ราคาทองคําวันนี้

ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบ แนวโน้มมีทิศทางฟื้นตัว ในประเทศเงินบาทแข็ง กดทองไม่ให้ขึ้น

ราคาทองคำตลาดโลก(Gold Spot) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดตลาดเมื่อวานนี้ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังนักลงทุนคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนกรกฏาคมเมื่อคืนที่ผ่านมา

จากข้อมูลค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐทรงตัวในเดือนกรกฏาคม ซึ่งนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากตัวเลขเดียวกันเดือนก่อนหน้านี้ขยายตัว 0.2%

ขณะที่ปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงในตะวันออกกลางทั้งฉนวนกาซาและในอิรัก ต่างยังคงเป็นแรงหนุนต่อทองคำที่ถึงแม้ว่าราคาทองจะปรับลดลงแต่ก็ลดลงได้เพียงในกรอบจำกัด

คาดทองเคลื่อนไหวปรับฐาน ข่าวลด QE ยังกดดันต่อไป ในประเทศเช้านี้ขึ้น 100 บาทตามตลาดโลก

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบคาดเคลื่อนไหวในลักษณะของการปรับฐาน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่าข่าวเกี่ยวกับการลดขนาดมาตราการทางการเงินลง ของธนาคารกลางสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การที่ทองไม่ได้ร่วงแตะระดับต่ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็นับเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาก(จันทร์ 9 ธ.ค.) ปรับตัวเล็กน้อย 5.20 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.42% ที่ระดับ 1,234.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

โดยนายเจฟฟรีย์ แล็คเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ และ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในทำนองเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย

ทองผันผวน ต้นสัปดาห์ลง ปลายสัปดาห์ขึ้น แต่ภาพรวมยังขาลง ในประเทศอานิสงส์เงินบาทพยุงราคาไม่ให้ลดมาก

ตลอดทั้งสัปดาห์(2-6 ธ.ค.)ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน โดยต้นสัปดาห์ทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง จากแรงกดดันจากการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าจะมีการปรับลดการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เร็วขึ้น หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งเกิดคาด กลางสัปดาห์จนถึงปลายสัปดาห์ทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นทางเทคนิค คาดจากแรงซื้อเก็งกำไรจากนักลงทุนหลังราคาร่วงหนักตอนต้นสัปดาห์เกือบ 3%

ส่วนเมื่อคืน(6 ธ.ค.)ที่ผ่านมาสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเล็กน้อย 2.90 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,229 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจตัดสินใจปรับลดขนาดของมาตรการกระตุ้นทางการเงินในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นการสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำ

ทองพุ่งแรง จากแรงซื้อเก็งกำไร ในประเทศราคาทองอ้างอิงปิดตลาดวานนี้(4) ทองแท่งขาย 18,600 ทองรูปพรรณขาย 19,000

เมื่อคืนที่ผ่านมา(4) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 2% เนื่องมาจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา

โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ พุ่งขึ้น 26.40 ดอลลาร์ หรือ 2.16% ปิดที่ 1,247.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดยสัญญาทองคำทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ ภายหลัง ISM เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายรายการในสัปดาห์นี้ที่อาจบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดมาตรการกระตุ้น

ด้านราคาทองคำในประเทศ สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ปิดทำการเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ จึงใช้ราคาอ้างอิงจากราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้(พุธที่ 4 ธ.ค.) พบว่าทองคำปิดตลาดลดลง 100 บาท โดย

!!ทองร่วงหนักจากเศรษฐกิจสหรัฐแข่งแกร่งเกินคาด ในประเทศได้เงินบาทอ่อนหนุน ลดเพียง 250 บาท

เมื่อคืน(2)ที่ผ่านมาราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างหนักกว่า 2% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งเกินคาดส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันทองคำ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 57.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเมษายนปี 54 โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า(ตุลาคม) ที่ระดับ 56.4 ซึ่งเป็นรายงานที่แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในภาคการผลิตยังคงมีความต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2556

ขณะเดียวกันดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตในเดือนพฤศจิกายนพุ่งขึ้นแตะระดับ 54.7 และนับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า(ตุลาคม) ที่ระดับ 51.8 และเป็นการปรับขึ้นสูงกว่าที่ตลาดประเมินที่ 54.3

ทองขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร สัปดาห์ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ มีผลต่อเฟดพิจารณาปรับลด QE ในประเทศสัปดาห์นี้ทองขึ้น 350 บาท

ภาพการเคลื่อนไหวราคาทองคำยังคงทรงตัว จากการที่ตลาดทองคำสหรัฐได้ปิดทำการเนื่องจากวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving Day) ซึ่งช่วงปลายสัปดาห์นี้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังอยู่ในกรอบแคบ หลังต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์ราคาทองคำขึ้นลงผันผวนตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งภาพรวมรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาในสัปดาห์นี้แข็งแกร่งสดใส จึงส่งผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง และทำจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน ที่ระดับ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์หน้า(2-6 ธ.ค.)นักลงทุนให้ความสนใจกับประเด็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขอัตราการว่างงานและการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ โดยประกาศตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนพฤศจิกายนของ ADP Employee จะประกาศในวันพุธ ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานเดือนพฤศจิกายน จะประกาศในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า