ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง50,550.0050,650.00
ทองรูปพรรณ49,633.8451,450.00
วันนี้ -5050
20 พฤษภาคม 2568เวลา 16:01 น.(ครั้งที่ 14)

ข่าววิเคราะห์ทอง


ทั้งสัปดาห์นี้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ $1,280-1,305 ในประเทศประเด็นการเมืองทำทองผันผวนผ่านเงินบาทแต่สรุปก็ยังคงที่


แนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้าภาพรวมของราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(19-23 พ.ค.)พบว่าราคาเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,280-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากปัจจัยหลักอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่มีรายงานตัวเลขสำคัญๆ ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวต่อทองคำมากนัก ประกอบกับประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนก็ยังคงมีแรงหนุนแต่ยังไม่มากพอให้ทองคำดีดตัวขึ้นได้มาก

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา(ศุกร์ 23) พบว่าทองคำตลาดนิวยอร์ค(COMEX) ปิดตลาดปรับลดลง 3.3 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเมษายนที่ออกมาดีเกินคาดและส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และก่อนหน้ารายงานดังกล่าวนี้ยังพบการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งได้ทำให้ถูกลดความน่าสนใจลง

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผย ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนเมษายน พุ่งสูงขึ้น 6.4% และทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน ที่ระดับ 433,000 ยูนิต และ

ทองร่วงจากหุ้นสหรัฐพุ่งดึงดูดกว่า หลังรายงานประชุมเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ภาพรวมยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อ ในประเทศจับตาเงินบาทผันผวน


แนวโน้มราคาทองวันนี้ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยรวมแล้วยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ถึงแม้ว่าระหว่างวันจะพบการเคลื่่อนไหวขึ้นลงผันผวน แต่ก็ยังไม่หลุดกรอบแนวรับแนวต้านสำคัญ คาดตลาดยังรอปัจจัยใหม่ๆ ชี้นำการเคลื่อนไหว ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมามีการรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดออกมา ซึ่งส่งผลกดดันต่อทองคำ

เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทย สหรัฐเปิดเผยรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ครั้งล่าสุด ซึ่งได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้ยืนยันเจตนารมณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟดคนก่อนที่ต้องการจะรักษาเสถียรภาพทางการเงินและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทองคำฉุดสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก(COMEX) ร่วงลง 6.5 ดอลลาร์ และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐหลังจากดัชนี

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ คาดรอปัจจัยใหม่ๆ ทองในประเทศเช้านี้ขึ้น 50 ส่วนเงินบาท ทรงตัวรอความชัดเจนทางการเมือง


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ภาพรวมของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่างแนวรับและแนวต้านทางเทคนิค เนื่องจากยังขาดปัจจัยชี้นำต่อการเคลือนไหว โดยเฉพาะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ของสหรัฐ รวมถึงประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบสัญญานส่อเค้าความตึงเครียดใดๆ จึงทำให้ราคาทองคำยังอยู่ในภาวะการเคลื่อนไหวทรงตัวต่อเนื่อง..

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าทองคำตลาด COMEX ปิดตลาดปรับตัวขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย 80 เซนต์ ที่ระดับ 1,294.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีรายงานจาก สภาทองคำโลก(WGC) ที่ระบุว่าความต้องการทองในช่วงไตรมาสแรกปีนี้(2557) ยังคงสดใสและใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(2556) โดยข้อมูลระบุว่าอุปสงค์ทองคำไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 1,074.5 ตัน

นอกจากนี้รายงานยังเปิดเผยว่า ความต้องการทองรูปพรรณเพิ่มขึ้นปานกลาง โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากจีน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาทองที่ปรับตัวลงเมื่อ

ทองคำแกว่งตัวขึ้นลงตามข่าวในกรอบระหว่าง $1,290-$1,310 ในประเทศบาทอ่อนจากพ.ร.บ.อัยการศึก เป็นบวกต่อทอง


แนวโน้มราคาทองคำในประเทศราคาทองคำเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นลงตามข่าวที่เข้ามา โดยระหว่างวันสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนเป็นแรงหนุนที่ทำให้ราคาดีดตัวขึ้นเหนือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ และกลับมาปิดตลาดลดลงจากระดับดังกล่าว แต่ยังสามารถปิดบวกขึ้นได้เล็กน้อยหลังการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

เมื่อวานนี้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยยังไม่มีประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญที่มีนัยยะต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมากนัก ในขณะที่มีความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาทอง โดยนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก ได้กล่าววานนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งได้ฉุดดอลลาร์ให้อ่อนแรงลง และหนุนราคาทองให้ดีดตัวขึ้น

