ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงหนักหลุด $1,300 หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด ตอกย้ำเฟดลด QE ชัดขึ้น ในประเทศร่วงตาม 200 บาท

ราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(4-8) ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เหตุจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่ทยอยรายงานออกมาแข็งแกร่ง ตอกย้ำแนวโน้มสถานการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) ลงภายในเร็ววันนี้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับกลางสัปดาห์ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% หลังจากเงินเฟ้อยูโรโซนร่วงลงอย่างมาก

และรายงานเศรษฐกิจที่นักลงทุนให้การจับตาเป็นพิเศษอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนตุลาคมที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้(8) พบว่าตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 204,000 ตำแหน่ง จากระดับที่เพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยายตัวขึ้นแตะ 7.3% จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ซึ่งจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งสูงเกินคาดนั้นบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ

ECB ลดดอกเบี้ย ทำยูโรอ่อนดันดอลล่าร์แข็งค่า บวกเศรษฐกิจสหรัฐสดใส กดดันทองร่วง ในประเทศลง 100

ราคาทองคำปรับตัวลงหลังจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากเมื่อวานนี้ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% ภายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลง

ขณะเดียวกันทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ที่แท้จริง ประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 2.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2555 ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 336,000 ราย ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 340,000 ราย

และจากข้อมูลดังกล่าวว่าข้างต้น แสดงให้เห็นถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ จึงทำให้นักลงทุนต่างวิตกกังวลว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลาง

ภาพรวมทองคำทรงตัว รอรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรปเริ่มเย็นนี้ ในประเทศเดือนนี้ลดลงแล้ว 150 บาท

ภาพรวมราคาทองคำตั้งแต่ต้นสัปดาห์ถึงวันนี้ ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยนักนักลงทุนต่างเฝ้ารอติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ของสหรัฐฯ ที่จะมีออกมาช่วงปลายสัปดาห์ เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ

โดยในวันนี้เวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีไตรมาส 3 จะขยายตัว 2.0% หลังจากที่ขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 2 และในเวลาเดียวกันวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลง 5,000 ราย ที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 340,000 ราย

ทองยังทรงตัวรอปัจจัยใหม่ เฟดลด QE กลับมากดดันอีกครั้ง ในประเทศบาทอ่อนยังหนุนทองไม่ให้ลดมาก

ราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบในรอบ 2 วันที่่ผ่านมา ถึงแม้บางช่วงจะมีการดีดตัวขึ้นไปได้ แต่ก็มีแรงเทขายทำกำไรกลับออกมา ข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดมาตราการ QE ยังเป็นประเด็นหลักกลับมาให้ตลาดวิตกกังวลต่อไป

เมื่อวานนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ปิดตลาดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นกดดันจากการที่เงินยูโรอ่อนค่า หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน ผสมโรงกับกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนภายในปีนี้ หลังจากดัชนีภาคบริการประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง

โดยสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ(ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนตุลาคม ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 จุด จากเดิมที่ระดับ 54.4 จุด

ทองคำยังนิ่ง รอปัจจัยใหม่กำหนดทิศทาง ในประเทศการเมืองทำเงินบาทอ่อน หนุนทองคำขึ้นวันนี้ 50 บาท

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เหนือแนวรับทางเทคนิคสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากราคาทองคำปรับลดลงต่อเนื่องติดต่อกันมา 5 วัน โดยนักลงทุนคงรอปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่จะรายงานออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนภายในปีนี้ แทนที่จะเป็นปีหน้าอย่างที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ หลังจาก นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นมากพอที่จะเปิดโอกาสให้เฟดสามารถปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกลับมาดำเนินนโยบายการเงินตามปกติอีกครั้งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ด้านสกุลเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักเริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อย ลดแรงกดดันต่อการการเคลื่อนไหวของราคาทองไปได้ในระดับหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันทองคำตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากภาพรวมเศรษฐกิจของยูโรโซน

แนวโน้มทองคำขาลง รับรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯสดใส ในประเทศได้เงินบาทอ่อนพยุงไว้

ราคาทองคำปรับตัวลงในรอบสัปดาห์(28ต.ค.-1.พ.ย.)ที่ผ่านมาและถือเป็นการร่วงลงในรอบ 4 เดือน เหตุจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ตลาดกลับมาให้ความสนใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะตัดสินใจปรับลดมาตราการ QE ลงในเร็วๆ นี้

สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขานรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาสดใสช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจตัดสินใจลดมาตรการ QE ในปีนี้ เป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงตามแรงขายทำกำไร และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงทิศทางขาลงของทองคำอีกครั้ง

นอกจากนี้แล้ว ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB) อาจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อเดือนตุลาคม ในยูโรโซนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี