำตลาดโลกปิดตลาดลดลงจากแรงเทขายทำกำไรหลังก่อนหน้านี้ทองคำปรับขึ้นกว่า 20 ดอลลลาร์ ขณะที่ทิศทางของทำคำยังคงสามารถเคลื่อนไหวเหนือแนวรับระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากได้รับปัจจัยบวกจากปรับลดการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ รวมถึง รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ วันนี้…

ต้นสัปดาห์ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการปรับลดการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กดดันให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับราคาที่ปรับตัวลงมามากส่งผลให้มีแรงซื้อทองจากความต้องการใช้ทองจริงกลับเข้ามา

ขณะที่การเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งหลังสุดเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น พบว่าภาพรวมมุมมองของเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐส่วนใหญ่

ทองปรับขึ้น 2 วันติด ขานรับIMF ปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจโลก คืนนี้จับตารายงานเฟด ในประเทศบาทอ่อนช่วยหนุนทองได้มาก

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกนั้นเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามพบการปรับตัวขึ้นของราคาทองระยะนี้ยังอยู่กรอบจำกัด คาดปัจจัยหนุนยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ในขณะที่ประเด็นแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยลบที่ชัดเจนกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

เมือคืนที่ผ่านมานักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ และหลังจากที่ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกรกฏาคม 0.2% โดยไอเอ็มเอฟให้เหตุผลถึงการปรับลดคาดการณ์ว่า เป็นเพราะความอ่อนแอในยูโรโซน หลังมีรายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงมากที่สุดในรอบ5 ปี และการชะลอตัว

ทองฟื้นขึ้นเหนือ $1,200 หลังดอลลาร์อ่อน พฤหัสฯ จับตารายงานประชุมเฟด ในประเทศบาทอ่อนช่วยหนุนทองขึ้นอีก 150

เมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นกลับมายืนเหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนตลาด ซึ่งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์จะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและดึงดูดแรงซื้อสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ จึงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2558 และ จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2558 เนื่องจากสภาพคล่องและความต้องการทองคำทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยนักลงทุนต่างเฝ้าจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้ง

ทองร่วงหนักใกล้จุดต่ำสุด $1,180 เมื่อมิถุนายน 56 จากข้อมูลแรงงานสหรัฐสดใส ในประเทศบาทอ่อนทองลงน้อย

ราคาทองคำสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงหนักหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเคลื่อนไหวใกล้แนวรับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ทองร่วงหนักสุดเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2556 หลังพบรายงานข้อมูลเศรษฐกิจด้านแรงงานของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งได้กดดันราคาทองคำผ่านการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากมีการรายงานตัวเลขจำนวนคนว่างงานของสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี และตัวเลขคนว่างงานดังกล่าวยังลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะเดียวกัน จำนวนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนกันยายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่ 142,000 ตำแหน่ง

และจากข้อมูลเศรษฐกิจด้านแรงงานของสหรัฐข้างต้นได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

ทองร่วงหนักสุดรอบกว่า 4 ปี หลุด $1,200 หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐต่ำสุดรอบ 6 ปี ในประเทศเช้าเสาร์ร่วง 150

ราคาทองคำร่วงหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี โดยร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2553 เนื่องจากเพราะทองคำถูกลดความน่าสนใจลง เมื่อมีรายงานข้อมูลการจ้างงานที่สดใสของสหรัฐ

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนัก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.9% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ทั้งนี้จากการที่ตัวเลขจ้างงานเดือนกันยายนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไดถือเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่ 142,000 ตำแหน่ง

และจากรายงานเศรษฐกิจดังกล่าวส่งผลหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นกดดันทองคำอย่างหนัก และได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