ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง62,250.0062,350.00
ทองรูปพรรณ61,003.8463,150.00
วันนี้ 1,40050
08 ตุลาคม 2568เวลา 17:02 น.(ครั้งที่ 33)
ขายทองรูปพรรณที่ร้านทองวันนี้ได้กี่บาท?
หากวันนี้เรานำทองรูปพรรณไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน ไปขายคืนที่ร้านทอง ร้านจะใช้ ราคาทองแท่งรับซื้อในวันนี้ 62,250 บาท เป็นฐานคำนวณ แล้วหักค่ารับซื้อประมาณ 5% ตามที่ประกาศโดยสคบ.

📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับหลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง ครึ่งสลึง, 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท, 2 บาท และ 5 บาท
ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ (หัก 5%)
ครึ่งสลึง (0.125 บาท)
00,000.00 บาท
1 สลึง (0.25 บาท)
00,000.00 บาท
2 สลึง (50 สตางค์)
00,000.00 บาท
1 บาท
00,000.00 บาท
2 บาท
00,000.00 บาท
5 บาท
00,000.00 บาท
หลักเกณฑ์การรับซื้อคืนทองรูปพรรณ
  • อ้างอิงจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
  • ร้านทองสามารถหักราคาคืนทองรูปพรรณได้ไม่เกิน 5% (แต่หากเป็นทองคำที่มาจากต่างร้านอาจคิดลดหรือหักได้มากกว่า 5%)
  • ใช้ราคาทองแท่งรับซื้อ ณ วันนี้62,250 บาท เป็นฐานคำนวณ
  • ใช้ได้เฉพาะเมื่อซื้อคืนจากร้านเดิมเท่านั้น
  • อาจมีค่ากำเหน็จหรือความเสียหายเพิ่มเติมตามสภาพทอง
  • เป็นการคำนวณราคาเบื้องต้นโปรดสอบถามราคาที่ร้านทองอีกครั้ง
  • ร้านทองอาจรับซื้อทองรูปพรรณคืนในราคาที่ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ และต้นทุนในการบริหารจัดการกิจการของแต่ละร้าน

ทำไมราคาทองคำถึงขึ้นๆ ลงๆ?

สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ทองคำถูกกำหนดการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อ ดอลลาร์อ่อนค่า → ทองจะแพงขึ้นตามค่าเงิน ตรงกันข้าม หาก ดอลลาร์ แข็งค่า → ทองก็จะถูกลงตามค่าเงิน

เงินเฟ้อ
2. เงินเฟ้อ

เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า และเมื่อคนต้องการซื้อทองมากขึ้นจึงส่งผลให้ราคาทองแพงขึ้น

ดอกเบี้ย
3. ดอกเบี้ย

ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง

วิกฤตเศรษฐกิจ/ความไม่แน่นอน
4. วิกฤตเศรษฐกิจ/ความไม่แน่นอน

ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย

ความต้องการซื้อขาย (อุปสงค์–อุปทาน)
5. ความต้องการซื้อขาย (อุปสงค์–อุปทาน)

ราคาทองขึ้น/ลงตามกลไกตลาด ถ้าความต้องการ (อุปสงค์) มากกว่า ปริมาณทอง (อุปทาน) → ราคามีแนวโน้มสูงขึ้น
อุปสงค์: การลงทุน, เครื่องประดับ, ซื้อตามเทศกาล, ธนาคารกลางสะสม, ใช้ในอุตสาหกรรม
อุปทาน: ผลิตจากเหมือง, รีไซเคิล, การขายออกของธนาคารกลาง

ค่าเงินบาท
6. ค่าเงินบาท (THB)

ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม

ลงทุนตลาดหุ้น/ข่าวเกี่ยวกับทองคำล่าสุด

บลจ.กสิกรคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(7-10พฤษภาฯ56)ผันผวน

กสิกรไทยคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าผันผวน-มีโอกาสปรับลงหลังไม่ผ่าน 1,600 จุด

บล.กสิกรไทย และ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมิน ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า(7-10 พฤษภาคม2556) ว่า ดัชนีอาจเผชิญกับความผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดยปัจจัยสำคัญที่น่าติดตาม คงได้แก่ การรายงานตัวเลขการส่งออกของจีน เครื่องชี้ภาคการผลิตในยูโรโซน รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ยอดขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,567 และ 1,561 ขณะที่แนวต้านคาดว่า จะอยู่ที่ 1,602 และ 1,638 ตามลำดับ

ตลาดหุ้น เตรียมพร้อมรับมือไฟดับ

ตลาดหลักทรัพย์เตรียมพร้อมรับมือไฟดับ เผยมีไฟสำรองพร้อมเพื่อไม่ให้ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์สะดุด ส่วนโบรกเกอร์น่าจะมีระบบสำรองไฟอยู่ตามอาคารสำนักงานอยู่แล้ว…

