ราคาทองคำ spot ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. ของสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาด ทองในประเทศวันเสาร์บาทแข็งหลุด 32 บาทกดดันร่วง 100 บาท
ราคาทองวันนี้ล่าสุด พุธที่ 20 สิงหาคม 2568
📌 ตัวเลขด้านล่างนี้คือ เงินที่เราจะได้รับ หลังหัก 5% แล้ว แยกตามน้ำหนักทอง เช่น 1 สลึง, ครึ่งสลึง, 1 บาท, 5 บาท เป็นต้น
- อ้างอิงจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
- ร้านทองสามารถหักราคาคืนทองรูปพรรณได้ไม่เกิน 5% (แต่หากเป็นทองคำที่มาจากต่างร้านอาจคิดลดหรือหักได้มากกว่า 5%)
- ใช้ราคาทองแท่งรับซื้อ ณ วันนี้51,150 บาท เป็นฐานคำนวณ
- ใช้ได้เฉพาะเมื่อซื้อคืนจากร้านเดิมเท่านั้น
- อาจมีค่ากำเหน็จหรือความเสียหายเพิ่มเติมตามสภาพทอง
- เป็นการคำนวณราคาเบื้องต้นโปรดสอบถามราคาที่ร้านทองอีกครั้ง
- ร้านทองอาจรับซื้อทองรูปพรรณคืนในราคาที่ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ และต้นทุนในการบริหารจัดการกิจการของแต่ละร้าน
สรุปสาเหตุสำคัญแบบเข้าใจง่าย

ถ้า USD อ่อนค่า → ทองแพงขึ้น
ถ้า USD แข็งค่า → ทองถูกลง

เมื่อเกิดเงินเฟ้อ คนมักซื้อทองเพื่อ ป้องกันมูลค่าเงิน เพราะทองไม่เสื่อมค่า เป็นที่มาให้ทองแพงขึ้น

ดอกเบี้ยต่ำ → ทองน่าสนใจกว่าและเมื่อคนสนใจมากราคาก็จะแพงขึ้น เพราะไม่มี “ต้นทุนเสียโอกาส” จากการถือครอง

ช่วงสงครามหรือวิกฤต คนมัก แห่ซื้อทองส่งผลให้มีราคาแพงขึ้น เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย

ราคาทองในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับ ค่าเงินบาท ด้วย
ถ้า เงินบาทแข็งค่า → ทองไทยถูกลง
ถ้า เงินบาทอ่อนค่า → ทองไทยแพงขึ้น
เพราะราคาทองโลกอ้างอิงเป็นดอลลาร์ เมื่อเงินบาทอ่อน ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อแลกซื้อทอง ส่งผลให้ราคาทองในประเทศสูงขึ้นตาม
แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้า/ข่าวเกี่ยวกับทองคำล่าสุด
ราคาทองคำ spot ปรับตัวลดลงเป็นวันแรกเนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป ด้านทองคำในประเทศประกาศราคาวันเสาร์คงที่ ส่วนทั้งสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น 200 บาท
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในระดับสูง เนื่องมาจากมีแรงซื้อในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐและเกาหลีเหนือได้ออกมาตอบโต้กันรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกว่าอาจจะส่งผลให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดมากขึ้นด้วย
ราคาทองคำยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกหนุนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.
นักลงทุนต่างลดการถือครองทองคำลงและส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากมีแรงจูงใจจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐและยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่ธนาคารกลางหลายแห่งส่งสัญญาณยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
ราคาทองคำสัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจากภาวะปั่นป่วนทางการเมืองในสหรัฐ ภายหลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการแทรกแซงสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ(FBI)

ทองโลกพุ่ง เฟดคงดอกเบี้ย กูรูคาดแค่ระยะสั้น คาดปีนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 1ครั้ง ในประเทศบาทแข็งทองขึ้น 250
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดพุ่งแรงกว่า 17 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0-0.25% เมื่อการปรชุมครั้งล่าสุดที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากเฟดยังมีกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและความผันผวนในตลาดการเงิน
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 16-17 ก.ย. โดยนักลงทุนต่างจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังเมื่อวันก่อนพุ่งทะยานขึ้นกว่า 25 ดอลลาร์ โดยปัจจัยลบต่อทองคำเนืองมาจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินกรีซ

