ราคาทองคำปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อย่างใกล้ชิด โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในช่วงดึกคืนวันนี้ตามเวลาไทย
ราคาทอง 1 สลึงวันนี้ราคาทองย้อนหลังราคาทองย้อนหลังทุกปีราคาทองเยาวราชวันนี้กราฟราคาทองคําราคาทองประจำวันสถิติราคาทองในประเทศกราฟราคาทองไทยราคาน้ำมันวันนี้ราคาบิทคอยน์วันนี้เมนูอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินต่างประเทศข่าวแนวโน้มราคาทองคำเกี่ยวกับเรา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 62,000.00 | 62,100.00 |
| ทองรูปพรรณ | 60,761.28 | 62,900.00 |
| วันนี้ 1,150 | 50 | |
| 08 ตุลาคม 2568 | เวลา 15:56 น. | (ครั้งที่ 28) |
ขายทองรูปพรรณที่ร้านทองวันนี้ได้กี่บาท?
หากวันนี้เรานำทองรูปพรรณไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน ไปขายคืนที่ร้านทอง ร้านจะใช้ ราคาทองแท่งรับซื้อในวันนี้ 62,000 บาท เป็นฐานคำนวณ แล้วหักค่ารับซื้อประมาณ 5% ตามที่ประกาศโดยสคบ.
📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับหลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง ครึ่งสลึง, 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท, 2 บาท และ 5 บาท
📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับหลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง ครึ่งสลึง, 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท, 2 บาท และ 5 บาท
ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ (หัก 5%)
ครึ่งสลึง (0.125 บาท)
00,000.00 บาท
1 สลึง (0.25 บาท)
00,000.00 บาท
2 สลึง (50 สตางค์)
00,000.00 บาท
1 บาท
00,000.00 บาท
2 บาท
00,000.00 บาท
5 บาท
00,000.00 บาท
หลักเกณฑ์การรับซื้อคืนทองรูปพรรณ
- อ้างอิงจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- ร้านทองสามารถหักราคาคืนทองรูปพรรณได้ไม่เกิน 5% (แต่หากเป็นทองคำที่มาจากต่างร้านอาจคิดลดหรือหักได้มากกว่า 5%)
- ใช้ราคาทองแท่งรับซื้อ ณ วันนี้62,000 บาท เป็นฐานคำนวณ
- ใช้ได้เฉพาะเมื่อซื้อคืนจากร้านเดิมเท่านั้น
- อาจมีค่ากำเหน็จหรือความเสียหายเพิ่มเติมตามสภาพทอง
- เป็นการคำนวณราคาเบื้องต้นโปรดสอบถามราคาที่ร้านทองอีกครั้ง
- ร้านทองอาจรับซื้อทองรูปพรรณคืนในราคาที่ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ และต้นทุนในการบริหารจัดการกิจการของแต่ละร้าน
ทำไมราคาทองคำถึงขึ้นๆ ลงๆ?
สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย
1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ทองคำถูกกำหนดการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อ ดอลลาร์อ่อนค่า → ทองจะแพงขึ้นตามค่าเงิน ตรงกันข้าม หาก ดอลลาร์ แข็งค่า → ทองก็จะถูกลงตามค่าเงิน
2. เงินเฟ้อ
เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า และเมื่อคนต้องการซื้อทองมากขึ้นจึงส่งผลให้ราคาทองแพงขึ้น
3. ดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง
4. วิกฤตเศรษฐกิจ/ความไม่แน่นอน
ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย
5. ความต้องการซื้อขาย (อุปสงค์–อุปทาน)
ราคาทองขึ้น/ลงตามกลไกตลาด ถ้าความต้องการ (อุปสงค์) มากกว่า ปริมาณทอง (อุปทาน) → ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น
อุปสงค์: การลงทุน, เครื่องประดับ, ซื้อตามเทศกาล, ธนาคารกลางสะสม, ใช้ในอุตสาหกรรม
อุปทาน: ผลิตจากเหมือง, รีไซเคิล, การขายออกของธนาคารกลาง
6. ค่าเงินบาท (THB)
ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม
ราคาทอง 50 สตางค์/ข่าวเกี่ยวกับทองคำล่าสุด
ประกาศราคาทอง ชนิด 96.5% ประจำวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2558 ครั้งที่ 1 เวลา 09.16 น. จาก สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) เปิดตลาดวันนี้ ทองลง 100 บาท จากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้(วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม 2558) โดย
เช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ทองคำตลาดโลกร่วงลงกว่า 8 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1,168.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนทองในประเทศเช้านี้ประกาศราคาทองไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งรวมแล้วลดลง 150 บาท อย่างไรก็ตามเงินบาทอ่อนได้ช่วยชะลอการปรับลดลงของราคาทองในประเทศได้
ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องมาจากได้รับปัจจัยลบกดดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประเด็นหลักกดดันทองคำ ยังมาจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายทางการเงินครั้งสุดท้ายของปีเดือนธันวาคมนี้
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังมีการเทขายทำกำไรเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้การปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองคำในครั้งนี้มาจากสัญญานทางเทคนิคของทองคำหลังจากมีสัญญาณขายมากเกินไป(Oversold)
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยบวกหนุนหลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนตุลาคมทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ทองคำจะขยับขึ้นนั้นเป็นไปได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงหนัก 15 ดอลลาร์ เมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะได้รับปัจจัยลบกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของสหรัฐส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ระลอกใหม่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
ราคาทองคำนิวยอร์กกลับมาปิดลดลงเป็นวันแรกของสัปดาห์หลังจาก 2 วันก่อนหน้านี้ทองคำสามารถยืนในแดนบวกได้ โดยปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำยังมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในช่วงเดือนธันวาคม
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เนื่องจากเพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
