ราคาทองคําวันนี้

ทองฟื้นจากดอลลาร์อ่อน, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่ำเกินคาด, Government Shutdown ไม่ชัดเจน ทิศทางผันผวนตามปัจจัยรายวัน

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ปรับลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน จากการกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนหยุดทำการอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ชั่วโมงแล้ว และก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาที่ชัดเจน ขณะเดียวกันความยืดเยื้อนี้อาจจะส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะต้องยังคงดำเนินมาตรการ QE ต่อไป พร้อมกันนี้ทองคำยังได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำสุดที่ 0.5% สอดรับกับปัจจัยบวกอย่าง รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ อย่างตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่รายงานออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ หนุนราคาทองคำให้ฟื้นกลับมายืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง

รายงานจากกองทุน SPDR เปิดเผยว่า ได้ลดการถือครองปริมาณทองคำลง 4.2 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 901.79 ตัน

ไม่กังวล Government Shutdown นักลงทุนเทขายทำกำไร ทำทองร่วงหนักรอบ 4 เดือน ในประเทศเปิดร่วง 550 บาท ทิศทางลงต่อ

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุยายนปีนี้กว่า 3% หลังจากสภาคองเกรสไม่สามารถเจรจาผ่านร่างกฏหมายเงินทุนฉุกเฉินเพื่อเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วน(Government Shutdown) ได้

ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่าผลกระทบจากการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐฯ มีค่อนข้างจำกัดและจะไม่ยาวนาน ทำให้มีแรงเทขายอย่างหนักในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจนราคาหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าไปในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ทองคำจะพุ่งขึ้นหากสหรัฐฯ ต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลลง ประกอบกับเมื่อคืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างดัชนีภาคการผลิต(ISM) ประจำเดือนกันยายน ที่ปรับตัวสูงขึ้นระดับ 56.2 ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยฉุดราคาทองให้ร่วงลงอย่างหนักด้วยเช่นกัน

ทองผันผวน ติดตามประเด็นการคลังสหรัฐฯ เช้าวันนี้(1ต.ค.) แนวโน้มต้องปิดหน่วยงานรัฐ ทองพุ่ง!แน่ ในประเทศรับอานิสงส์

เมื่อวานนี้(30 ก.ย.)ราคาทองคำอ่อนตัวลง หลังจากรายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างดัชนีภาคการผลิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมิน อย่างไรก็ตามประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจคือ ปัญหารายจ่ายทางการคลัง และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

และหากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณรายจ่ายทางการคลังและปัญหาเพดานหนี้ได้ทันกำหนดในวันนี้(1) รัฐบาลอาจจะเผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางบางส่วน ซึ่งนับเป็นการปิดหน่วยงานครั้งแรกในรอบ 17 ปี และอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนประเมินว่าธนาคารกลาง

ทองปรับเพิ่มจากปัญหาการคลังและเพดานหนี้สหรัฐฯ ในประเทศบาทอ่อนร่วมหนุน ทิศทางยังผันผวนตามเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลปัญหาทางการคลังและปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาชิคาโก ที่กล่าวว่า เป็นไปได้ว่าเฟดอาจจะเลื่อนการปรับลดมาตราการ QE ไปในปีหน้า ถ้าตุลาคมและธันวาคมนี้ เฟดประเมินแล้วเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่เติบโตและแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน

รายงานจากกองทุน SPDR ว่าได้ลดการถือครองทองคำลง 3.6 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 905.99 ตัน

สัปดาห์นี้(30ก.ย.-4ต.ค.) มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานเดือนกันยายน ซึ่งเป็น

ปัญญาเพดานหนี้สหรัฐฯหนุนทองต่อ ในประเทศปรับขึ้นตาม 150 บาท สัปดาห์หน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีผลต่อการปรับลด QE

เมื่อวานนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยประเด็นหลักที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังอยู่ที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐฯในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินเพื่อไม่ให้สหรัฐฯ ต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วนในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และประเด็นเรื่องการขยายเพดานหนี้ โดยสภาคองเกรสจะลงมติในวันเสาร์นี้

ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ที่ 1,339.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อคืนนี้(27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า สภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนิน

ทองเคลื่อนไหวกรอบแคบ ทิศทางยังขาลง คาดรอปัจจัยสนับสนุน ในประเทศวันนี้ลง 50 บาทตามตลาดต่างประเทศ

เมื่อวานนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และปิดตลาดลดลง จากรายงานตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาสดใสอีกทั้งรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี ที่ระดับ 305,000 ราย ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เป็นเหตุให้นักลงทุนลดความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลง เพราะกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประเด็นที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในการเร็ววันนี้

ส่วนรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายกลับลดลง ขณะที่การรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ครั้งสุดท้ายขยายตัวที่ระดับ 2.5% เท่ากับการประมาณการณ์ครั้งก่อนหน้า ซึ่งไม่ได้ช่วยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้