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงพลังงานจะประภาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานและอาจมีการดับไฟ หรือหยุดจ่ายไฟบางพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการดับไฟในพื้นที่ไหน และในช่วงเวลาใด แต่ในความเห็นส่วนตัว เชื่อว่าทางรัฐบาลคงจะไม่หยุดจ่ายไฟในพื้นที่ใจกลางธุรกิจ หรือปล่อยให้เกิดไฟดับขึ้น มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ และเชื่อว่าน่าจะมีทางออกที่ดีได้ ที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวม

สำหรับในส่วนของตลาดหลักทรัพย์นั้น มีระบบไฟสำรอง พร้อมรับมือทั้งในกรณีไฟกระชากและในกรณีไฟดับ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีระบบเติมน้ำมันที่สามารถนำมาปั่นไฟฟ้าได้ และสามารถมีไฟใช้อยู่ได้หลายวัน

ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่ 30 ม.ค.56)ปรับเพิ่ม 12.05 จุด อยู่ที่ 1,490.82 จุด

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 30 ม.ค.2556 ที่ระดับ 1,490.82 จุด เพิ่มขึ้น 12.05 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 62,168.40 ล้านบาท

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 30 ม.ค.2556 ที่ระดับ 1,490.82 จุด เพิ่มขึ้น 12.05 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 62,168.40 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 352 หลักทรัพย์ ลดลง 314 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

ดอยซ์แบงก์เคาะเป้าหุ้นไทยปีนี้ไปโลด 1,650 จุด

ดอยซ์แบงก์เคาะเป้าหุ้นไทยปีนี้ไปโลด 1,650 จุด จากกำไรปีนี้ยังโตได้กว่า 20% และราคาหุ้นไทยยังต่ำกว่าตลาดในอาเซียน ส่วนปีหน้า 1,700-1,800 จุด

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยของดอยซ์แบงก์ประเมินระดับดัชนีหุ้นไทยสูงสุดปีนี้น่าจะปรับตัวไป ได้ถึง 1,650 จุด โดยราคาหุ้นไทยยังซื้อขายในระดับต่ำกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน พิจารณาจากราคาหุ้นไทยเมื่อเทียบกับอัตรากำไรสุทธิ P/E ล่วงหน้า ยังอยู่ในระดับ 12-13 เท่า ต่ำกว่าพีอีล่วงหน้าเฉลี่ยของอาเซียน ซึ่งอยู่ที่ 15 เท่า โดยประเมินว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีนี้น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และเติบโตต่อเนื่องไปถึงปี 57 โดยหากอัตราดอกเบี้ยโลกยังอยู่ในระดับต่ำ เงินทุนสภาพคล่องยังท่วมโลก น่าจะเป็นตัวผลักดันให้ดัชนีหุ้นไทยไปได้ถึง 1,700-1,800 จุด ในปี 57 อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับฐานลงของตลาดหุ้น ก็เชื่อว่าจะไม่ปรับตัวลงแรงมากนัก เพราะดัชนีหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นแรงผลักดันจากหุ้นขนาดกลางและเล็ก ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนักโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ราคายังต่ำมาก โดย P/Eยังอยู่ที่ 8 เท่าเท่านั้น

ศูนย์วิจัยฯคาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น

ศูนย์วิจัยฯ คาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดว่าดัชนีแนวรับอยู่ที่ 1,384 และ 1,368 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,423 และ 1,443 จุด

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ดัชนีหลักทรัพย์ของไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (7-11 ม.ค.) ดัชนีปรับลดลงจากแรงขายต่างชาติ ท่ามกลางข่าวการปรับลดระดับความน่าลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,412.06 จุด ลดลง 0.32% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 17.42% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 53,716.13 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 434.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.09% จากสัปดาห์ก่อน

หุ้นไทยปิดตลาดสุดสัปดาห์ศุกร์ที่ 11 ม.ค.56 บวก6.07จุด ยืนเหนือ1.4พันจุดสำเร็จ

ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 11 ม.ค. ที่ระดับ 1,412.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 54,894.99 ล้านบาท…

ปิดตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ม.ค. ที่ระดับ 1,412.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 54,894.99 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 372 หลักทรัพย์ ลดลง 277 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 153 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

ปิดตลาดหุ้นไทยพฤหัสบดีที่ 10 ม.ค.56 ปรับลด 17.47 จุด สวนตลาดภูมิภาค

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ 10 ม.ค. ที่ระดับ 1,405.99 จุด ลดลง 17.47 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 81,270.08 ล้านบาท

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ 10 ม.ค. ที่ระดับ 1,405.99 จุด ลดลง 17.47 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 81,270.08 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 169 หลักทรัพย์ ลดลง 525 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 127 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

ปิดตลาดหุ้นไทยอังคารที่ 8 ม.ค.56 ปรับเพิ่ม 2.01 จุด อยู่ที่ 1,417.33 จุด

ปิดตลาดหุ้นไทยวันอังคารที่ 8 ม.ค. ที่ระดับ 1,417.33 จุด ปรับเพิ่ม 2.01 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 42,897.43 ล้านบาท….

