ราคาทองคําวันนี้

ทองคำยังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งสุดรอบกว่า 4 ปี ในประเทศบาทอ่อนหนุนทองลงไม่เยอะ เปิดเช้านี้คงที่!

ราคาทองยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปีนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2553 เนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ว่าที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีแนวโน้มจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆ ซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่รายงานเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่ามีทั้งดีและไม่ดี…

กระแสคาดการณ์ทิศทางการการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเริ่มมีน้ำหนักขึ้นเรื่อย หลังจากที่เฟดมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และส่งผลทำให้ทองคำปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องและเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำขณะนี้

กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นแม้ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ได้กล่าวยืนยันในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์

ทองร่วงหนักต่อเนื่อง หลังตัวเลขGDP สหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด ในประเทศวานนี้ลง 300 เช้านี้ลงอีก 150

ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักและหลุดระดับแนวรับจิตวิทยา 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง

ทองคำยังร่วงลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ปี 2557 ขยายตัว 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะเติบโตที่อัตรา 3% โดยก่อนหน้านี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดได้ประกาศยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตราการ QE เพราะเล็งเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้น

ทองฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ สัปดาห์หน้า(27-31ต.ค.)แนะติดตามประชุมเฟด สัปดาห์นี้ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อยกว่าปกติ

ราคาทองคำตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์สุดสัปดาห์ โดยนักลงทุนได้เข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่นๆ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก และการยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรกในนิวยอร์ก ทั้งนี้การที่เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

ขณะที่ภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้(20-24 ต.ค.) พบว่ามีแรงหนุนจากความต้องการใช้ทองคำจากเอเชียประเทศบริโภคทองคำอันดับ 1 และ 2 ของโลก จากจีนและอินเดียโดยเฉพาะอินเดีย มีความต้องการทองคำในงานเทศกาลดิวาลี หรือ เทศกาลปีใหม่และเทศกาลแต่งงานของอินเดีย ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงเดือนธันวาคม ทำให้สัปดาห์นี้ ราคาทองคำทำสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ระดับ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ในประเทศบาทเช้านี้เงินบาทนิ่ง ทองลง 50

ราคาทองสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง หลังมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เป็นเหตุให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง โดย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่รายงานโดย รอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้พบว่า ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับ 84.6 จากเดือนก่อนหน้า และนอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 6.3% อยู่ที่ระดับ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายด้วยสกุลเงินนี้ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น

ทองคำลดลงหลังข้อมูลแรงงานสหรัฐดีเกินคาด แนวโน้มยังขึ้นต่อแต่เพียงกรอบจำกัด ในประเทศเช้าบาทแข็งทองลง 100

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังได้รับแรงกดดันจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจด้านแรงงานของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากนักวิเคราะห์ว่า ตลาดทองคำอาจจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำที่สูงขึ้นในช่วงก่อนถึงเทศกาลที่สำคัญของอินเดีย ส่งผลให้การปรับตัวลงของราคาทองมีกรอบจำกัด

เมื่อคืนที่ผ่านมาข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะที่ 264,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2543 สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 290,000 ราย

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดผลผลิตในภาคการผลิต สาธารณูปโภค

เช้านี้ทองร่วงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว คาดทองไม่ดึงดูดเมื่อเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศบาทแข็งเช้านี้ลงอีก 50

เช้านี้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับ 1,213.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภาพรวมแนวโน้มทองคำยังมีทิศทางขาลง เนื่องมาจากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐสดใส ตลาดจึงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ และจากประเด็นดังกล่าวได้สนับสนุนให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกดดันต่อทองคำ

นักวิเคราะห์คาดว่า ความวิตกกังวลในตลาดเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นของสหรัฐ จะนำไปสู่การพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักฉุดราคาทองให้ร่วงลง ณ.ขณะนี้ ในขณะเดียวกัน หากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง ราคาทองก็จะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมากขึ้น

ประเด็นที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ได้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่อ