ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง50,450.0050,550.00
ทองรูปพรรณ49,542.8851,350.00
วันนี้ 100100
17 พฤษภาคม 2568เวลา 09:07 น.(ครั้งที่ 1)

ข่าวแนวโน้มราคาทองคำ


ชี้ชะตาทอง รอผลประชุมเฟดเช้าพรุ่งนี้(19) คาดไม่กระทบมาก หากผิดคาดผันผวนแน่นอน


แนวโน้มราคาทองคำ ราคาทองประจำวันราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสถิติ 5 วันในรอบ 6 วันทำการ หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญเมื่อคืนนี้ อย่างตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนลดความต้องการในการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง โดยบางส่วนเทขายทองคำเพื่อลดความเสี่ยงก่อนรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ FOMC ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19(ตามเวลาประเทศไทย) ในความชัดเจนเกี่ยวกับการลดทอนมาตรการ QE

โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์เอาไว้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มลดการเข้าซื้อพันธบัตรจากปัจจุบันที่เข้าซื้อเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะปรับลดขนาดของมาตรการ QE นี้ลง 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งหากเป็นไปตาม

ทองคำผันผวนก่อนและหลังประชุมเฟด คาดรอความชัดเจนมาตราการ QE ชี้นำการเคลื่อนไหว


แนวโน้มราคาทองคำ ราคาทองประจำวันราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงในระดับใกล้เคียงกับวันศุกร์(13)ที่ผ่านมา หลังมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยง กดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากส่วนหนึ่งของนักลงทุนเฝ้ารอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในวันนี้(17)ถึงวันพรุ่งนี้(18)และคาดว่าผลการประชุมจะออกมาในช่วงค่ำของวันพุธถึงเช้าวันพฤหัสบดี โดยระหว่างนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ เพื่อรอความชัดเจนในแนวนโยบายของเฟดต่อมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE

ประเด็น นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ผู้มีแนวคิดในการยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินให้เร็วที่สุด ถอนตัว

ทองผันผวน นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดสัปดาห์นี้คาด ลด QE ไม่มากหรือคงเดิม


ราคาทองคำวันนี้ แนวโน้มราคาทองราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงปริมาณมากจากมีแรงขายทางเทคนิค หลังจากที่ราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญ จากประเด็นที่ตลาดคลายความกังวลสถานการณ์ในซีเรียที่เคยเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาทอง ประกอบกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่งผลให้นักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ที่อาจมีปรับลดนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้(17-18 ก.ย.)

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างให้ความสนใจและเฝ้าติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เกี่ยวกับมาตราการ

ทองดิ่งต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ จากวิกฤติซีเรียคลีคลายและเศรษฐกิจสหรัฐฯ สดใส ในประเทศทองหลุด 20,000 แล้ว


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ ราคาทองประจำวันราคาทองคำเมื่อวานนี้ร่วงลงอย่างหนัก จากแรงเทขายทำกำไร และเป็นการปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ โดยปัจจัยลบมาจากรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในการประชุมสัปดาห์หน้านี้(17-18 ก.ย.) และนอกจากนี้สถานการณ์ในซีเรียก็เริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก หันมาใช้ยุทธวิธีทางการทูตแทนการใช้ยุทธวิธีทางทหารต่อซีเรีย ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับออกมาลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงแทน ส่งผลให้ราคาทองคำถูกกดดันหนักจนหลุดกรอบแนวรับที่สำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองดิ่งต่อเนื่อง หลังจากวิกฤฺติซีเรียคลี่คลาย ในประเทศบาทแข็งกดดันทองลง แนวโน้มยังปรับลงต่อ


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลจากสถานการณ์ในประเทศซีเรีย ที่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายลง หลังจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติประเด็นการใช้กำลังทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรียอยู่ในขณะนี้ ส่งผลทำให้นักลงทุนหันมาให้น้ำหนักในการซื้อขายเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสียง แทนการลงทุนตลาดสินทรัพย์ปลอดภัย จึงทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง

โดยนอกจากนี้ราคาทองคำยังโดนแรงกดดันจากความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลดทอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า(17-18 มิถุนายน) หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน

ทองดิ่งหลังวิกฤติซีเรียเริ่มคลีคลาย แนวโน้มปรับลดลงต่อ สัปดาห์หน้าประเด็น QE ส่งผลทั้งบวกและลบ


แนวโน้มราคาทองคำ ราคาทองล่าสุดราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้วและลดลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้ เหตุจากตลาดคลายความวิตกกังวลในสถานการณ์ในประเทศซีเรียเริ่มคลี่คลาย หลังจากจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก เริ่มมีทีท่าโอนอ่อนผ่อนตาม จากการที่รัฐบาลซีเรียยอมรับข้อเสนอของรัสเซียที่จะส่งมอบอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดเงินและตลาดทุน และปรับตัวขึ้นสวนทางกับทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ

ส่วนประเด็นหลักนอกจากสถานการณ์ในซีเรียแล้ว สัปดาห์หน้าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 17-

ตัวเลขเศรฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอ หนุนทองพุ่ง จับตามลดไม่ลด QE และวิกฤติซีเรีย


แนวโน้มราคาทองคำ ราคาทองรูปพรรณราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว(2-6 ก.ย.) โดยภาพรวมปรับตัวลดลง 0.5% โดยหลุดกรอบแนวรับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา ซึ่งร่วงลงแรง 2 วันติดช่วงกลางสัปดาห์ก่อนกลับมาปิดบวกในวันศุกร์(6 ก.ย.) หลังจากสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยข้อมูลการจ้างงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐยังอ่อนแอ และจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด อาจะต้องชะลอการปรับลดขนาดของนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ออกไป ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองให้ปรับเพิ่มขึ้น

โดยทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีกำหนดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ เพื่อจะประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้นเพียงพอที่จะลดสัดส่วน

จับตา กันยายน ทองดิ่งหรือพุ่ง ลดทอน QE กดดัน สถานการณ์ซีเรีย หนุน


แนวโน้มราคาทองคำ ราคาทองวันนี้เริ่มเข้าสู่เดือนกันยายน เดือนที่นักลงทุนจากทุกสำนักทุกตลาดต่างเฝ้าติดตามการประชุมใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่ จะประชุมกันระหว่างวันที่ 17-18 กันยายนนี้ เพื่อหาข้อสรุปว่าสุดท้ายแล้ว เฟด จะลดทอนมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือที่เรา เรียกกันว่า QE(Quantitative Easing) เมื่อใด และลดลงปริมาณเท่าใด ซึ่งเหตุผลในการนำมาตัดสินใจในการลดไม่ลดทอนมาตราการ QE นี้หลักๆ มาจากภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหลัก ว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ตามเป้าที่เฟดวางไว้หรือไม่ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสมเพียงใด ต่างๆ เหล่านี้คือกุญแจสำคัญในการนำมาพิจารณาในการประชุมใหญ่ของเฟดในครั้งนี้

ส่วนผลกระทบต่อการลดไม่ลดทอนมาตรการนี้สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่า เพราะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น