ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง41,350.0041,450.00
ทองรูปพรรณ40,598.4841,950.00
วันนี้ -15050
21 พฤษภาคม 2567เวลา 10:47 น.(ครั้งที่ 5)

ข่าวแนวโน้มราคาทองวันนี้


ทองคำพุ่ง หลังข่าวเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐพบตลาดบ้านอ่อนแอ ตลาดแรงงานสดใส


แนวโน้ม ราคาทอง วันนี้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นกว่า 17 ดอลลาร์ และกลับมายืนเหนือโซนรับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีรายงานข่าวการก่อการร้ายทั้งการยิงเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ของกลุ่มกบฏในยูเครน และเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล รวมทั้งปฏิบัติการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหรัฐและชาติพันธมิตรยุโรป และคาดว่าประเด็นเหล่านี้จะยังเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะนี้ต่อไป

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของยูเครนเปิดเผยว่า กลุ่มกบฎชาวยูเครนได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH-17 ตกลงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารพร้อมลูกเรืออยู่บนเครื่อง 295 คนเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่เหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ก็ยังยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 5 ชั่วโมงแล้วก็ตาม

ส่วนประเด็นการคว่ำบาตรรัสเซียจากทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรปนั้นยังเพิ่มแรงหนุนต่อสถานะของทองคำในขณะนี้ เมื่อล่าสุดสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม

ทองขึ้นเล็กน้อยหลังร่วงหนักกว่า 30$ แนวโน้มอาจอ่อนตัวลงได้อีก ในประเทศ 3 วันทองลงรวม 650


แนวโน้ม ราคาทองวันนี้ราคาทองคำวานดีดตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากช่วง 2 วันก่อนหน้าทองคำร่วงหนักหลุดโซนรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดมาจากแรงซื้อเก็งกำไร แต่โดยรวมแล้วคาดว่าเป็นการดีดตัวทางเทคนิคที่มักเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ และยังต้องระวังแรงขายที่คาดว่ายังจะมีกลับออกมา ขณะที่รายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมายังกดดันทองคำ ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจจากจีนที่สดใสและปริมาณการนำเข้าทองคำจากอินเดียที่เพิ่มมากขึ้นได้กลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำให้สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาสู่ระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง

โดยตลาดทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากมีรายงานข่าวว่า อินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มียอดการนำเข้าทองคำในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 65% ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยบวกมาจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่กำลังฟื้นตัวหลังจากที่รัฐบาลดำเนินมาตรการกระตุ้นหลากหลายมาตรการ โดยเฉพาะดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ไตรมาส 2/2557 ได้ขยายตัวขึ้น 7.5% ซึ่งสูงกว่าคาดไว้ และเพิ่มขึ้นมากว่าไตรมาสแรกที่ระดับ 7.4% ประกอบกับนักลงทุนต่างเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจีนพร้อมที่จะออกมาตรการกระตุ้นมากกว่านี้ถ้าจำเป็น

ทองคำร่วง 2 วันติดหลุด 1,300$ หลังดอลลาร์แข็งค่า หลังประธานเฟดแถลงนโยบาย ในประเทศเช้านี้ทองลงอีก 200


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยราคาลดลงหลุดระดับแนวรับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจาก นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารสหรัฐ ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด หากตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง

เมื่อคืนที่ผ่านมา นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารสหรัฐ(เฟด) ได้แถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐ โดยนางเยลเลนยังคงมีท่าทีผ่อนคลายตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยกล่าวว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ แม้ข้อมูลการจ้างงานแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมาและบ่งชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปเป็นระยะเวลานาน หลังโครงการซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคมนี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ในถ้อยแถลงตอนหนึ่ง นางเยลเลนได้กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในขณะนี้ หากตลาดแรงงานยังคง

ทองร่วงหนักในรอบปีนี้ นักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงประเด็นอิรัก ธ.โปรตุเกสคลี่คลาย ในประเทศ 2 วันลง 500


แนวโน้มราคาทองวันนี้เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงหนักสุดในรอบปีนี้ เนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าแต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อีกทั้งสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางและประเด็นปัญหาการเงินของธนาคารในโปรตุเกสที่เริ่มคลี่คลาย

นักลงทุนเทขายทองคำหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับซิตี้กรุ๊ป อิงค์ซึ่งเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดในช่วงไตรมาส 2 โดยผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.93 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 1.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ารัฐบาลอินเดียได้ตัดสินใจคงอัตราภาษีนำเข้าทองคำไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10% ซึ่งตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง

ทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย หลังขึ้นมามากเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในประเทศบาทยังแข็ง เช้านี้ทองในประเทศลง 50


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลง หลังมีแรงซื้อทองคำเข้ามามากในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานข่าวที่สร้างความกังวลต่อระบบสถาบันการเงินของโปรตุเกสที่อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินอื่นๆ ในแถบยูโรโซน ซึ่งแม้จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ประเด็นดังกล่าวก็ส่งผลให้มีความต้องการซื้อทองคำกลับเข้ามามาก จนราคาดีดตัวขึ้นในปริมาณมาก ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา

ราคาทองเริ่มปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบสามวัน เนื่องจากความกังวลที่ว่าปัญหาในภาคธนาคารกลางโปรตุเกสจะเป็นชนวนเหตุให้วิกฤตหนี้ในยุโรปขยายวงกว้างขึ้นนั้น ได้คลี่คลายลง

ทั้งนี้ ราคาทองพุ่งสูงขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจาก

ทองดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรและดอลลาร์อ่อนหลังเฟดไม่มีสัญญานการขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศบาทแข็งมากทองขึ้นได้น้อย


แนวโน้มราคาทองเมื่อวานนี้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำ คาดจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากทองคำร่วงลงไปก่อนหน้านี้ ประกอบการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ทองคำดีดตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,324.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนในประเทศค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก ส่งผลให้ราคาทองในประเทศขึ้นได้น้อยกว่าปกติ

นักลงทุนกลับเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้ความต้องการในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนั้นลดน้อยลง

ขณะที่พบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าลงหลังมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งในรายงานการประชุมดังกล่าวยังพบข้อมูลที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเมื่อใด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ราคาทองเริ่มฟื้นตัวขึ้นใกล้ระดับ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพื่อรอรายงานการประชุมเฟดครั้งล่าสุดคืนนี้ ในประเทศทองคงที่ต่อจากวานนี้


แนวโน้ม ราคาทองราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนต่างชะลอการลงทุนเพื่อรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้งล่าสุด เพื่อหาแนวโน้มและสัญญาณจากเฟดว่าจะมีมุมมองและส่งสัญญานในการปรับระดับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดหรือไม่

เมื่อวานนี้ราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ประเด็นความไม่สงบในอิรักและในยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง อีกทั้งยังพบเหตุปัจจัยหนุนทองคำจากความไม่สงบในฉนวนกาซาเข้ามาเพิ่มเติม จึงพบว่าการอ่อนตัวลงของทองคำในช่วงนี้อยู่ในปริมาณจำกัด

ขณะที่เมื่อวานนี้พบการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำด้วยความระมัดระวัง ด้วยเหตุผลว่าทุกคนต่างเฝ้ารอติดตามประเด็นทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจในช่วงค่ำวันนี้ ที่จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในการประชุมครั้งหลังสุด ซึ่งคาดว่าในรายงาน

ทองอ่อนตัวลงเล็กน้อย คาดเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกดดัน แนวโน้มยังเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศเช้านี้ลง 50


แนวโน้ม ราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพบการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากวันศุกร์ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักและยูเครนเป็นแรงหนุนต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมรายงานเศรษฐกิจสหรัฐพบว่าออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลกดดันต่อราคาทองคำให้ลดช่วงบวกลง

โดยรายงานเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญานกำลังฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัว จากตัวเลขการจ้างงานเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ที่ดีว่า การลดลงของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของสหรัฐในไตรมาสแรกเกิดจากปัจจัยอากาศทีหนาวเย็นช่วงปลายปีต่อเนื่องต้นปีที่ผ่านมาและเป็นระยะเวลาเพียงชั่วคราว ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานของเอกชนทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในระดับที่สูงกว่า 2 แสนตำแหน่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นถึง 288,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด ส่วนอัตราว่างงานก็ลดลงสู่ระดับ 6.1% ซึ่งเป็นลดลงระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี และเป็นระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดเช่นกัน

