ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง44,150.0044,250.00
ทองรูปพรรณ43,357.6044,750.00
วันนี้ 55050
22 พฤศจิกายน 2567เวลา 17:09 น.(ครั้งที่ 14)

ราคาทองฮั่วเซ่งเฮง วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567

ราคาทองฮั่วเซ่งเฮง

ราคาทองฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำแท่ง 96.5%
ขายออก44,090
รับซื้อ44,040
ทองคำรูปพรรณ
ขายออก44,750
รับซื้อ43,357.6
ทองคำแท่ง 99.99%
ขายออก45,695
รับซื้อ45,655
ข้อมูลจาก:huasengheng.co.th 22 พ.ย. 2567 18:53
หมายเหตุ

ราคาทองอ้างอิงจาก เว็บไซต์ของร้านทองฮั่วเซ่งเฮง โดยอัปเดทตามการเปลี่ยนแปลงราคาจากหน้าเว็บ
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ของร้านทองอีกครั้ง

ข่าวราคาทองเยาวราช


วอลล์สตรีท ผวา การเมืองทำแก้หน้าผาการคลังไม่ได้


บรรดานักธุรกิจในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ผวา การเมืองทำเลี่ยงปัญหาหน้าผาการคลังไม่ได้ โอด โดนนำไปใช้เป็นตัวประกันเพื่อผลทางการเมือง…

นักธุรกิจที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พากันหวั่นวิตกเพราะเส้นตาย การบรรลุข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เพื่อป้องกันสิ่งที่เรียกกันว่า หน้าผาการคลังใกล้เข้ามาทุกที แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงกันได้ สำหรับหน้าผาการคลังก็คือ กฎหมายการปรับลดงบประมาณและเพิ่มภาษีอย่างขนานใหญ่ จะมีผลทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า หากทั้งสองฝ่ายยังไม่อาจตกลงกันได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

จับตาหุ้นไทยปี 56 พุ่งทำสถิติใหม่รอบ 16 ปี


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้าหุ้นไทยทรงตัวและอาจปรับขึ้น แนะจับตาการแก้ไขภาวะ Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ โดยให้แนวรับที่ 1,390-1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,422 จุด…

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า การเคลื่อนไหวการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สัปดาห์นี้ ว่า ดัชนี SET ปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อ LTF และ RMF ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,391.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.35% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 30.83% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 27,105.16 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 415.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.75% จากสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับ 1,400 จุด ก่อนที่จะปิดย่อตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไร โดยได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) รวมถึงมุมมองเชิงบวกว่าภาคการเมืองสหรัฐฯ น่าจะหาทางในการบรรเทาผลกระทบจาก Fiscal Cliff ลงบางส่วน

ฮั่วเซ่งเฮง คาดทองปี56 แกว่งตัวผันผวน


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2555 ให้อัตราผลตอบแทนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตราสารอื่นๆ รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวในปีก่อนๆ ประเด็นลบที่กดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมาจากความไม่มั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จนทำให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินทุนไปพักไว้ในเงินดอลลาร์ที่ยังจัดเป็นสกุลเงินปลอดภัย ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปที่ยังมีรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง และส่งผลในทางอ้อมให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และท้ายที่สุดแล้วกดดันให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ในกรอบค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และสำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ รวมทั้งตราสารอื่นๆ ที่อ้างอิงอยู่กับราคาทองคำในต่างประเทศนั้น ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าราคาทองคำในรูปของเงินดอลลาร์ เนื่องจากทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในปีนี้ เมื่อแปลงราคาทองคำจากในรูปเงินดอลลาร์มาเป็นเงินบาทจึงมีผลตอบแทนที่ต่ำลง

ที่สุดของสินทรัพย์น่าลงทุนแห่งปี 2556 ลงทุนทองคำ มาอันดับ 2


ผมเอาบทความจากกูรูเศรษฐกิจของเมืองไทยมาให้อ่านและวิเคราะห์กันสำหรับแนวทางการลงทุนในปีงูเล็ก หรือปีมะเส็ง 2556 ที่กำลังจะมาถึงนี้หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านในการนำไปวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน จุดเสี่ยงของสินทรัพย์ที่เราๆ ท่านๆ น่าจะนำเงินที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิตไปลงทุนเพื่อผลงอกเงยแห่งทรัพย์สินให้เป็นกำไรของทุกท่านในท้ายที่สุดครับ แต่ที่แน่ๆ กูรูอย่างอาจาย์ธนวรรธน์ ฟันธงว่า ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนมากๆ อันดับ 2 เลยนะครับ

อาจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า 5 อันดับสินทรัพย์ที่น่านำเงินของเราไปลงทุนที่สุดประกอบไปด้วย สินทรัพย์เหล่านี้

ทองยังแกว่งตัวแคบ รอชัดเจนแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง


ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์แนะเลือกซื้อเก็งกำไร ช่วงดีดตัวกลับ และที่แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ต่อออนซ์…

ราคาทองคำเมื่อวาน ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดิม ประเด็นหลักที่นักลงทุนรอติดตามคือการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ที่เริ่มการเจรจาอีกครั้ง แต่ยังไม่มีข่าวคราวความคืบหน้า โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,663.56 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,653 และ 1,665 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ขายออกที่บาทละ 24,150 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,050 บาท

ราคาทอง รอชี้ชะตาการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง


คาดราคาทองคำ ยังแกว่งตัว ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลัง นักวิเคราะห์แนะ ควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670…

