ราคาทองคําวันนี้

ทองลง จากแรงขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นสหรัฐแข็งแกร่ง จากเหตุการณ์ในไครเมียปกติ ในประเทศลงแรง 300 บาท

ราคาทองคำปรับตัวลง หลังการลงประชามติของประชาชนในไครเมียเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น โดยผลการลงประชามติเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เมื่อชาวไครเมียร้อยละ 96.77 ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและไปรวมกับรัสเซีย และรัฐสภาไครเมียได้ประกาศอิสรภาพจากยูเครนไปแล้วเมื่อวานนี้ อีกทั้งยังมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาทั้ง ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index) เดือนมีนาคม และ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มขายทองทำกำไรและโยกเงินกลับเข้าตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ทองคำถูกกดดันให้ปรับตัวลดลง หลังจากราคาปรับขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณความตื่นตระหนกของนักลงทุนในตลาดทองคำหลังการลงประชามติของประชาชนชาวไครเมียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับปฏิกริยาของสหภาพยุโรป(อียู) และสหรัฐที่จะมีต่อรัสเซีย ซึ่งหากมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร

ทองทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งคาดทะลุ $1,400 จับตาสถานการณ์ยูเครน รวมทั้งประชุมเฟดกลางสัปดาห์ ในประเทศเช้านี้ขึ้น 50

ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งประเด็นหลักที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำในขณะนี้มาจากความตึงเครียดในแถบคาบสมุทรไครเมียเขตปกครองตนเองของยูเครน ซึ่งล่าสุดหลังการลงประชามติของประชาชนในไครเมียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 95% ต้องการจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และจากผลการลงประชามตินี้น่าจะทำให้เกิดความตึงเครียดในยูเครนมีมากขึ้น และจับตาดูท่าทีจากชาติตะวันตกรวมทั้งสหรัฐว่า จะมีการตอบโต้และมาตราการใดๆ ต่อรัสเซีย

และหลังจากนี้เป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่า สถานการณ์ในยูเครนจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากสถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นคาดว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำให้พุ่งทะยานต่อไปได้ ซึ่งนักวิคราะห์เชื่อว่าจะได้เห็นราคาทองพุ่งขึ้นเหนือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไม่ช้านี้

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งยังเชื่อว่า ราคาทองจะถูกสกัดกั้นจาการปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ มาตราการ QE ที่

ทั้งสัปดาห์ทองขึ้น 3% ความตึงเครียดในยูเครนเป็นประเด็นหลัก สัปดาห์หน้ายังต้องตามต่อ ในประเทศขึ้น 550 บาท

ราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(10-14 มี.ค.) ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวันและทำสถิติปิดในแดนบวกติดกัน 5 วันทำการ หรือตลอดทั้งสัปดาห์นั่นเอง และสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 6 เดือน ที่ระดับ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยประเด็นหลักที่หนุนให้ราคาทองคำให้พุ่งขึ้นในรอบนี้นั้นมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดในประเทศนยูเครน และยังจะเป็นประเด็นต่อเนื่องที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำตั้งแต่สัปดาห์นี้ไปถึงสัปดาห์หน้า(17-21 มี.ค.)

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 3% เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และถึงแม้ว่าจะมีความพยายามจากหลายๆ ฝ่ายในการที่จะคลีคลายสถานการณ์ แต่จนถึงในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาทางคลี่คลายความตึงเครียดในยูเครนได้

นักลงทุนต่างจับตาดูการลงประชามติของไครเมียในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคมนี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็น

ทองปิดบวก 4 วันทำการ แรงหนุนจากความตึงเครียดในยูเครนและเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ในประเทศขึ้น 50 บาท

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยประเด็นปัญหาระหว่างยูเครนและรัสเซียรวมทั้งภาวะเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวยังคงเป็น ปัจจัยหนุนต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในขณะนี้ ส่วนเมื่อคืนที่ผ่ามารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด ส่งผลเป็นแรงสกัดไม่ให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ในปริมาณมาก

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์คปิดตลาด พบว่าปรับขึ้น 1.9 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,372.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาซื้อขายทองในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ทองคำแท่ง ขายออกที่บาทละ 21,000 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,900 บาท ส่วน ทองรูปพรรณ ขายออกที่บาทละ 21,400 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,602.44 บาท

ทางด้าน กองทุน SPDR Gold Trsut รายงานว่า ได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้นราว 2.10 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 813.30 ตัน

นักลงทุนต่างให้ความสนใจกับการลงมติของชาวไครเมียในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคมนี้ว่าจะเลือกเป็นรัฐอิสระที่ปกครองโดยยูเครนต่อไป หรือจะกลับเป็นส่วนหนึ่ง