ราคาทองคําวันนี้

ระยะสั้นทองฟื้นตัวขึ้น สัปดาห์หน้า(18-22) ติดตามรายงานการประชุมเฟด เศรษฐกิจสหรัฐ จีน และยูโรโซน

ราคาทองคำสัปดาห์ก่อนหน้าต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ได้รับแรงกดดันอย่างหนัก กับกระแสคาดการณ์การปรับลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาดไว้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคม ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก จนทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงไป และในปลายสัปดาห์ราคาทองคำสามารถดีดตัวกลับมามีแนวโน้มเชิงบวกอีกครั้งในระยะสั้น หลังได้รับปัจจัยบวกจากคำแถลงการณ์และการตอบคำถามต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐของ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่ออย่างเนื่อง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยได้ ซึงถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ต่อไป

ส่วนราคาทองคำในประเทศภาพรวมยังมีแนวโน้มและทิศทางเดียวกับทองคำตลาดโลก แต่ยังมีอานิงสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องพยุงราคาทองไม่ให้

ทองพุ่งตามคาด!! หลังว่าที่ประธานเฟด ส่งสัญญานเดินหน้า QE ต่อและไม่ลดเร็วแน่นอน ในประเทศขานรับเมื่อวานขึ้น 150 บาท วันนี้อีก 50 บาท

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันจากเมื่อวานนี้ หลังจากถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ต่อไป และยืนยันว่าจะยังไม่ปรับลดการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้

นางเยลเลน ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่ออย่างเนื่อง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยได้ ซึ่งเฟดจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

ทองคำเริ่มมีสัญญานฟื้นตัว หลังร่างว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ สนับสนุน QE ต่อ หนุนให้บาทแข็ง ทองขึ้นเช้านี้ 100 บาท

ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงตลอด 5 วันทำการจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร ตอบรับกระแสคาดการณ์แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดนโยบายทางการเงินเร็วกว่าที่คาดการณ์ อย่างไรก็ตามก็มีสัญญานจากสกุลเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่าขึ้นติดต่อกันมาหลายวันเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับมาได้ในช่วงเช้าวันนี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์คทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวลงและอาจส่งผลทำให้ความต้องการทองคำลดน้อยลงด้วย หลังจากที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศเป้าหมายการปฏิรูปเศรษฐกิจแบบยั่งยืน แทนการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามช่วงค่ำวันนี้(14) นักลงทุนเฝ้าจับตาถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ที่จะมีต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภา

ข่าวเฟดลด QE กดดันทองร่วงหนัก!!! ในประเทศบาทเริ่มแข็งค่าทำทองลด 150 บาท ลุ้นทองแท่งขายออก หลุด 19,000 วันนี้

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานถึงเช้าวันนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือนตุลาคม ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ประกอบกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ไตรมาส 3 ขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น กดดันทองคำให้ร่วงลงอย่างหนัก

นอกจากนี้กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากเจ้าหน้าเฟดระดับสูงได้ออกมาส่งสัญญาณในเรื่องดังกล่าว โดย นายริชาร์ด ฟิสเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ว่า โครงการซื้อสินทรัพย์ของเฟดไม่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดไป เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว เฟดก็จำเป็นต้องลดขนาดโครงการนี้

ทองโลกทรงตัวทิศทางอ่อนตัว จากกังวลปัญหา QE ในประเทศอานิสงส์บาทอ่อน ช่วยทองลดไม่เยอะ

ราคาทองคำตลาดโลกเมื่อคืนที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทรงตัว เนื่องมาจากไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญพร้อมทั้งปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดธนาคารสหรัฐ อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากที่สหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์ณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 3 ขยายตัว 2.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2555 เหตุเพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคธุรกิจสหรัฐปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง อีกทั้งเงินสกุลยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลง

แนวโน้มราคาทองคำยังคงมีทิศทางปรับตัวลดลงต่อไป โดยประเด็นหลักยังอยู่ที่ความกังวลเกี่ยวกับระยะเวลาในการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ โดยในช่วงที่ราคาทองลดลงไปมากๆ อาจจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้บ้างในระยะสั้นๆ แต่โดยรวมแล้วคาดว่าราคาทองจะเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัวสลับอ่อนตัว เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ ต่อไป

หลังทองคำร่วงหนักหลุด $1,300 ขณะนี้เริ่มทรงตัว ในประเทศเงินบาทยังหนุนทองวันนี้ให้คงที่

ปลายสัปดาห์ที่แล้วราคาทองคำปรับตัวลงอย่างหนักหลุดแนวรับทางเทคนิคแข็งแกร่ง 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาดโดยเพิ่มขึ้น 41,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 204,000 ราย รวมทั้งตัวเลขประมาณการณ์ GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 2.8% สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการปิดทำการชั่วคราวของหน่วยงานรัฐบาลกลาง อย่างที่ตลาดได้วิตกในช่วงก่อนหน้า

ซึ่งจากรายงานดังกล่าวข้างต้น ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจตัดสินใจปรับลดมาตรการ QE เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ บวกกับสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นตั้งแต่หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์ก่อน เป็นปัจจัยลบที่กลับมากดดันราคาทองคำให้กลับอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามคาดว่าสกุลเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้อาจเริ่มอ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่าขึ้นมามาก