นอกจากนี้ตลาดยังจับตาถ้อยแถลงจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก รวมถึงรายงานการประชุมนโยบายการเงินของ

ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ คาดรอปัจจัยใหม่ ในประเทศทองคงที่ตั้งแต่วันศุกร์ และเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ภาพรวมของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,290-1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนยังเป็นประเด็นหลักหนุนราคาทองคำหากสถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ส่วนปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำยังอยู่ที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง

หลังจากสัปดาห์ที่แล้วทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากประเด็นวิกฤิตการณ์ในยูเครนส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ตามทองคำสามารถดีดตัวขึ้นได้ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตลาดแรงงานที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาดรวมถึงข้อมูลตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์เช่นกัน ส่วนแนวโน้มตลาดทองคำนักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า ทิศทางของทองคำระยะกลางและระยะยาวยังอยู่ในภาวะขาลง ส่วนระยะสั้นอาจจะมีแรงบวกจากปัจจัยที่เหนื่อความคาดหมายอย่างประเด็นวิกฤติในยูเครนหรือความเสี่ยงจากวิกฤติการณ์ต่างๆ ได้

ทองปรับลง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสดใส ตามต่อสัปดาหน้าทั้งประเด็นวิกฤติยูเครน ในประเทศทั้งสัปดาห์คงที่จากสัปดาห์ก่อน


ราคาทองคำวันนี้ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้(12-17 พ.ค.) ค่อนข้างผันผวนตามข่าวที่เข้ามา โดยเฉพาะประเด็นความตึงเครียดสถานการณ์ในยูเครนยังเป็นปัจจัยบวกต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำ หากเมื่อใดที่สถานการณ์ส่อเค้ารุนแรงขึ้น ส่วนปัจจัยลบที่เข้ามากระทบกับทองคำประเด็กหลักก็อยู่ที่ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ทั้งตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับลดลงระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ก็ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาด COMEX ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสดใส โดยเฉพาะตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ในระดับ 13.2% แตะที่ 1.07 ล้านยูนิต ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 975,000 และการอนุญาตก่อสร้างปรับตัวขึ้น 8% จากเดือนก่อนหน้านี้ แตะที่ 1.08 ล้านยูนิต ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 และสูงกว่าคาดการณ์ที่ 1.01 ล้าน และก็ได้เพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้ความน่าลงทุนในทองคำที่ความน่าสนใจลดน้อยลง

ส่วนในสัปดาห์หน้า(19-23 พ.ค.) ยังคงต้องเกาะติดสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนต่อเนื่อง เพราะหากว่ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นคาดว่าจะส่งผลบวกให้ทองคำ

ทองร่วงกลับ หลังเศรษฐกิจสหรัฐดีเกินคาด แนวโน้มยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ในประเทศเช้านี้ลง 100 บาท


ราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 12 เหรียญ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดงต่ำสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ส่วนตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ทั่วไป ประจำเดือนเมษายนได้ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 เดือน

รายงานข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนนี้ ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วจะออกมาค่อนข้างไร้ทิศทาง แต่ด้วยข้อมูลที่สะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานซึ่งเป็นประเด็นหลักในการที่ธนาคารกลางสหรัฐจะนำไปใช้ประเมินมาตราการทางเศรษฐกิจ จึงทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษและจากรายงานที่ออกมาดีเกินคาด นักลงทุนจึงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงปรับลดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ปรับตัวลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 297,000 ราย และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 320,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐกำหนดไว้ที่ 2% โดยตัวเลขดังกล่าว

ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ $1,300 อีกครั้ง หลังยูเครนกลับมาตึงเครียดเพิ่มและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ค


แนวโน้มราคาทองเมื่อวานนี้ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง หลังมีรายงานข่าวที่สร้างความวิตกกังวลว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนอาจลุกลามจนเกิดเป็นสงครามกลางเมืองขึ้นได้ ประกอบกอบการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่่อคืนที่ผ่านมากว่า 101.47 จุด ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนวิตกกังวลต่อการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและหันมาซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง ร่วงลง 101.47 จุด หรือ -0.61% หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในเดือนเมษายน และทำสถิติขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 55 หรือในรอบ 1 ปีครึ่ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างติดตามรอดูข้อมูลด้านเงินเฟ้อเพิ่มเติมในคืนวันนี้ โดยสหรัฐมีกำหนดจะรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือนเมษายนในวันนี้ โดย