ราคาทองคําวันนี้

ทองพุ่ง จากดอลลาร์อ่อน หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐผันผวน โดยเฉพาะประเด็นรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงลดลง ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองขึ้น 350

ราคาทองคำพุ่งขึ้น จากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานลดลงมากกว่าคาดในเดือนธันวาคม ในรอบกว่า 8 ปี แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราการว่างงานลดลง

ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เนื่องจากทองคำซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ หลังจากสหรัฐเผยข้อมูลแรงงานที่ไม่สอดคล้องกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้น 252,000 ราย จากระดับ 353,000 รายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 240,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง ทั้งนี้ตัวเลขการจ้างงานในเดือนธันวาคม ถือเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ราย

ทองปรับลงเป็นวันที่ 2 แต่ภาพรวมยังยืนเหนือ $1,210 คืนนี้ตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ในประเทศบาทแข็งทองคงที่!!

ราคาทองคำตลาดโลกปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทองคำปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มกราคม ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 ซึ่งบ่งชี้ดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ขณะเเดียวกันตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องตั้งแต่กลางสัปดาห์ ขานรับรายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาส่งสัญญานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 241,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย

ทองปรับลด หลังเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง สนับสนุนรายงานประชุมเฟดล่าสุดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ ในประเทศเช้านี้ลง 50

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดลดลงเป็นวันแรกหลังจากพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วัน จากเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแข็งแกร่งซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นด้วยนั้น ยังได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทองคำปรับปรับตัวลดลง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นตัวขึ้น 0.62% แตะที่ 92.0680 หลังจากมีการเปิดเผยรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดเมื่อธันวาคม เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยในรายงานได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐส่วนใหญ่ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการประเมินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาาคารกลางสหรัฐ เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ธนาาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จากรายงานว่า

ทองพุ่ง 3 วันติด จากวิกฤติการเมืองในกรีซและการร่วงลงของตลาดหุ้นหลังราคาน้ำมันดิบดิ่ง ในประเทศวานนี้ขึ้น 250

ราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ระดับ 1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากราคาน้ำมันตลาดโลกและการร่วงลงของตลาดหุ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างมีความกังวลที่ว่ากรีซอาจออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมองว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในยามที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลง อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันดิบและความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศกรีซ โดยในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 130.01 จุด หรือ ติดลบ 0.74% ขณะเดียวกันยังพบว่า ตลาดหุ้นเกิดใหม่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ส่วนสถานการณ์การเมืองในกรีซนั้น นายอันโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวว่า ทางการกรีซจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคมนี้ ถือ

ทองพุ่งเหนือ $1,200 จากวิกฤติการเมืองในกรีซและตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงหนัก ในประเทศเช้านี้ขึ้น 150

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยทองคำได้ปัจจัยบวกจากวิกฤติการเมืองในกรีซ รวมถึงการ ร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังการร่วงลงอย่างหนักของน้ำมันดิบ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงไปกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ อันเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์พลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนัก

โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทพลังงานสหรัฐทุบขายหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 หรือกว่า 5 ปีครึ่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาปัจจัยประเด็นทางการเมืองของกรีซ ซึ่งมีความกังวลว่ากรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน หลังจากคำกล่าวของ นายฟรองซัวส์ ออลลองด์

ทองคำแกร่งตัวผันผวนตามข่าว ประเด็นดอลลาร์แข็งยังเป็นปัจจัยลบ ในประเทศได้เงินบาทอ่อนหนุน

ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้ว่าภาพรวมตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดทุนทั่วโลกเริ่มชะลอตัวจากสัญญาณเศรษฐกิจที่สะท้อนความอ่อนแอของหลายภูมิภาค

โดยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุด พบตัวเลขดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานเดือนธันวาคม ออกมาต่ำกว่าที่คาดที่ 55.5 จากที่คาดไว้ 57.6 ซึ่งถือว่าเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่คาดเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ระดับ 1,167.3 ดอลลาร์ออนซ์ จากการร่วงลงอย่างรุนแรงของค่าเงินยูโร และคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะยังไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ เพราะยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