ประกาศราคาทอง ชนิด 96.5% ประจำวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 ครั้งที่ 1 เวลา 09.28 น. จาก สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) เปิดตลาดวันนี้ ทองลง 100 บาท จากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้(วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558) โดย
ราคาทองคำร่วงลง หลังจากได้รับแรงกดดันจากแถลงนโยบายการเงินของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่อสภาคองเกรส เมื่อวานนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ราคาทองคำวันนี้(8) ขึ้น 200 บาท ตามต่างประเทศ ส่วนแนวโน้มยังปรับลงต่อ
ภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มอ่อนตัว โดยปรับตัวลงติดต่อกันมาหลายวัน หลังจากที่บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกมาประสานเสียงถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มชะลอ QE ภายในปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังจะเริ่มลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินในอีกไม่ช้า
ซึ่งเมื่อคืนนี้(7 ส.ค.)สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกไป 2.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,285.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองวันนี้ โดย ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
– ทองปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
– GDP สหรัฐต่ำกว่าการประเมินครั้งก่อน
– สัปดาห์หน้าต้นเดือนมิถุนายน 56(3-7 มิ.ย.56) ติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยมีแรงซื้อกลับเข้าสู่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่กลับมีสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำและราคาโลหะเงินวานนี้(พฤหัสบดีที่ 30 พ.ค. 56) ปรับตัวขึ้น
ธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เชื่อ หาก กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายเกิน 0.25% ทองมีโอกาสกลับมาบาทละ 20,000 อีกครั้ง…
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง โดย GT Wealth Management
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 8.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,394.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์(Gold spot) ราคาทองคำเคลื่อนไหวไร้ทิศทางหลังตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯและอังกฤษปิดทำการเมื่อวานนี้(จันทร์ที่ 27 พ.ค.56) ดัชนีค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้งเช้านี้(อังคารที่ 28 พ.ค.56) ที่ระดับ 83.90 จุด สวนทิศทางค่าเงินเยนที่อ่อนค่าขึ้นลงน้อยจากเมื่อวาน โดยอยู่ที่ระดับ 101.90 เยนต่อดอลลาร์ การแข็งค่าของดัชนีค่าเงินดอลลาร์กดดันราคาทองคำโลกเช้านี้ที่ระดับ 1,388 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังคืนวานนี้เคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ค่าเงินบาททรงตัวใกล้ระดับ 29.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนการประชุมกนง.ที่จะมีในวันพรุ่ง(พุธที่ 29 พ.ค.56)นี้ ซึ่งหากกนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำในประเทศ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ 1,016.16 ตัน
รายงานราคาทองคําประจำวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 500 บาท ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราทองในประเทศบริเวณ 61,450 บาท หลังจากเมื่อวาน(อังคาร) มีการประกาศราคาทั้งหมด 16 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 450 บาท สูงสุดบริเวณ 61,100 บาท
ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้นแรงขึ้นทดสอบระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลถูกชัตดาวน์ ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งแรงนิวไฮ
รายงานราคาทองวันนี้วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 450 บาท สู่บริเวณ 60,950 บาท หลังจากเมื่อวาน(จันทร์) ผันผวนหนัก 24 ครั้ง รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,050 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศในครั้งที่ 23 บริเวณ 60,550 บาท
ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้น All-Time high อย่างต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแรงซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดพุ่งแตะ 60,950 บาท
รายงานราคาทองประจำวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.02 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 600 บาท แตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 60,050 บาท หลังจากราคาทองวันเสาร์ที่เพิ่มขึ้น 250 บาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำเพิ่มขึ้นมากถึง 2,050 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าพุ่งขึ้น 2,000 บาท
ราคาทองคํา Spot ดีดตัวขึ้นนิวไฮทะลุ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ รวมทั้งความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งนิวไฮ 60,050 บาท
รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งเดียว เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 250 บาท สู่บริเวณ 59,450 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(ศุกร์) ที่ระหว่งวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 12 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 200 บาท สู่บริเวณ 59,200 บาท
ราคาทองคํา Spot ฟื้นตัวกลับขึ้นหลังปรับฐานลงเนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย รวมทั้งความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ ส่วนราคาทองในประเทศประกาศครั้งเดียววันเสาร์เพิ่มขึ้น 250 บาท
รายงานราคาทองคําวันนี้วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวลงแรง 150 บาท สู่บริเวณ 59,250 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พฤหัสบดี) ที่ระหว่งวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 9 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 150 บาท สู่บริเวณ 59,400 บาท