ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง44,150.0044,250.00
ทองรูปพรรณ43,357.6044,750.00
วันนี้ 00
23 พฤศจิกายน 2567เวลา 09:00 น.(ครั้งที่ 1)

ข่าววิเคราะห์ราคาทอง


ทองกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังเศรษฐกิจสหรัฐไร้ทิศทาง คืนนี้ตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ในประเทศบาทอ่อนยังช่วยหนุนทอง


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนภาพรวมยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปหรือ อีซีบี เมื่อวานที่ผ่านมาพบว่า ยังไม่มีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติม จึงยังไม่พบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโรต่อสกุลเงินดอลลาร์ ผ่านมาทางราคาทองคำ

เมื่อวานนี้ประเด็นที่นักลงทุนต่างเฝ้าจับตาอยู่ที่ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) โดยหลังการประชุมประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกแถลงการณ์โดยสรุปว่าจะยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติมที่ได้ดำเนินการมาแล้ว ส่วนมาตรการที่อีซีบีเตรียมนำมาใช้นั้น นักลงทุนบางส่วนยังไม่มั่นใจว่าจะเพียงพอสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มยุโรปได้ ส่วนประเด็นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปนั้น ในการประชุมวานนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ระดับติดลบ 0.2% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับติดลบ 0.3%

ทางด้านรายงานจาก กองทุน SPDR Gold Trust พบว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีกราม 1.19 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 767.47

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ คาดรอปัจจัยใหม่ ประท้วงในฮ่องกงหนุนเล็กน้อย กลางสัปดาห์ตามเศรษกิจสหรัฐยุโรป


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ภาพรวมราคาทองคำพบการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากเพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงจากการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

เมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลง เนื่องมาจากนักลงทุนต่างหวั่นวิตกต่อเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ขณะเดียวกันตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอเศรษฐกิจสหรัฐจากยอดการทำสัญญาขายบ้านที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด

นอกจากนี้ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร ส่วนแนวโน้มของราคาทองคำ ยังคงเป็นเชิงลบ ทั้งจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง บวกกับปัจจัยลบจากความกังวลในการเติบโตของเศรษฐกิจจีน

ทองลงต่อเนื่อง จากดอลลาร์แข็งเหตุเศรษฐกิจสหรัฐสดใส แนวโน้มอยู่ในขาลง จับตาแนวรับสำคัญ $1,200


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากเมื่อวันศุกร์ สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นกดดันต่อราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ขณะที่ในทางเทคนิคพบว่า เมื่อราคาทองปรับตัวลงใกล้แนวรับบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยแรงซื้อส่วนหนึ่งมาจากความต้องการใช้ทองจริงเมื่อใกล้เข้าช่วงเทศกาลสำคัญของอินเดีย

โดยเมื่อวันศุกร์ทองคำไดัรับแรงกดดันเพิ่มเติมจากรายงานข้อมูลการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเห็นได้จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของสหรัฐ ขยายตัว 4.6% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 โดยจีดีพีล่าสุดได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนที่ 4.2% และพลิกกลับมาขยายตัวจากไตรมาสแรกที่หดตัว 2.1% การปรับตัวเพิ่มขึ้นของจีดีพีไตรมาสสองมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจากการใช้จ่ายผู้บริโภค การส่งออก และการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชน และนอกจากตัวเลขจีดีพีแล้ว

ทองร่วงต่ำสุดตั้งแต่ ธ.ค 56 หลังจีดีพีสหรัฐแข็งแกร่งเร็วเกินคาด สัปดาห์หน้าคาดทองมีแนวโน้มลงต่อ


แนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้าราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 2 ปี 57 ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ปี 2554 ส่งผลให้อุปสงค์การลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นการลงทุนทางเลือกปรับตัวลดลง

โดยราคาทองคำถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีอัตราการขยายตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่รวดเร็วที่สุดบันตั้งแต่ปลายปี 2554 ซึ่งนับเป็นอีกสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากที่ชะลอตัวลงเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยในรายงานดังกล่าวระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ซึ่งเป็นมาตรวัดภาคการผลิตและบริการที่กว้างที่สุดของสหรัฐนั้น ขยายตัวในอัตรา 4.6% ต่อปี ในไตรมาส 2 ของปีนี้ และเป็นการปรับเพิ่มจากระดับ 4.2% ในการประเมินก่อนหน้านี้

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของจีดีพีไตรมาสสองมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจากการใช้จ่ายผู้บริโภค การส่งออก และการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชน ซึ่งอัตราการ

ทองร่วงต่อจากดอลลาร์แข็งกดดัน หลังเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ในประเทศเช้านี้ทองลง 100


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำร่วงลง เนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% ในเดือนสิงหาคม สู่ระดับ 504,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 หรือในรอบกว่า 6 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ไว้

นอกจากนี้การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยนอกจากข้อมูลยอดขายบ้านใหม่ทะยานขึ้นเกินคาด ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำเช่นในปัจจุบันต่อไปเป็นระยะเวลานาน เพื่อหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังเฝ้าจับตาประเด็นข่าวเกี่ยวกับที่กองกำลังทหารของสหรัฐและชาติพันธมิตรอาหรับ ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม(IS)

ทองฟื้นตัวขึ้น จากปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในซีเรีย ภาพรวมกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศทองและเงินบาทคงที่


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนหลังจากมีรายงานว่าสหรัฐเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียและเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในทองคำในตลาดโลก หลังจากก่อนหน้านี้ทองคำถูกกดดันจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาพรวมในขณะนี้ ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบมากขึ้นหลังจากฟื้นตัวจากแรงหนุนดังกล่าวข้างต้น

ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อของนักลงทุน หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า กองกำลังทหารของสหรัฐและชาติพันธมิตรอาหรับ ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม(IS) ในซีเรีย นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดทองรูปพรรณรายใหญ่ของโลก ซึ่งโดยปกติอุปสงค์จะปรับตัวขึ้นในเดือนกันยายน เพราะเป็นช่วงก่อนเทศกาลที่สำคัญและฤดูกาลแห่งการแต่งงานในประเทศอินเดีย

สัปดาห์นี้ทองร่วงต่ำสุดรอบ 8 เดือน จากดอลลาร์แข็งหลังเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตดี


แนวโน้มราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกปิดตลาดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสกอตแลนด์ ส่วนภาพรวมราคาทองคำทั้งสัปดาห์นี้ พบว่าตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์หลังสิ้นสุดการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ทองคำถูกเทขายอย่างหนักจนแตะระดับต่ำสุดที่ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์

จากการที่นักลงทุนมีภาพความวิตกกังวลในตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ และเกิดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐส่งผลหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้น และได้เป็นปัจจัยฉุดราคาทองให้ร่วงลง ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากสกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง ราคาทองก็จะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

นอกจากนี้นักลงทุนต่างก็คลายความกังวลหลังจากผลการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าชาวสกอตไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระจากสหราช

ทองฟื้นตัวเล็กน้อย หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอ่อนแอ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งเล็กน้อย ทองขึ้น 50


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองฟื้นตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ โดยทั้งนี้ตลาดมีการคาดการณ์ที่ว่า การที่ราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนอาจจะกระตุ้นแรงซื้อในตลาดมากขึ้น

พบแรงซื้อทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม หดตัวลง 0.1% และนับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกของข้อมูลภาคอุตสาหกรรม นับตั้งแต่เดือนมกราคม และนับเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ยังไม่ต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนซึ่งมีมุมมองที่ว่า ราคาได้ปรับตัวลงมาจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว โดยดัชนีความแข็งแกร่งของทองคำได้ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 30 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการดีดตัวกลับ

ทองร่วงลงหนักตลอดทั้งสัปดาห์ จากกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ในประเทศสัปดาห์นี้ลง 450


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องและทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 7 เดือนที่ระดับ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยถูกแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งสัญญานแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดรอบ 14 เดือน ขณะเดียวกันกระแสคาดการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้สร้างความน่าสนใจให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรเข้ามายังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ตรงกันข้ามได้ส่งแรงกดดันอย่างหนักมายังราคาทองคำให้ร่วงลง โดยพบว่าเดือนนี้ทองคำร่วงลงไปแล้วกว่า 6.2%

โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองจะมีแนวโน้มอ่อนแรงลง หากธนาคารกลางสหรัฐคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น โดยในปีนี้ ราคาทองมีการปรับตัวผันผวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัจจัยความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรงหรือผ่อนคลายความตึงเครียดลง

ทองร่วง 3 วันติด จากดอลล่าร์แข็งกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ในประเทศบาทเริ่มแข็งเช้านี้ทองลง 100


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องมาจากสกุลเงินดอลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,245.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่ แอปเปิล อิงค์ ประกาศเปิดตัว iPhone 6 รวมทั้งนาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch และ Apple Pay ไปเมื่่อวานนี้

แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนแทขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อมูลที่เพิ่มเติมความเป็นไปได้จากคาดการณ์ดังกล่าว หลังจากบทวิจัยของนักเศรษฐศาสตร์ของเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า นักลงทุนอาจประมาณการต่ำเกินไปเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 2.50% และส่งผลทำให้เกิดแรงหนุนดัชนีดอลลาร์สหรัฐให้สามารถรักษา

ทองฟื้นตัวจากตัวเลขแรงงานสหรัฐต่ำกว่าเป้าหมาย เช้านี้ในประเทศบาทแข็งทำทองลง 50


แนวโน้ม ทิศทางราคาทองคำวันนี้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับขึ้นได้เพียงเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง เนื่องมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ผ่านมาต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์ทองคำถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปลายสัปดาห์ทองคำดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้สร้างตำแหน่งงานเพิ่มน้อยที่สุดในปีนี้ ในเดือนสิงหาคม โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง ซึ่งอัตราการขยายตัวของตำแหน่งงานในเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของปีนี้ นับเป็นการสะดุดลงอีกครั้งของตลาดแรงงานหลังจากที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 6 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้

และจากข้อมูลดังกล่าวส่งสัญญาณที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป

ทองปรับขึ้นเล็กน้อย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในประเทศทั้งสัปดาห์ลง 200 เช้าวันเสาร์ขึ้น 50


ราคาทองคำวันนี้ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(1-5 ก.ย.) พบว่าร่วงลงทั้งสิ้น 1.56% จากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินยูโร แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกินคาดหมายรวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งสัญญานแข็งแกร่งต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าตามสถิติแล้ว เดือนกันยายนของทุกปีจะเป็นเดือนที่ทองคำปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด นอกจากนี้ ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในประเทศอินเดียจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทองคำเพิ่มขึ้นด้วย

ขณะที่่เมื่อคืนที่่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังได้รับแรงหนุนจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราว่างงาน ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจภาคครัวเรือน ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.1% จาก 6.2% ในเดือนกรกฏาคม โดยอัตราการขยายตัวของตำแหน่งงานในเดือนสิงหาคมถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของปีนี้ นับเป็นการสะดุดลงอีกครั้งของตลาด