ปิดตลาดหุ้นไทยวันอังคารที่ 8 ม.ค. ที่ระดับ 1,417.33 จุด ปรับเพิ่ม 2.01 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 42,897.43 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 294 หลักทรัพย์ ลดลง 304 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 176 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่


รายงานราคาทองคําประจำวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 500 บาท ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองในประเทศบริเวณ 61,450 บาท หลังจากเมื่อวาน(อังคาร) มีการประกาศราคาทั้งหมด 16 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 450 บาท สูงสุดบริเวณ 61,100 บาท


ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้นแรงขึ้นทดสอบระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลถูกชัตดาวน์ ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งแรงนิวไฮ


รายงานราคาทองวันนี้วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 450 บาท สู่บริเวณ 60,950 บาท หลังจากเมื่อวาน(จันทร์) ผันผวนหนัก 24 ครั้ง รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,050 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศในครั้งที่ 23 บริเวณ 60,550 บาท


ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้น All-Time high อย่างต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแรงซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดพุ่งแตะ 60,950 บาท


รายงานราคาทองประจำวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.02 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นพรวดเดียว 600 บาท แตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 60,050 บาท หลังจากราคาทองวันเสาร์ที่เพิ่มขึ้น 250 บาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำเพิ่มขึ้นมากถึง 2,050 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าพุ่งขึ้น 2,000 บาท


ราคาทองคํา Spot ดีดตัวขึ้นนิวไฮทะลุ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ รวมทั้งความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งนิวไฮ 60,050 บาท


รายงานราคาทองล่าสุดประจำวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งเดียว เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 250 บาท สู่บริเวณ 59,450 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(ศุกร์) ที่ระหว่งวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 12 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 200 บาท สู่บริเวณ 59,200 บาท


ราคาทองคํา Spot ฟื้นตัวกลับขึ้นหลังปรับฐานลงเนื่องจากยังคงได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย รวมทั้งความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ ส่วนราคาทองในประเทศประกาศครั้งเดียววันเสาร์เพิ่มขึ้น 250 บาท


รายงานราคาทองคําวันนี้วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.04 น. ปรับตัวลงแรง 150 บาท สู่บริเวณ 59,250 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน(พฤหัสบดี) ที่ระหว่งวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 9 ครั้ง รวมราคาปรับตัวลดลง 150 บาท สู่บริเวณ 59,400 บาท


ราคาทองคํา Spot ยังเคลื่อนไหวในระดับสูงแม้จะถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์รวมทั้งแรงเทขายทำกำไรทางเทคนิคหลังจากราคาพุ่งนิวไฮติดต่อกัน คืนวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐเนื่องจากหน่วยงานรัฐถูกปิดทำการ ส่วนทองในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลงแรง


รายงานราคาทองคําประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวลงแรง 250 บาท สู่บริเวณ 59,300 บาท หลังจากเมื่อวาน(พุธ) มีการประกาศราคาทองทั้งหมด 16 ครั้งรวมเพิ่มขึ้นแรง 1,150 บาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศบริเวณ 59,55o บาท


ราคาทองคํา Spot ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไรทางเทคนิคหลังจากเมื่อวานพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลหลังจากหน่วยงานของรัฐบาลกลางของสหรัฐถูกชัตดาวน์เนื่องจากขาดงบประมาณ ด้านทองคำในประเทศเปิดตลาดร่วงลงจากนิวไฮ


รายงานราคาทองวันนี้วันพุธต้นเดือน 1 ตุลาคม 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.09 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 1,000 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 59,400 บาท หลังจากเมื่อวาน(อังคาร) ผันผวนหนักเช้าพุ่งแรงนิวไฮบริเวณ 59,300 บาท จากนั้นช่วงบ่ายปรับตัวลงต่อเนื่องมาปิดตลาดในครั้งที่ 32 บริเวณ 58,400 บาท


ราคาทองคํา Spot ดีดตัวกลับขึ้นนิวไฮหลังจากเมื่อวานผันผวนหนักช่วงเช้าดีดตัวขึ้นนิวไฮจากนั้นช่วงบ่ายร่วงหนักและดีดตัวกลับขึ้นในช่วงค่ำใกล้นิวไฮเดิมจากแรงหนุนความวิตกรัฐบาลกลางสหรัฐจะถูกชัตดาวน์ และคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย ด้านทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งกลับขึ้นนิวไฮ


รายงานราคาทองประจำวันอังคารสิ้นเดือน 30 กันยายน 2568 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.07 น. ปรับตัวขึ้นพรวดเดียว 650 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 58,850 บาท หลังจากเมื่อวาน(จันทร์) ระหว่างวันขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 14 ใน 22 ครั้ง ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการของวันบริเวณ 57,350 บาท


ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้นแรงทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่อย่างต่อเนื่องโดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งกังวลหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐจะถูกปิดทำการ ส่วนทองคำในประเทศเปิดตลาดวันสิ้นเดือนพุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่