ทองยังขึ้นลงในกรอบ กลางสัปดาห์หน้าแนะติดตามประชุมเฟดเพื่อจับสัญญานขึ้นดอกเบี้ยส่งผลต่อทองผ่านค่าเงิน
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของภาวะเงินเฟ้อ ได้จุดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การลดลงของทองคำถูกสกัดกั้นจากวิกฤติหนี้ของกรีซที่ยังคงไม่มีความแน่นอน
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อที่ผ่านมา หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังมีความเป็นไปได้หากเศรษฐกิจสหรัฐ ปรับตัวดีขึ้นตามที่เธอได้คาดไว้
สัปดาห์หน้าคาดทองพุ่ง หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐต่ำเกินคาด ในประเทศวันจันทร์ปิด คาดอังคารทองพุ่ง
ราคาทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐและยุโรปปิดทำการในวัน Good Friday ส่วนภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้ ต้นสัปดาห์ทองปรับลดลงผ่านกลางสัปดาห์ทองฟื้นตัวขึ้นและมาทรงตัวในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดเงินหลักหยุดทำการ ประกอบกับนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจาก รอรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ประกาศในคืนวันศุกร์ที่ตลาดเงินสหรัฐปิดทำการ
ส่วนสัปดาห์หน้า(6-10 เม.ย.) คาดทองคำจะได้รับแรงหนุนผ่านการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาอ่อนแอกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน และคาดการจากนักวิเคราะห์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นช่วงปลายปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้คาดการกันว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงกลางปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นเพียง 126,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน
ทองร่วง!! หลุด $1,200 หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด ทองในประเทศทั้งสัปดาห์ขึ้น 450
ราคาทองคำร่วงลงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากได้รับแรงกดดัน จากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2555
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงหลุดระดับสำคัญ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งหลังจากที่เคลื่อนไหวเหนือระดับดังกล่าวตลอดสัปดาห์นี้ โดยเป็นผลมาจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนพฤศจกายนพบว่า เพิ่มขึ้น 321,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 230,000 ราย ส่วนอัตราว่างานเดือนเดียวกันยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% และเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ส่วนภาพรวมราคาทองคำทั้งสัปดาห์นี้(1-5 ธ.ค.) พบว่าแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,142-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยกดดันต่อทองคำมาจากการร่วงของ
ทองร่วงหนัก 3 วันติดหลุด 1,180$ จากดอลลาร์แข็งหลังบีโอเจกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม+เฟดยุติ QE ในประเทศวานนี้ทองลง 500
ราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2553 เมื่อวานนี้ โดยหลุดระดับแนวรับสำคัญ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป โดยเป็นผลจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในรอบ 7 ปี หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ได้ประกาศซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมอย่างเหนือการคาดหมาย เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐยุติโครงการซื้อพันธบัตร หรือ มาตราการ QE ในสัปดาห์นี้นั้นได้ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมามากและกดดันต่อทองคำในฐาะสินทรัพย์ปลอดภัยให้ลดลงอย่างหนัก
สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยบีโอเจมีมติขยายเป้าหมายในการเพิ่มฐานเงินสู่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30 ล้านล้านเยนต่อปี การผ่อนคลายนโยบายครั้งล่าสุดของบีโอเจมีวัตถุประสงค์เพื่อหนุนเศรษฐกิจของประเทศ โดยบีโอเจตั้งเป้าที่จะจัดการกับแรงกดดันช่วงขาลงที่มีผลกระทบต่อราคา
สุดสัปดาห์ทองพุ่งกลับขึ้นเหนือ $1,300 หลังหุ้นสหรัฐอ่อนแรง ความกังวลเหตุการณ์ในฉนวนกาซา ในประเทศเสาร์ขึ้น 150
ศุกร์สุดสัปดาห์ราคาทองตลาดโลกปิดตลาดดีดตัวกลับขึ้นเหนือแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลง รวมถึงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซาและความตึงเครียดในยูเครน โดยจากเมื่อวันก่อนหน้าทองคำเพิ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองพุ่งขึ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง หลังจากมีการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากบริษัทรายใหญ่ๆ อย่างอเมซอนและวีซ่า ซึ่งได้ฉุดบรรยากาศของตลาด ซึ่งทำให้นักลทุนหันมาต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เทรดเดอรยังกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซา และความตึงเครียดทางการเมืองดังกล่าวเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นของราคาทองได้ถูกสกัดไว้ด้วยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนที่แล้ว และตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวขึ้น 0.5%
