ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง43,600.0043,700.00
ทองรูปพรรณ42,811.8444,200.00
วันนี้ 60050
21 พฤศจิกายน 2567เวลา 15:38 น.(ครั้งที่ 7)

ข่าวราคาทองสัปดาห์หน้า


แนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้า(19-23) ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและถ้อยแถลงเฟด คาดกดดันราคาทองลง


แนวโน้มราคาทองคำภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้(12-16 ส.ค.)ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงจนทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นทะลุ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหนุนหลักมาจาก

-อุปสงค์ของผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับ 1 และ อันดับ 2 ของโลกอย่าง อินเดียและจีน ซึ่งคาดว่าปีนี้จีนจะแซงหน้าอินเดียเป็นประเทศที่บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับ 1 ของโลกแทน
-เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากรายงานเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของยูโรโซนหลุดจากภาวะถดถอยติดต่อกัน 6 ไตรมาส
-สถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงในประเทศอียิปต์

สัปดาห์หน้า(13-17 พ.ค.56)ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์


สัปดาห์นี้(จันทร์ที่ 6-ศุกร์ที่ 10 พ.ค.56) ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,440-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเด็นบวกต่อราคาทองคำสัปดาห์นี้มาจากคำแถลงของ มาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป ซึ่งมีการแถลงว่าจะผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มเติม ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตและการออกมาตรการเพิ่มเติม ถ้าเศรษฐกิจของยูโรโซนยังอยู่ในภาวะถดถอย

สำหรับตัวเลขดุลการค้าเดือนเมษายน ของจีน ที่ออกมาเกินดุลมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เป็นประเด็นบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวโดยได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่ขยายตัว

สัปดาห์หน้า(6-10พฤษภาฯ56)คาดราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,440-1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์


สัปดาห์นี้(29เมษายน-3พฤษภาฯ56) มีประเด็นที่ต้องติดตามอย่างเข้มข้น ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันอังคารและวันพุธ(30เม.ย.-1พ.ค.56) ยังคงเดินหน้าดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ทั้งนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำและการดำเนินมาตรการ QE และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษและดำเนินมาตรการ QE ต่อไป จนกว่าอัตราการว่างงานจะต่ำกว่า 6.5% และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ระดับต่ำกว่า 2.5% สำหรับตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะมีผลต่อการตัดสินใจถอนมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสฯ มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 0.50% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาย่ำแย่

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเมษายน ของจีน ทั้งที่ทางการและ HSBC ประกาศออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ เป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำในวันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 ปรับฐานลงไปที่บริเวณ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ฮั่วเซ่งเฮง คาดสัปดาห์หน้าวิกฤติการเงินในไซปรัส ยังกระทบต่อทิศทางราคาทอง


สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุแนวต้านที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ และขึ้นไปสูงสุดที่ 1,615 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา จากที่ไซปรัสจะมีการออกมาตรการเก็บภาษีเงินฝาก เพื่อแลกกับการขอความรับช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศ วงเงิน 1 หมื่นล้านยูโรนั้น โดยไซปรัสจะมีการเก็บภาษีผู้ฝากเงินธนาคารในอัตรา 6.7% สำหรับเงินฝากที่ต่ำกว่า 100,000 ยูโร และอัตรา 9.9% สำหรับเงินฝากที่สูงกว่า 100,000 ยูโร

อย่างไรก็ดี ทางรัฐสภาของไซปรัสได้ลงมติคัดค้านมาตรการเก็บภาษีดังกล่าว ยิ่งทำให้ตลาดกังวลว่า ไซปรัส อาจจะเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ และอาจทำให้วิกฤติยูโรโซนลุกลามไปยังประเทศอื่น

สำหรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นพิเศษ และดำเนินโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไป จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% ในแถลงการณ์หลังการประชุมธนาคารกลาง