ราคาทองคําวันนี้

แนวโน้มทองคำขาลง รับรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯสดใส ในประเทศได้เงินบาทอ่อนพยุงไว้

ราคาทองคำปรับตัวลงในรอบสัปดาห์(28ต.ค.-1.พ.ย.)ที่ผ่านมาและถือเป็นการร่วงลงในรอบ 4 เดือน เหตุจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ตลาดกลับมาให้ความสนใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะตัดสินใจปรับลดมาตราการ QE ลงในเร็วๆ นี้

สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขานรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาสดใสช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจตัดสินใจลดมาตรการ QE ในปีนี้ เป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงตามแรงขายทำกำไร และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงทิศทางขาลงของทองคำอีกครั้ง

นอกจากนี้แล้ว ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB) อาจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อเดือนตุลาคม ในยูโรโซนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี

ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง กดดันทองคำโลกร่วงต่อ ในประเทศทองแท่ง ทองรูปพรรณ หลุด 20,000 ทั้งเดือนตุลาทองลง 150 บาท

ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(28ต.ค.-1พ.ย.) ผันผวนขึ้นลงตามรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และภาพรวมตลอดทั้งเดือนทองคำร่วงลงกว่า 0.3% แตะที่ระดับต่ำสุดที่ 1,323.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และระดับสูงสุดที่ 1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบกว้างๆ ที่ราว 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ช่วงต้นสัปดาห์อย่างตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนตุลาคม ออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์เป็นปัจจัยหนุนทองคำปรับขึ้นสูงประกอบกับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติดำเนินนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานต่อไป ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ทำให้ทองคำเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรหลังจากราคาปรับขึ้นสูง และกดดันทองคำให้ปรับตัวอ่อนลง ประกอบกับช่วงปลายสัปดาห์มีรายงานตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอ ค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ทองร่วงหนัก ข่าวเฟดลด QE กลับมาอีกครั้ง หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯสดใส หนุนดอลลาร์แข็ง ในประเทศลุ้นทองรูปพรรณหลุด 20,000

เมื่อวานนี้ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก หลังจากแถลงการณ์ภายหลังการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวในอัตราปานกลาง รวมถึงตลาดแรงงานก็มีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดังนั้นจึงทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะตัดสินใจลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ประกอบกับทองคำได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% พร้อมกับเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน รวมทั้งสกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐฯว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลง 10,0000 ราย อยู่ที่ระดับ 340,000 ราย โดยใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 339,000 ราย

ทองยังแกว่งตัวผันผวนไร้ทิศทาง และขึ้นลงตามรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในประเทศทองแท่งยังเกาะระดับ 19,750-19,850 เหนียวแน่น

ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวน จับทิศทางไม่ชัดเจน โดยก่อนการแถลงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ราคาปรับตัวสูงขึ้นและค่อยๆ ลดระดับลงมา และหลังจากถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าได้คงนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานต่อไป ก็เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ทองคำร่วงลงหลุดแนวรับสำคัญ

โดยผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตอนตีหนึ่งเมื่อคืนทีผ่านมา ระบุว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed funds rate)ที่ระดับต่ำสุด 0-0.25% และจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรต่อไป

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อย่าง ภาคตลาดแรงงาน โดย ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