ทองคำโลกลดลงหลังจากพุ่งขึ้นสูงจากบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ตก ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองลง 450 วันเสาร์ขึ้น 50
เมื่อวานนี้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวทรงตัวที่ระดับ 1,309-1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี จากความตื่นตระหนักเกี่ยวกับข่าวเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน ส่วนภาพรวมราคาทองทั้งสัปดาห์นี้(7-11 ก.ค.)พบว่าเคลื่อนอ่อนตัวลงตัวเนื่องโดยตั้งแต่ต้นสัปดาห์ต่อเนื่องถึงกลางสัปดาห์จนหลุดโซนแนวรับสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้ทองคำอ่อนตัวลงมาจากที่ นักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาของธนาคารพาณิชย์ในโปรตุเกส รวมถึงคำแถลงของเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่ได้แถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนตุลาคมนี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำที่ 0-0.25% เป็นระยะเวลาอีกนานพอควร หลังจากยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์จำนองค้ำประกัน
ทองคำทั้งสัปดาห์พบแรงหนุนจากอิรักและยูเครนให้เคลือนไหวได้ในระดับสูงแม้รายงานเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง
ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้(30 มิ.ย.-3 ก.ค.) เคลื่อนไหวในลักษณะขึ้นลงผันผวนในกรอบตามข่าวสารต่างๆ ที่เข้ามาโดยหากเมื่อราคาอ่อนตัวลงระดับหนึ่งจากสัญญานการฟื้นตัวแข็งแกร่งเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็จะดีดตัวขึ้นได้จากปัจจัยสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในตะวันออกกลางและยูเครน โดยสัปดาห์นี้ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในรอบ 3 เดือนครึ่ง ที่ระดับ 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อกลางสัปดาห์ สหรัฐมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญด้านตลาดแรงงาน โดยเมื่อวันพุธสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของ ADP และเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิถุนายนในวันพฤหัสบดี ซึ่งพบว่าตัวเลขทั้ง 2 รายงานออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงถึง 288,000 แสนตำแหน่ง รวมทั้งอัตราการว่างงานเดือนมิถุนายน ก็ลดลงเหลือ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรทองคำออกมาและลงไปเคลื่อนไหวต่ำสุดที่ระดับราคา 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ประเด็นอิรักและยูเครนยังหนุน สัปดาห์หน้าตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ภาพรวมราคาทองสัปดาห์นี้(23-27 มิ.ย.) พบการเคลื่อนไหวในกรอบ โดยระหว่างวันพบการขึ้นลงค่อนข้างผันผวน หากเมื่อราคาปรับขึ้นก็จะมีแรงขายกลับออกมา และเมื่อปิดตลาดก็กลับมาทรงตัวต่อเนื่องจากหลายๆ วันที่ผ่านมา ส่วนระดับของราคาทองสัปดาห์นี้ยังสามารถยืนอยู่เหนือแนวรับทางเทคนิคสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ ที่ระดับ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านเมื่อคืนที่่ผ่านมาตลาดทองคำนิวยอร์กปิดตลาดพบว่าปรับตัวขึ้น โดยมาจากแรงหนุนที่ว่า ยูเครนได้ทำสัญญาลงนามข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป(อียู) และอีกหลายประเทศที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าภาวะการณ์นี้อาจจะจุดชนวนความขัดแย้งขึ้นมารอบใหม่ระหว่างยูเครนและรัสเซียและอาจจุดปะทุให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีกระลอก
และสัปดาห์นี้ สถานการณ์ความรุนแรงในอิรักเป็นประเด็นหลักต่อการปรับขึ้นของทองคำ ซึงนักวิเคราะห์มองว่าหาก สถานการณ์ต่างๆ ในอิรักยังคงตึงเครียดต่อ
ทองคำทั้งสัปดาห์พุ่งกว่า 3.3% เหนือ $1,300 แนะสัปดาห์หน้าตามประเด็นในอิรัก ในประเทศสัปดาห์นี้ขึ้น 600 บาท
ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(16-20 มิ.ย.) พบว่าปรับตัวขึ้นกว่า 3.3% โดยทองคำสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในรอบกว่า 1 เดือน โดยเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก เป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณหลังการประชุมครั้งล่าสุดนี้ว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%
เมื่อวานนี้ราคาทองดีดตัวขึ้นมาปริมาณมากกว่า 41.4 ดอลลาร์ จนสามารถดีดตัวทะลุแนวต้านทางเทคนิคสำคัญที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่วนเมื่อคืนนี้ปิดตลาดปรับขึ้นเพิ่มเติมอีก 2.5 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,316.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 3.3% ในช่วงสองวันที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานนี้ หลังจากได้รับแรงหนุนจากที่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
ทองคำปรับขึ้นทั้งสัปดาห์ จากเศรษฐกิจสหรัฐต่ำกว่าคาด ธ.โลกปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจโลกและความรุนแรงในอิรัค
ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้(9-13 มิ.ย.) พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่สำคัญออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด รวมถึงธนาคารโลกได้ปรับลดอัตราการขายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักหนุนราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ที่ระดับ 1,277 ดอลลาร์ต่อออนซ์