ราคาทองคำ ยังคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแนวรับและแนวต้านทางเทคนิคแม้ว่า ตลาดการเงินของสหรัฐฯ และหลายประเทศจะกลับมาเปิดทำการหลังจากปิดการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่กลับเข้ามาลงทุน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนรอติดตามประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ และบางส่วนอาจรอกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งในช่วงหลังวันปีใหม่ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ

คาด ทองแกว่งตัวที่ระดับ 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์


ราคาทองยังมีแนวโน้ม ที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้าน นักวิเคราะห์ แนะทยอยขายลดความเสี่ยง หากราคาดีดตัวขึ้น เข้าใกล้แนวต้าน บริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การปิดทำการของตลาดการเงินของหลายประเทศในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินต่างๆ มีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบค่อนข้างแคบ และในช่วงกลางสัปดาห์หลังจากตลาดการเงินของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ กลับมาเปิดทำการ หากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ก็ยังมีแนวโน้มที่ราคาทองคำและตราสารอื่นๆ เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับช่วงต้นสัปดาห์

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,658.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันจันทร์เพียง 1.3 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,651 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท

คาดทองแกว่งตัวแคบช่วงวันหยุดคริสต์มาส


นักวิเคราะห์คาด ราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ช่วงวันหยุดคริสต์มาส เพื่อรอความชัดเจนการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ…

ตลาดการเงินของหลายประเทศทั้งในยุโรปและเอเชีย ที่เริ่มปิดทำการในวันคริสต์มาส ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินอื่นๆ แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ โดยมีประเด็นลบจากปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ และรอติดตามการเปิดประชุมของรัฐสภาสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์เกี่ยวกับการหารือเพื่อแก้ไขปัญหานี้

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,656.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันศุกร์ที่ผ่านมาเพียง 0.38 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,652 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท

คาดสัปดาห์นี้ ทองยืนที่แนวต้าน 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์


ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว หลังได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวทางเทคนิค โดยนักวิเคราะห์ ให้แนวต้านสัปดาห์นี้ ไว้ที่ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์…

ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มฟื้นตัว หลังจากถูกแรงเทขายอย่างหนักจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับที่บริเวณ 1,636 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังติดแนวต้านที่ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 1,657 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันพฤหัส 10.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาขายออกที่บาทละ 24,100 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,000 บาท

ทั้งนี้ ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากที่สามารถยืนเหนือแนวรับที่บริเวณ 1,636 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาณทางด้านเทคนิคบ่งบอกว่าเกิดภาวะขายมากเกินไป (Oversold) รวมทั้งการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา Fiscal cliff ของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีปัญหาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย กลับเข้ามา

ฮั่วเซ่งเฮงแนะติดตามการแก้ไขปัญหา fiscal cliff


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องจากแรงเทขายของกองทุนขนาดใหญ่ ซึ่งปรับตัวลงแรงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,680 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ในวันอังคาร และหลุดแนวรับที่ 1,660 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน โดยในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่าการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา fiscal cliff ใกล้บรรลุข้อตกลง นอกจากนี้กระแสข่าวที่ว่าบริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ สมิธ บาร์นีย์ แนะนำปรึกษาทางการเงินให้ถอนเงินลงทุนของลูกค้าออกจากกองทุนของจอห์น พอลสัน ซึ่งจอห์น พอลสัน ซึ่งเป็นผู้ที่คาดการณ์ราคาทองในทางบวกมาเป็นเวลานาน ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าพอลสันอาจจำเป็นต้องระบายการลงทุนในทอง นอกจากนี้มีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นที่จัดการประชุม 2 วันในวันพุธและวันพฤหัสมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0-0.10% และเพิ่มวงเงินในมาตรการปล่อยกู้และซื้อสินทรัพย์ขึ้นอีก 10 ล้านล้านเยนเป็น 101 ล้านล้านเยน และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในครั้งถัดไปมีโอกาสปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเป็น 2% ซึ่งการปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวอาจส่งผลลบต่อค่าเงินเยนในอนาคต

21 ธ.ค. 55 ปิดตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์ลบ 4.02 จุด อยู่ที่ 1,373.38 จุด


ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. ที่ระดับ 1,373.38 จุด ลดลง 4.02 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 35,025.83 ล้านบาท

ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. ที่ระดับ 1,373.38 จุด ลดลง 4.02 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 35,025.83 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 249 หลักทรัพย์ ลดลง 331 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 135 หลักทรัพย์

ทองรูด หลังกองทุนเฮดจ์ฟันด์ กระหน่ำเทขาย


ราคาทองคำรูด หลังกองทุนเฮดจ์ฟันด์ กระหน่ำเทขาย ด้านนักวิเคราะห์ คาดยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงอีก ให้แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,636 ดอลลาร์ต่อออนซ์…

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ห้างทองฮั่วเซ่งเฮงรายงานว่า ราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมาถูกแรงเทขายอย่างกระหน่ำจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ จนหลุดแนวรับที่ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,636 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากกระแสข่าวที่ว่า บริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ สมิธ บาร์นีย์ แนะนำปรึกษาทางการเงินให้ถอนเงินลงทุนของลูกค้า ออกจากกองทุนของจอห์น พอลสัน ราคาทองคำปิดตลาดที่ 1,647 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงจากระดับปิดของวันพฤหัส 19.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,636 และ 1,671 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศเมื่อวานขายออกที่บาทละ 24,300 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,200 บาท