ทองร่วงลงหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีเกิดคาด ความไม่สงบในอิรักและยูเครนช่วยพยุงไว้ ในประเทศบาทอ่อนเล็กน้อยทองลง 50


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเมื่อคืนที่ผ่านมาแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้นักลงทุนมั่นใจต่อภาวะการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ และหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้น กดดันทองคำในฐาะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงให้อ่อนตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ยังคงมีความตึงเครียดอยู่ทั้งตะวันออกกลางและยูเครนยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทอง เมื่อราคาปรับตัวลงยังคงมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงราคาไว้ได้

โดยทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงลงไปแตะที่ระดับ 1,320.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับราคาปิดเมื่อวันก่อนที่ 1,330.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนได้ลดการถือครองทองคำหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดข้อมูลเศรษฐกิจว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 215,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

ทองอ่อนตัวลง หลังตัวเลขจ้างงานเอกชนดีเกินคาด คืนนี้ตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ในประเทศเงินบาทและทองทรงตัว


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบระดับสูง โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ระดับ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากแรงซื้อทางเทคนิคก่อนจะถึงวันหยุดยาวของสหรัฐในปลายสัปดาห์นี้

ตลาดโภคภัณฑ์ของสหรัฐหยุดทำการในวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย. เนื่องจากเป็นวันชาติสหรัฐ จึงเกิดสัญญานซื้อทองคำทางเทคนิคในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดยาว นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองคำถูกกัดดันให้อ่อนตัวลง หลังการรายงานข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของสหรัฐ ที่สำรวจโดย ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ ซึ่งพบว่าตัวเลขจ้างงานดังกล่าวออกมาสูงกว่าที่ตลาดประเมิน

ทองเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบ หลังเมื่อวานดีดตัวขึ้นสูงจากความไม่สงบในอิรักและยูเครน ในประเทศเช้านี้คงที่จากปิดเมื่อวาน


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำจากปิดตลาดเมื่อวานนี้ต่อเนื่องเช้าวันนี้พบว่าเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากราคาได้ดีดตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง โดยประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครนและตะวันออกกลางเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทองคำปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราคาทองดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์(ISIL) เข้ายึดเมืองทางตะวันออกของซีเรียที่ติดกับพรมแดนของอิรักได้เพิ่มเติม หลังจากที่ทางกลุ่มได้ประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามเพียงไม่กี่วัน ประกอบกับสถานการณ์ในยูเครนเริ่มกลับมาเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น หลังประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายระยะเวลาข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในประเทศ และกลับมาใช้ปฏิบัติการทางทหารกับกลุ่มกบฎในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ

ขณะเดียวกันยังพบแรงหนุนต่อราคาทองคำในตลาดเอเชีย หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นแตะ 51 ซึ่งเป็น

ทองคำยังปรับตัวขึ้น จากความไม่สงบในอิรักและยูเครนยังคงมีอยู่ ศุกร์นี้ตามตัวเลขแรงงานสหรัฐ ในประเทศเช้านี้ขึ้น 200


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในอิรักและยูเครนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนรายงานเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่าผันผวนไร้ทิศทาง อย่างไรก็ตามลงทุนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้าง งานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้ ตามเวลาในไทย

นักลงทุนต้องการซื้อทองคำในฐานะเครื่องมือทำประกันความเสี่ยงโดยเห็นได้จากเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงยังคงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ในขณะที่การบุกยึดดินแดนอิรักโดยกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์(ISIL) ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในยูเครนนั้น องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(OSCE) ได้ยุติกิจกรรมการสังเกตการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนแล้ว อันเนื่องมาจากเหตุผลด้านความปลอดภัย

สถาบันจัดการด้านอุปทาน(ISM) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนมิถุนายน ลดลงแตะ 62.6 จาก 65.5 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่