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ได้สร้างความวิตกกังวลแก่นักลงทุน เกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคม ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์เพียง 0.3% จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ด้านจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ก็ปรับตัวสูงขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 317,000 ราย ซึ่งตรงข้ามกับที่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย โดย
นอกจากนี้ สถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงในอิรักยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอิรักกำลังเผชิญกับความแตกแยกของนิกายต่างๆ
ทองลงเล็กน้อยหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นตามคาด ในประเทศเช้านี้ลง 50 ทั้งสัปดาห์นี้ลง 150
ราคาทองคำปรับลงเล็กน้อย หลังจากที่เมื่อวานทองคำพุ่งขึ้นสูง จากที่ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ประกาศมาตรการชุดใหม่เพื่อต้านภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำและเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซน ขณะที่ตลาดต่างรอตัวการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา และปรากฏว่ารายงานดังกล่าวออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นก็เป็นปัจจัยถ่วงราคาทองให้ปรับตัวลง
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่ง ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวได้ 215,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพฤษภาคม ทรงตัวในระดับเดิมที่ 6.3% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 6.4%
และถึงแม้ว่า ข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมขยายตัวน้อยกว่าเดือนเมษายนที่พุ่งขึ้นกว่า 282,000 ตำแหน่ง แต่สถิติตัวเลขการจ้างงานที่พุ่งสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในตลาดแรงงานของสหรัฐ
สัปดาห์นี้ทองร่วงหนักพบจุดต่ำสุดที่ $1,250 จากเศรษฐกิจสหัฐแข็งแกร่ง ยูเครนผ่อนคลาย อีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเทศสัปดาห์ลง 400 ทั้งเดือนลง 300
ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์สุดท้ายเดือนพฤษภาคม(26-30 พ.ค.) พบว่าร่วงลงหนักกว่า 40 ดอลลาร์ และทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 4 เดือนที่ระดับราคา 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสต่อเนื่อง รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนเริ่มผ่อนคลายลงและมีสัญญานที่ดีขึ้นเมื่อผู้นำทั้งสองประเทศพร้อมเจราจาหาทางออกเพื่อยุติปัญหา
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์ก(COMEX) ปิดตลาดร่วงลงอีก 11.1 ดอลาร์และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลเศรษฐกิจของสหัฐที่ส่งสัญญาณเป็นบวก
โดยสหรัฐเปิดเผยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 81.9 จากเดือนก่อนหน้า และดัชนีผู้จัดการ
ทั้งสัปดาห์นี้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ $1,280-1,305 ในประเทศประเด็นการเมืองทำทองผันผวนผ่านเงินบาทแต่สรุปก็ยังคงที่
ภาพรวมของราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(19-23 พ.ค.)พบว่าราคาเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,280-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากปัจจัยหลักอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่มีรายงานตัวเลขสำคัญๆ ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวต่อทองคำมากนัก ประกอบกับประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนก็ยังคงมีแรงหนุนแต่ยังไม่มากพอให้ทองคำดีดตัวขึ้นได้มาก
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา(ศุกร์ 23) พบว่าทองคำตลาดนิวยอร์ค(COMEX) ปิดตลาดปรับลดลง 3.3 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเมษายนที่ออกมาดีเกินคาดและส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และก่อนหน้ารายงานดังกล่าวนี้ยังพบการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งได้ทำให้ถูกลดความน่าสนใจลง
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผย ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนเมษายน พุ่งสูงขึ้น 6.4% และทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน ที่ระดับ 433,000 ยูนิต และ
ฮั่งเซ่งเฮงแนะสัปดาห์หน้า(22-26ก.ค.)ติดตามตัวเลขศก.จีน มีผลต่อราคาทองคํา
ราคาทองคําสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบฟื้นตัวสลับทรงตัว และสามารถขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางเทคนิคที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้
ส่วนถ้อยแถลงของ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ในคืนวันพฤหัส(18) ว่า เฟดไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการปรับลดขนาดของโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในช่วงปลายปีนี้ โดยการกำหนดกรอบเวลาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลหนุนให้ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้น