ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง43,600.0043,700.00
ทองรูปพรรณ42,811.8444,200.00
วันนี้ 60050
21 พฤศจิกายน 2567เวลา 15:38 น.(ครั้งที่ 7)

ข่าวแนวโน้มราคาทองคำ


ทองยังแกว่งตัวผันผวนไร้ทิศทาง และขึ้นลงตามรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในประเทศทองแท่งยังเกาะระดับ 19,750-19,850 เหนียวแน่น


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวน จับทิศทางไม่ชัดเจน โดยก่อนการแถลงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ราคาปรับตัวสูงขึ้นและค่อยๆ ลดระดับลงมา และหลังจากถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าได้คงนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานต่อไป ก็เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ทองคำร่วงลงหลุดแนวรับสำคัญ

โดยผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตอนตีหนึ่งเมื่อคืนทีผ่านมา ระบุว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed funds rate)ที่ระดับต่ำสุด 0-0.25% และจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อย่าง ภาคตลาดแรงงาน โดย ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ

ทองแกว่งขึ้นลงตามรายงานเศรษฐกิจสหรัฐ คืนนี้หากเฟดคง QE ตามคาด ระวังแรงเทขาย และอาจผันผวน


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากการปรับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก อีกทั้งยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอ

โดยรายงานเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนกันยายน ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เดือนกันยายน ลดลงตัวเลขเดียวกัน 0.1% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยร่วงลงอย่างหนักสู่ระดับ 71.2 ในเดือนนี้ จากระดับ 80.2 ในเดือนที่แล้ว ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จะลดลงอีกในเดือนตุลาคม

ซึ่งข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาแสดงความอ่อนแอนั้นเป็นผลจากแรงกระทบที่ หน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่งหยุดทำการชั่วคราว ก่อนทำให้

ทองคำทรงตัวรอผลประชุมเฟด วันนี้และพรุ่งนี้ ระยะสั้นขึ้นต่อ ในประเทศทองแท่งถึง 20,000 แล้ว


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้เมื่อวานนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากทองคำปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้(29) คาดว่าจะเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบลักษณะเดียวกับเมื่อวาน(28) โดยนักลงทุนต่างรอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ในวันนี้และพรุ่งนี้(29-30 ต.ค.) และจะมีรายงานออกมาช่วงกลางดึกคืนพรุ่งนี้ถึงเช้าวันพฤหัสบดี(31) ตามเวลาในไทย ซึ่งไม่สามารถคาดเดาเรื่องการประชุมได้ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) ต่อไป เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนประเด็นที่นักลงทุนยังคงจับจ้องอยู่ก็คือ สัญญาณที่จะบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 85,000 ล้านดอลลาร์เมื่อใด.

ส่วนราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดวันนี้ปรับเพิ่มขึ้น 100 บาท ทำให้ทองคำแท่งขายออกขึ้นทดสอบ 20,000 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่บาทละ

แนวโน้มทองคำยังขึ้นต่อเนื่อง จากคาดการณ์เฟดเดินหน้า QE ในประเทศทองคำแท่งเข้าใกล้ 20,000


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ผ่านมา(21-25) โดยทองคำได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่รายงานออกมาผิดความคาดหมายค่อนข้างมาก ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ราคาทองคำพุ่งทะยานทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,330 เหรียญ

อย่างไรก็ตามขณะนี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับสูง จากการที่รอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นและจะได้ผลสรุปในวันพุธที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยนักวิเเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงนโยบายการผ่อนคลายทางการเงินในวงเงิน 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อไปอีก อันเนื่องมาจากปัญหาทางการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระยะยาว และอาจจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต อีกทั้งรายงานเศรษฐกิจของประเทศที่ออกมาค่อนข้างอ่อนแอ

ทองบวกต่อเนื่อง สัปดาห์หน้าติดตามการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ ส่วนประชุมเฟดคาดไม่กระทบทองมาก


แนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้าราคาทองคำสัปดาห์นี้(21-25) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์กว่า 2.9% และขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติดหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา(14-18) ทองคำปรับเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 3.7% หลังจากสหรัฐฯ สามารถยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง และปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันเวลา

สำหรับสัปดาห์นี้ทองคำได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอ อันเป็นผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและยังคงไม่ชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในช่วงการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งของปีนี้ และอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำมาจากรายงานเศษฐกิจดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวเนื่องจากจีนเป็นประเทศ

ทองพุ่งขานรับรายงานเศรษฐกิจโลก สหรัฐอ่อนแอ จีนแข็งแกร่ง ในประเทศวันนี้บวกเพิ่มอีก 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างตัวเลขคนว่างงานออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 12,000 รายสู่ระดับ 350,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ระดับ 340,000 ราย เป็นเหตุให้เงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากการคาดการณ์ว่าในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) ในสัปดาห์หน้า(29-30) เฟดจะยังคงเดินหน้านโยบายทางเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

อนึ่ง ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีภาคการผลิต ประจำเดือนตุลาคมของจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวเนื่องจากจีนเป็นประเทศนำเข้าทองคำมากที่สุดของโลก ทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวได้ดีและจะช่วยหนุนความต้องการทองคำให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย

ทองทะยานขึ้นมาก จึงถูกเทขายทำกำไร ในประเทศวันนี้ขึ้น 350 บาท ระยะสั้นยังขาขึ้น


แน่วโน้มราคาทองคำวันนี้เมื่อวันอังคาร(22)ที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกดีดตัวสูงขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกันยายน ออกมาอย่างผิดหวัง โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์อย่างไว้อย่างมาก โดยรายงานพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง และลดลงต่ำกว่าเดือนที่แล้วมากถึง 23,000 ตำแหน่ง จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงทันที ส่งผลให้นักลงทุนหันกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และทำให้ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,343 ดออลาร์ต่อออนซ์โดยประมาณ

และจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้นที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ส่งผลให้นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะยังคงไม่ปรับลดมาตรการนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ภายในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น

ทองคำรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ คืนนี้ กำหนดทิศทาง ในประเทศบาทอ่อนยังหนุนทองต่อ


แนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ เหตุรอปัจจัยใหม่สนับสนุน ส่วนประเด็นหลักนักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานประจำเดือนกันยายนของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้ หลังจากเลื่อนออกมา จากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐฯ

อย่างไรก็ตามทองคำได้รับแรงหนุนจากที่คาดการณ์ว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลเป็นเวลา 16 วัน อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย(QE) ต่อไปอีกอย่าง 3-4 เดือนเป็นอย่างน้อย

รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust รายงานว่าได้ปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีก 10.51 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 871.72 ตัน

ระยะสั้นทองขึ้นต่อ แนะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีผลต่อปรับลด QE ในประเทศบาทอ่อนหนุนทองขึ้น


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์ที่แล้ว(14-18)ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกันมาหลายสัปดาห์ ซึ่งราคาทองเคลื่อนไหวขึ้นลงตามข่าวปัญการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องของเพดานหนี้ และการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง และยุติลงเมื่อรัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐบรรลุข้อตกลงการเพิ่มเพดานหนี้ และการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2014 ชั่วคราวได้ไปจนถึงต้นปีหน้า

ซึ่งอย่างไรก็ตามตลาดมองว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากการเพิ่มเพดานหนี้และการยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาในระยะสั้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะกลับมาเป็นประเด็นต่อการเคลื่อนไหว

ทองโลกทะยานทะลุ $1,300 คาดเฟดไม่ลด QE เศรษฐกิจเสียหายจากShutdown ในประเทศบาทยังแข็งกดดันทอง


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3% สู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการคลังชั่วคราว เพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางและปรับเพิ่มเพดานหนี้

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่า แม้ว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯจะผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้และยุติปัญหาการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ แต่ก็เป็นเพียงการยื้อเวลาต่อไปชั่วคราวเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น แต่ปัญหายังคงอยู่ รวมทั้งข้อตกลงดังกล่าวนั้นยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเด็นที่ทั้งสองพรรคยังขัดแย้งกันอยู่ได้ในหลายประเด็น และท้ายที่สุด จะทำให้เกิดวิกฤตการคลังขึ้นมาอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือน

ขณะเดียวกันผลจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางและการแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ที่ล่าช้า ได้สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจสหรัฐแล้ว รวมถึงบั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจด้วย

กูรูชี้ ทองโลกฟื้นตัวระยะสั้น แนวโน้มยังขาลง ในประเทศเงินบาทแข็งกดดันทองลง 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้เมื่อวานนนี้(16)ราคาทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนการแก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณประจำปีเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง และการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ

ล่าสุดสภาคองเกรสและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายเพดานหนี้ ซึ่งจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 15 มกราคมปีหน้า และปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ปีหน้าเช่นกัน โดยขั้นตอนสุดท้ายเมื่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางเปิดทำการใหม่อีกครั้ง หลังจากปิดไปตั้งแต่วันนี้ 1 ตุลาคมวันเริ่มต้นปีงบประมาณ

และจากประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ตลาดทองคำคาดการณ์ว่า ข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณประจำปีและเพดานหนี้นี้ก็ยังไม่มีความแน่นอนในอนาคตอันใกล้ จึง

ทองผันผวนขึ้นลงตามข่าว คาดรอผลสรุปถึงพรุ่งนี้ ในประเทศวันนี้ดีดกลับขึ้น 300 จิตติ!! เตือนระวังปล่อยข่าวทุบทอง


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนตามทิศทางของข่าวเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐฯ ที่เข้ามา โดยล่าสุดยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่การที่สมาชิกจากพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน ได้ตกลงที่จะยอมนำข้อเสนอต่างๆ กลับไปพิจารณาก่อนที่จะนำมาลงมติในวันที่ 17 ต.ค. นี้โดยในข้อตกลงเบื้องต้นเป็นการกำหนดกรอบระยะเวลาในการลงมติเพื่อให้สหรัฐไม่ผิดนัดชำระหนี้ และเป็นการเพิ่มเพดานหนี้เป็นการชั่วคราวออกไปจนถึงปีหน้า จึงมีแนวโน้มที่สหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ตามที่ตลาดเคยกังวล

ส่วนหากการเจรจาเพื่อปรับเพิ่มเพดานหนี้และให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ถูกปิดให้สามารถกลับมาเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้งเกิดความล้มเหลว ฟิทช์ เรตติ้งส์ ประกาศจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ AAA หากว่าสหรัฐฯไม่